ในช่วงเวลาที่บรรยากาศแห่งความภาคภูมิใจของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกเขย่าอย่างหนักจากความสำเร็จของคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง ลิเวอร์พูล ตำนานแนวรับอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าปัจจุบัน “ปีศาจแดง” ยังเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่กว่า “หงส์แดง” แต่พร้อมเตือนว่าถ้าแมนยูยังคงตกต่ำไม่หยุด ขณะที่ลิเวอร์พูลเดินหน้ากวาดแชมป์อย่างต่อเนื่อง ภาพแห่งความยิ่งใหญ่ก็อาจเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า
ในการพูดคุยผ่านช่องยูทูบของตัวเอง ซึ่งมี ปีเตอร์ เคร้าช์ อดีตหัวหอกลิเวอร์พูลมาร่วมรายการ เฟอร์ดินานด์เปิดใจว่า แม้ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลล่าสุด ทำให้ยอดแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเพิ่มเป็น 20 สมัย เทียบเท่าแมนยูไนเต็ดได้สำเร็จ แต่หากมองในมุมของอิทธิพลระดับโลกแล้ว ปีศาจแดงยังคงเหนือกว่าชัดเจน
“พวกเขาคือหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ แต่ในแง่ของความยิ่งใหญ่ระดับโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังนำอยู่แบบไร้ข้อกังขา ไม่ว่าผมจะเดินทางไปที่ประเทศไหนในโลก ก็ยังเห็นแฟนบอลแมนยูไนเต็ดมากกว่าลิเวอร์พูลเสมอ” ริโอประกาศเสียงดังฟังชัด
อย่างไรก็ตาม อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษก็ไม่ประมาทสถานการณ์ พร้อมยอมรับว่าสถานการณ์สามารถพลิกผันได้ทุกเมื่อ ถ้าลิเวอร์พูลยังรักษามาตรฐานความสำเร็จเช่นนี้ต่อไปอีกในช่วง 10 ปีข้างหน้า และหากแมนยูไนเต็ดไม่เร่งยกระดับตัวเอง แฟนบอลรุ่นใหม่ซึ่งมักเลือกเชียร์ทีมที่ประสบความสำเร็จ ก็อาจหันไปหาหงส์แดงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความยิ่งใหญ่ของปีศาจแดงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เมื่อเคร้าช์ยิงคำถามตรงๆ ว่า เฟอร์ดินานด์กังวลกับสถานการณ์ปัจจุบันของสองสโมสรหรือไม่ อดีตกำแพงเหล็กผีแดงก็ตอบแบบไม่อ้อมค้อม “กังวลจนหัวจะไหม้อยู่แล้ว!” ริโอยอมรับเสียงดังฟังชัด ก่อนเสริมว่า “ตอนที่ผมยังเล่นอยู่ เราเหนือกว่าพวกเขาแบบขาดลอย ได้แชมป์ลีกมากมาย ได้ถ้วยรายการใหญ่ติดมืออยู่เสมอ เราไม่ใช่แค่เทียบเคียง เราแซงพวกเขาแบบไม่เห็นฝุ่น และผมมีส่วนร่วมในความสำเร็จนั้นด้วยซ้ำ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดๆ”
“แต่ตอนนี้ ผมต้องนั่งดูความสำเร็จนั้นค่อยๆ เลือนหายไปต่อหน้าต่อตา ลิเวอร์พูลในยุคนี้กลายเป็นทีมที่เก็บแชมป์ได้มากกว่าตั้งแต่ผมแขวนสตั๊ด นั่นคือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และเราจำเป็นต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา” ริโอทิ้งท้ายอย่างเจ็บปวด
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้แฟนบอลที่ติดตาม ผลบอลสด ต่างเห็นภาพชัดเจนว่า ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่รีบพลิกฟื้นตัวในเร็ววัน อำนาจลูกหนังที่พวกเขาครอบครองมายาวนานอาจตกเป็นของคู่อริตัวฉกาจในที่สุด
ติดตามทุกประเด็นร้อนในโลกฟุตบอล ข่าวด่วน ผลการแข่งขัน และบทวิเคราะห์เจาะลึกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ที่เดียวที่คุณไม่ควรพลาด!
