
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เชลซี 1-0 เอฟเวอร์ตัน วันนี้ 26/4/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2025 เมื่อคืนที่ผ่านมา บ้านกีฬา พาเกาะติด ผลบอลสด จากสังเวียนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเจ้าถิ่น เชลซี เปิดบ้านรับมือ เอฟเวอร์ตัน ในเกมที่มีเดิมพันสำคัญต่อการไล่ล่าโควตาฟุตบอลยุโรป สุดท้ายเป็นสิงห์บลูส์ที่เฉือนชนะไปได้หวุดหวิด 1-0 จากประตูโทนของ นิโคลัส แจ็คสัน ช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มเต็มได้สำเร็จ พร้อมขยับทำแต้มกดดันพื้นที่ท็อปโฟร์ต่อไป
ครึ่งแรก เชลซีเป็นฝ่ายเดินหน้ากดดันได้มากกว่า แม้เอฟเวอร์ตันจะวางแผนรับลึกแต่ก็ต้านทานเกมบุกเจ้าถิ่นได้ไม่นาน นาทีที่ 27 สิงห์บลูส์ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะประสานงานสวย เอนโซ่ เฟร์นานเดซ จ่ายบอลถวายพานให้ นิโคลัส แจ็คสัน หลุดไปกดด้วยขวาไม่พลาด หลังได้ประตู เชลซียังครองบอลได้เหนือกว่า แต่ไม่สามารถบวกสกอร์เพิ่มได้จนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันพยายามปรับแผนบุกมากขึ้นเพื่อหวังตีเสมอ แต่แนวรับเชลซียังเล่นกันได้อย่างมีวินัย ขณะที่โอกาสของทั้งสองทีมมีไม่มากนัก เชลซีเองเน้นครองเกมรักษาสกอร์ ขณะที่ทอฟฟี่สีน้ำเงินแม้มีโอกาสสวนบ้างแต่ขาดความเฉียบคม จบเกม เชลซี เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปได้ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญต่อหน้ากองเชียร์ตัวเอง
รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
เชลซี (แผน 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ (8.0)
กองหลัง: มาร์ค คูคูเรญ่า (8.0), ลีวาย โคลวิลล์ (7.4), เทรฟโวห์ ชาโลบาห์ (7.3), มอยเซส ไกเซโด้ (7.6)
กองกลาง: โรเมโอ ลาเวีย (7.1), เอนโซ่ เฟร์นานเดซ (6.9), โคล พาล์มเมอร์ (7.1)
ตัวรุกริมเส้น: โนนี มาดูเอเก้ (7.8), เปโดร เนโต้ (7.0)
ศูนย์หน้า: นิโคลัส แจ็คสัน (7.0)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
- รีซ เจมส์ (6.7) แทน ลาเวีย นาที 67
- จาดอน ซานโช (6.6) แทน มาดูเอเก้ นาที 78
- คีร์แนน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ (ไม่มีคะแนน) แทน พาล์มเมอร์ นาที 90+1
- ไทริค จอร์จ (ไม่มีคะแนน) แทน แจ็คสัน นาที 90+1
เอฟเวอร์ตัน (แผน 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: จอร์แดน พิคฟอร์ด (7.6)
กองหลัง: นาธาน แพตเตอร์สัน (6.6), จาร์ราด แบรนท์เวต (7.1), เจมส์ การ์เนอร์ (6.6), วิตาลี่ มิโคเลนโก้ (6.8)
กองกลาง: เจมส์ โอไบรอัน (6.9), อิดริสซ่า เกย์ (7.0), อับดูลาย ดูกูเร่ (5.9)
ตัวรุกริมเส้น: แจ็ค แฮร์ริสัน (6.6), อมาดู เอ็นดิอาย (6.4)
ศูนย์หน้า: เบโต้ (5.9)
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
- คาร์ลอส อัลการาซ (6.9) แทน เอ็นดิอาย นาที 46
- ดไวท์ แม็คนีล (6.2) แทน แฮร์ริสัน นาที 63
- แอชลีย์ ยัง (6.5) แทน แพตเตอร์สัน นาที 64
- ยูสเซฟ แชร์มิตี (6.5) แทน เบโต้ นาที 64
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
จากการ วิเคราะห์บอล เกมนี้ ทั้งสองทีมมาในระบบ 4-2-3-1 คล้ายกัน แต่เชลซีเน้นการบุกที่ต่อบอลสั้นและเคลื่อนที่เร็ว มีการประสานงานที่แม่นยำมากกว่า โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่คูคูเรญ่าและมาดูเอเก้ป่วนได้ตลอด ขณะที่เอฟเวอร์ตันเน้นรับแล้วโต้กลับแต่ประสิทธิภาพในแดนหน้าค่อนข้างน้อย การเซ็ตเกมรับทำได้ดีในบางช่วงแต่โดนเจาะจนเสียประตูจากการประกบตัวผิดพลาดในเขตโทษ
