
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 คริสตัล พาเลซ วันนี้ 11/5/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025 ค่ำคืนวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เปิดสนามต้อนรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนอย่างเด็ดขาด 2-0 จากผลงานสุดร้อนแรงของ เเบเรชี่ เอเซ่ ที่กดคนเดียวสองประตูในช่วงต้นและต้นครึ่งหลัง กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลต้องติดตาม ผลบอลสด อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คืออีกบทพิสูจน์ว่า พาเลซของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ยังอันตรายทุกจังหวะเมื่อได้พื้นที่เล่น
เกมในครึ่งแรก สเปอร์สแม้จะเป็นฝ่ายครองบอลได้บ้าง แต่กลับไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมเยือนได้เลย พาเลซจัดระเบียบเกมรับแน่นหนาและรอโอกาสสวนกลับอย่างใจเย็น จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 45 แดเนียล มูญอซ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ และเป็น เอเซ่ ที่หลุดตัวประกบก่อนแปเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งทีมเยือนออกนำ 1-0 และหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
เข้าสู่ครึ่งหลัง สเปอร์สพยายามแก้เกมโดยส่ง ซน ฮึง-มิน ลงสนาม แต่ยังไม่ทันตั้งตัวดี นาทีที่ 48 เจฟเฟอร์สัน เลร์มา วางบอลยาวทะลุช่องให้เอเซ่สปีดหนีแนวรับเข้าไปซัดประตูที่สองของตัวเองอย่างเหนือชั้น กลายเป็น 2-0 และแม้เจ้าถิ่นจะมีโอกาสบ้างแต่ก็ไม่คมพอ ขณะที่พาเลซครองเกมอย่างมั่นใจและคุมจังหวะได้จนจบเกม ชนิดที่ อันเจ้ โปสเตโกกลู ต้องกุมขมับกับความพ่ายแพ้อีกนัดในบ้านตัวเอง
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ระบบ 4-3-3)
ผู้รักษาประตู: อันโตนิน คินสกี้
กองหลัง: เปโดร ปอร์โร่ (ออก น.58), เควิน ดันโซ, เบน เดวี่ส์, ดีเจด สเปนซ์
กองกลาง: โรดริโก้ เบนตานกูร์ (กัปตัน, ออก น.46), พาเป้ ซาร์, เดยัน คูลูเซฟสกี้ (ออก น.19)
แนวรุก: อัลฟี่ เกรย์, มาเธอุส เตล, เวอร์เนอร์ โอโดแบร์
ตัวสำรองที่ลงสนาม: ไมกี้ มัวร์, อีฟส์ บิสซูม่า, ซน ฮึง-มิน
ผู้จัดการทีม: อันเจ้ โปสเตโกกลู
คริสตัล พาเลซ (ระบบ 3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: ดีน เฮนเดอร์สัน
กองหลัง: คริส ริชาร์ดส์, แม็กซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี (กัปตันทีม)
วิงแบ็ก: แดเนียล มูญอซ, ไทริค มิตเชลล์ (ออก น.61)
กองกลาง: วิลล์ ฮิวจ์ส (ออก น.87), เจฟเฟอร์สัน เลร์มา (ออก น.61)
มิดฟิลด์ตัวรุก: อิบราฮิม ซาร์ (ออก น.78), เเบเรชี่ เอเซ่
หน้าเป้า: ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (ออก น.60)
ตัวสำรองที่ลงสนาม: เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์, เบน ชิลเวลล์, ไดจิ คามาดะ, โรแม็ง เอสส์, จัสติน เดเวนนี่
