
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-2 เลสเตอร์ ซิตี้ วันนี้ 11/5/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2025 เมื่อค่ำคืนวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สนามซิตี้ กราวนด์ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เปิดบ้านต้อนรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมที่มีผลต่อโซนท้ายตารางและพื้นที่ยุโรปโดยตรง โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยการเสมอกันสุดมัน 2-2 ท่ามกลางเกมรุกที่ดุดันจากทั้งสองฝั่ง และเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่แฟน ๆ ติดตาม ผลบอลสด ต้องลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้าย เพราะต่างฝ่ายไม่มีใครยอมใครจริง ๆ
เริ่มเกมครึ่งแรก เลสเตอร์ออกนำไปก่อนจากจังหวะเตะมุมในนาทีที่ 16 คอเนอร์ โคอาดี้ ขึ้นโหม่งจมตาข่ายพา “จิ้งจอก” บุกนำ 1-0 ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นเงียบกริบ แต่เพียง 9 นาทีต่อมา ฟอเรสต์ก็มาได้ประตูตีเสมอจากความยอดเยี่ยมของ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ ที่จับบอลก่อนซัดสุดคมเข้าไปในนาทีที่ 25 เกมพลิกกลับมาเสมอ 1-1 และยังเปิดแลกกันอย่างสนุกตลอดครึ่งแรก โดยจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง ฟอเรสต์เปิดเกมรุกเต็มพิกัด และมาพลิกแซงเป็น 2-1 ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่กิ๊บส์-ไวท์ แทงทะลุให้ คริส วู้ด หลุดเข้าไปยิงแบบไม่พลาด จุดประกายความหวังของเจ้าถิ่น แต่แล้วในช่วงท้ายเกมนาที 81 แฟคุนโด้ บัวโนโนตเต้ ตัวสำรองของเลสเตอร์แผลงฤทธิ์ ซัดประตูตีเสมอ 2-2 อย่างเหลือเชื่อ ทำให้เกมนี้จบลงด้วยการแบ่งแต้มแบบสุดมัน ท่ามกลางเสียงถอนหายใจของแฟนบอลทั้งสองฝั่งที่ยังต้องลุ้นหนักใน 2 นัดสุดท้าย
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: มัทส์ เซลส์
กองหลัง: เนโก วิลเลี่ยมส์, เฟลิเป้ โมราโต้, นิโกล่า มิเลนโควิช, โอลา ไอน่า
กองกลางตัวรับ: อิบราฮิม ซ็องกาเร่ (ออก น.83), เอริค อันเดอร์สัน (ออก น.90)
แนวรุกตัวกลาง: มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ (กัปตันทีม)
ริมเส้น: แอนโธนี่ อีแลงก้า, นิโกลาส โดมิงเกซ (ออก น.74)
หน้าเป้า: คริส วู้ด
ตัวสำรองที่ลงสนาม: ไรอัน เยตส์, ไตโว อโวนิยี่, โจต้า ซิลวา
ผู้จัดการทีม: นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้
เลสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: ยาค็อบ สโตลาร์ซิค
กองหลัง: เจมส์ จัสติน, เว้าท์ ฟาส, คอเนอร์ โคอาดี้, ลุค โธมัส (ออก น.77)
กองกลางตัวรับ: โอลิเวอร์ สคิปป์ (ออก น.60), วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้
แนวรุกตัวกลาง: เจมี วาร์ดี้ (กัปตันทีม)
ริมเส้น: เคซี่ย์ แม็คอาเทียร์ (ออก น.77), จอร์แดน อายิว (ออก น.61), เบนจามิน คานูสส์ (ออก น.90)
ตัวสำรองที่ลงสนาม: บูบาการี่ ซูมาเร่, แฟคุนโด้ บัวโนโนตเต้, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น, เจเรมี มองกา, คาเล็บ โอโคลี
ผู้จัดการทีม: รุด ฟาน นิสเตลรอย
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
จากการ วิเคราะห์บอล เกมนี้ทั้งสองทีมต่างใช้ระบบ 4-2-3-1 แต่มีจุดเด่นแตกต่างกัน ฟอเรสต์ของ นูโน่ วางแผนเน้นการครองบอลเป็นหลัก (56%) มีมิดฟิลด์ที่ต่อบอลแม่นยำอย่าง อันเดอร์สัน และ ซ็องกาเร่ และใช้ความคล่องของกิ๊บส์-ไวท์ และอีแลงก้าในการเจาะแนวรับ ขณะที่เลสเตอร์ของนิสเตลรอยแม้จะครองบอลน้อยกว่า (44%) แต่เล่นเกมโต้กลับอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเติมของโคอาดี้ และการเปลี่ยนตัวบัวโนโนตเต้ที่ช่วยเติมมิติเกมรุก ความแข็งแกร่งทางเทคนิคของฟอเรสต์อยู่ที่การเคลื่อนที่ต่อบอล ส่วนเลสเตอร์อาศัยทีเด็ดเปลี่ยนตัวและเกมสวนกลับ