เชลซีมีสถิติการครองบอล 55% และมีโอกาสยิงถึง 10 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันได้แค่ 6 ครั้ง บ่งบอกชัดเจนถึงรูปแบบการบุกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ส่วนการรับของเชลซีมีระเบียบวินัยสูง ลดโอกาสเสี่ยงได้ดีโดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่เอฟเวอร์ตันพยายามเร่งบุกหนัก
สถิติการแข่งขัน
เกมนี้ เชลซีครองบอลเหนือกว่า 55% ต่อ 45% ของเอฟเวอร์ตัน และสร้างสรรค์เกมบุกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ยิงรวม 10 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันมีโอกาสยิงแค่ 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง การผ่านบอลของเจ้าบ้านทำได้ถึง 506 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 85% เทียบกับฝั่งทอฟฟี่ที่ผ่านบอล 412 ครั้ง และความแม่นยำ 84% ทั้งสองทีมมีจำนวนฟาวล์เท่ากันที่ 11 ครั้ง ไม่มีใบเหลืองหรือใบแดงเกิดขึ้นในเกมนี้ โดยเชลซีได้เตะมุมถึง 10 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันได้แค่ 2 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 27′ [เชลซี] นิโคลัส แจ็คสัน ยิงประตูนำ 1-0 (แอสซิสต์: เอนโซ่ เฟร์นานเดซ)
🔁 46′ [เอฟเวอร์ตัน] คาร์ลอส อัลการาซ แทน อมาดู เอ็นดิอาย
🔁 63′ [เอฟเวอร์ตัน] ดไวท์ แม็คนีล แทน แจ็ค แฮร์ริสัน
🔁 64′ [เอฟเวอร์ตัน] แอชลีย์ ยัง แทน นาธาน แพตเตอร์สัน
🔁 64′ [เอฟเวอร์ตัน] ยูสเซฟ แชร์มิตี แทน เบโต้
🔁 67′ [เชลซี] รีซ เจมส์ แทน โรเมโอ ลาเวีย
🔁 78′ [เชลซี] จาดอน ซานโช แทน โนนี มาดูเอเก้
🔁 90+1′ [เชลซี] ไทริค จอร์จ แทน นิโคลัส แจ็คสัน
🔁 90+1′ [เชลซี] คีร์แนน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ แทน โคล พาล์มเมอร์
Player of the match
มาร์ค คูคูเรญ่า แบ็กซ้ายจอมบุกของเชลซีโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นทั้งรุกและรับ คุมเกมฝั่งซ้ายได้อยู่หมัด เติมเกมสนับสนุนมาดูเอเก้ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังมีส่วนสำคัญในการตัดเกมสวนกลับของเอฟเวอร์ตันหลายครั้ง รับคะแนนสูงสุดของเกมที่ 8.0
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้เชลซีเก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน เท่ากับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในอันดับ 6 แต่ลูกได้เสียน้อยกว่า อยู่อันดับ 5 อย่างเหนียวแน่น มีลุ้นโควตายูโรปาลีกเต็มตัว ส่วนเอฟเวอร์ตันยังคงอยู่ที่อันดับ 14 มี 38 คะแนนเท่ากับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ลูกได้เสียดีกว่าเพียงเล็กน้อย ยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้าย
การแข่งขันนัดถัดไป
โปรแกรม ตารางบอล นัดต่อไป เชลซีมีงานหนักทันที เพราะต้องเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ เวลา 22:30 น. ส่วนเอฟเวอร์ตันจะลงเล่นในบ้านพบกับอิปสวิช ทาวน์ ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 21:00 น. ต้องเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อลุ้นหนีตกชั้น
ติดตาม ผลบอลสด และ บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของโลกฟุตบอล! ติดตาม ผลบอลสด และอัปเดต บ้านผลบอล พร้อมบทวิเคราะห์เกมสุดมันส์ได้ตลอดเวลาที่ บ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวสารกีฬาสำหรับคอบอลตัวจริง