ความฝันกลายเป็นจริงเต็มตัวสำหรับ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ฟูลแบ็กดาวรุ่งพุ่งแรงของ ลิเวอร์พูล เมื่อเจ้าตัวเปิดใจถึงความรู้สึกสุดพิเศษหลังได้ลงเล่นให้กับสโมสรที่หลงรักมาตลอดชีวิต พร้อมตั้งเป้าทุ่มเททุกหยาดเหงื่อพา “หงส์แดง” ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในอนาคตอันใกล้
แบรดลี่ย์ ซึ่งเป็นแบ็กขวาทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วหลังไต่เต้ามาจากอะคาเดมี่ของสโมสรด้วยฝีเท้าที่เกินวัย แม้อายุเพียง 21 ปี แต่เจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งเกมรุกและเกมรับ สมกับความคาดหวังในการเป็นอะไหล่ชั้นดีให้กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งปัจจุบันกำลังเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บ
ในช่วงที่เทรนต์ต้องพักรักษาตัว แบรดลี่ย์ ฉวยโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจจนแฟนบอล “เดอะ ค็อป” พร้อมใจกันยกย่องว่านี่อาจเป็นอีกหนึ่งขุมกำลังสำคัญของ “หงส์แดง” ในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น ตัวนักเตะเองก็ประกาศชัดเจนว่าการได้รับโอกาสสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล ถือเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของเขา
“ผมเชียร์ลิเวอร์พูลมาตั้งแต่จำความได้” แบรดลี่ย์ เปิดใจด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “มันเป็นเหมือนฝันที่กลายเป็นจริง ทุกครั้งที่ได้สวมเสื้อลิเวอร์พูลลงสนาม มันคือช่วงเวลาที่พิเศษมากสำหรับผม และผมตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดในทุกนาทีที่ได้รับโอกาส”
เป้าหมายของเขานั้นชัดเจน นั่นคือการทำงานหนักต่อเนื่อง เพื่อช่วยสโมสรเก็บชัยชนะและนำถ้วยรางวัลกลับสู่แอนฟิลด์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ผมต้องการช่วยทีมคว้าแชมป์ ผมต้องการสร้างความภูมิใจให้กับแฟนบอลที่รักทีมนี้เหมือนกับผม” แบรดลี่ย์เสริมอย่างมุ่งมั่น
สำหรับการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ดาวเตะไอริชเหนือยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต “ถ้าเราคว้าแชมป์ได้ มันจะเป็นสิ่งที่พิเศษเกินบรรยาย เพราะมันไม่ใช่แค่การได้แชมป์ แต่คือการได้แชมป์กับทีมที่ผมรักมาตลอดชีวิต นี่คือสโมสรในฝันของผมจริงๆ”
ด้วยฟอร์มที่กำลังร้อนแรง บวกกับความรักในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล แบบหมดใจ ทำให้ชื่อของ แบรดลี่ย์ ถูกพูดถึงมากขึ้นในฐานะตัวแทนระยะยาว หากในช่วงซัมเมอร์นี้เกิดเหตุการณ์ที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์เพื่อไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวตามข่าวลือที่กระพืออย่างหนักในขณะนี้
ไม่ว่าจะอย่างไร ก้าวเดินของ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ บนเส้นทางลูกหนังกับ ลิเวอร์พูล เพิ่งจะเริ่มต้น และด้วยหัวใจที่เป็นสีแดงเพลิงอย่างแท้จริง ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเขามีศักยภาพที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งแอนฟิลด์ในอนาคต หากยังคงยืนหยัดด้วยความมุ่งมั่นเช่นนี้
ติดตามทุกก้าวความเคลื่อนไหวของว่าที่ว่าที่ขุนพลใหม่แห่งแอนฟิลด์ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