สถิติการแข่งขัน
ฟอเรสต์ครองบอลเหนือกว่าที่ 56% และผ่านบอล 433 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 84% ขณะที่เลสเตอร์ครองบอล 44% ผ่านบอล 347 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 79% ในแง่ของโอกาสจบสกอร์ ฟอเรสต์ยิงทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ส่วนเลสเตอร์ยิง 10 ครั้ง เข้ากรอบ 6 โอกาสทำประตูของทีมเยือนแม่นยำกว่า ขณะที่ทั้งสองทีมฟาวล์เท่ากัน 11 ครั้ง และได้รับใบเหลืองทีมละ 3 ใบ โดยไม่มีใบแดงแม้จะเล่นกันดุดันทั้งสองฝั่ง ลูกเตะมุมเท่ากันที่ 4-4 ถือว่าเกมนี้มีความสูสีทุกด้านอย่างแท้จริง
เหตุการณ์สำคัญในเกม
⚽ 16′ – เลสเตอร์นำ 0-1 จาก คอเนอร์ โคอาดี้ โขกเข้าไป
⚽ 25′ – ฟอเรสต์ตีเสมอ 1-1 จาก มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์
🟨 39′ – จัสติน โดนใบเหลือง
⏱️ 45+2′ – จบครึ่งแรก เสมอ 1-1
⚽ 56′ – ฟอเรสต์แซง 2-1 จาก คริส วู้ด ยิงจากการจ่ายของกิ๊บส์-ไวท์
🟨 58′ – ลุค โธมัส ฟาวล์
🔁 60′ – ซูมาเร่ ลงมาแทน สคิปป์
🔁 61′ – บัวโนโนตเต้ ลงมาแทน อายิว
🟨 60′ – โมราโต้ ฟาวล์ โดนใบเหลือง
🟨 69′ – ไอน่า โดนใบเหลือง
🟨 73′ – อันเดอร์สัน ฟาวล์ โดนใบเหลือง
🔁 74′ – เยตส์ ลงมาแทน โดมิงเกซ
🔁 77′ – คริสเตียนเซ่น แทน โธมัส, มองกา แทน แม็คอาเทียร์
⚽ 81′ – เลสเตอร์ตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงของ บัวโนโนตเต้
🔁 83′ – อโวนิยี่ ลงมาแทน ซ็องกาเร่
🔁 90′ – โจต้า ซิลวา แทน อันเดอร์สัน
🔁 90+1′ – โอโคลี ลงมาแทน คานูสส์
Player of the Match
เกมนี้ต้องยกให้ “มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์” เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมของเจ้าถิ่นที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยิง 1 แอสซิสต์ 1 และมีบทบาทสำคัญกับเกมรุกตลอดทั้งเกม ได้คะแนนสูงสุดที่ 8.3 จากการประเมิน อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่ช่วยทีมทั้งการจ่ายบอลและสร้างสรรค์โอกาสอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลเสมอนัดนี้ส่งผลให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เก็บเพิ่มเป็น 62 คะแนนจาก 36 นัด รั้งอันดับ 7 มีลุ้นโควตาบอลยุโรปแบบเข้มข้น ส่วนเลสเตอร์แม้จะตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม แต่ยังอยู่ในโซนตกชั้น อันดับ 19 มีเพียง 22 คะแนนเท่ากับอันดับ 18 อย่างอิปสวิช แต่มีประตูได้เสียดีกว่า 5 ลูก โดยต้องชนะรวดในสองเกมสุดท้ายพร้อมลุ้นผลทีมอื่นจึงจะมีโอกาสอยู่รอด
การแข่งขันนัดถัดไป
ใน ตารางบอล นัดถัดไป ฟอเรสต์จะบุกเยือนเวสต์แฮมในวันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 20:15 น. ก่อนจะปิดฤดูกาลด้วยเกมสำคัญเจอเชลซีในบ้าน ส่วนเลสเตอร์ยังมีภารกิจหนักต่อ โดยจะเปิดบ้านรับอิปสวิชในวันที่ 18 พฤษภาคม ต่อด้วยนัดเยือนบอร์นมัธในวันปิดฤดูกาล ซึ่งทั้งสองแมตช์จะชี้ชะตาชีวิตของ “จิ้งจอกสยาม” ว่าจะอยู่หรือร่วง
ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่ไม่อยากพลาดความเข้มข้นปลายฤดูกาลแบบนี้ ติดตาม บ้านผลบอล ได้ตลอดทั้งวัน พร้อมบทวิเคราะห์สุดเข้มจากทีมงานมืออาชีพได้ที่ บ้านกีฬา ที่นี่ที่เดียวที่คุณวางใจ!