ผู้จัดการทีม: โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เมื่อมองจากมุม วิเคราะห์บอล เกมนี้ถือเป็นการตัดกันชัดเจนระหว่างการครองบอลกับการใช้โอกาสอย่างชาญฉลาด สเปอร์สแม้จะมีบอลครองมากถึง 47% และจ่ายบอลกว่า 364 ครั้ง แต่คุณภาพของการจบสกอร์กลับต่ำ ยิงเข้ากรอบแค่หนึ่งครั้ง ขณะที่พาเลซเลือกเล่นในระบบ 3-4-2-1 ที่เน้นความแน่นของเกมรับก่อนเปิดโอกาสให้เอเซ่และซาร์ได้เล่นเกมสวนกลับ ซึ่งได้ผลอย่างมากในจังหวะขึ้นเกมทางด้านข้างและการวางบอลยาว พาเลซสามารถยิงได้ถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 10 เป็นตัวบ่งชี้ถึงการเล่นที่มีเป้าหมายชัดเจน เกมรับของพาเลซนั้นลงตัวและไม่มีความผิดพลาดแบบไร้เหตุผลให้เห็นเลยตลอด 90 นาที
สถิติการแข่งขัน
ในเกมนี้ คริสตัล พาเลซทำผลงานได้เหนือกว่าทุกด้าน โดยครองบอล 53% เทียบกับสเปอร์ส 47% และผ่านบอลมากกว่าที่ 404 ครั้ง เทียบกับเจ้าถิ่น 364 ครั้ง อีกทั้งมีความแม่นยำในการจ่ายบอลถึง 82% ส่วนสเปอร์สอยู่ที่ 76% แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือจำนวนโอกาสยิง พาเลซยิง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 10 ขณะที่สเปอร์สได้เพียง 8 ครั้ง และเข้ากรอบแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ลูกเตะมุมก็เป็นของพาเลซถึง 8 ครั้ง ขณะที่สเปอร์สได้แค่ 4 ขณะที่ใบเหลืองเกิดขึ้นฝั่งละใบ และไม่มีใบแดงในเกมที่เต็มไปด้วยความดุดันแต่ควบคุมได้ดี
เหตุการณ์สำคัญในเกม
⚽ 10′ – อิบราฮิม ซาร์ ยิงเข้าแต่ VAR ยกเลิกประตู
🔁 19′ – ไมกี้ มัวร์ ลงแทน คูลูเซฟสกี้
🟨 37′ – โรดริโก้ เบนตานกูร์ ฟาวล์ โดนใบเหลือง
⚽ 45′ – เอเบเรชี่ เอเซ่ ซัดประตูให้พาเลซนำ 0-1
🔁 46′ – บิสซูม่า ลงแทน เบนตานกูร์
⚽ 48′ – พาเลซหนีห่าง 0-2 เอเซ่ ยิงประตูที่สองจากจังหวะสวนกลับ
🟨 47′ – เลร์มา โดนใบเหลืองจากการโต้เถียง
🔁 58′ – ซน ฮึง-มิน ลงแทน ปอร์โร่
🔁 60′ – เอ็นเคเทียห์ ลงแทน มาเตต้า
🔁 61′ – คามาดะ ลงแทน เลร์มา, ชิลเวลล์ ลงแทน มิตเชลล์
🔁 78′ – เอสส์ ลงแทน ซาร์
🔁 87′ – เดเวนนี่ ลงแทน ฮิวจ์ส
Player of the Match
พระเอกของเกมนี้ไม่มีใครอื่นนอกจาก “เอเบเรชี่ เอเซ่” มิดฟิลด์ตัวรุกของพาเลซ ที่แสดงคลาสระดับเวิลด์คลาสด้วยการยิงสองประตูสุดเฉียบทั้งในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก และจังหวะโต้กลับต้นครึ่งหลัง พร้อมเรตติ้งสูงสุด 9.0 จากบทบาทที่โดดเด่นตลอดเกม เป็นคนสร้างความแตกต่างให้ทีมเยือนได้อย่างแท้จริง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ คริสตัล พาเลซ ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 12 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 49 คะแนนจาก 36 นัด ยังมีลุ้นจบครึ่งบนของตาราง ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ฟอร์มดิ่งต่อเนื่อง แพ้อีกครั้งจนหล่นไปอยู่อันดับ 17 มีเพียง 38 คะแนนจาก 36 นัด ยังเสี่ยงต่อการตกชั้นหากไม่เร่งฟอร์มใน 2 เกมสุดท้าย และต้องลุ้นให้คู่แข่งไม่เร่งทำแต้มแซง
การแข่งขันนัดถัดไป
ตาม ตารางบอล นัดต่อไป พาเลซจะมีศึกใหญ่ในฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 17 พฤษภาคม เวลา 22:30 น. ก่อนจะกลับมาเตะลีกกับวูล์ฟส์ในวันที่ 21 พฤษภาคม ขณะที่สเปอร์สมีคิวออกไปเยือน แอสตัน วิลล่า วันที่ 17 พฤษภาคม เวลา 01:30 น. และปิดฤดูกาลด้วยศึกยูโรปาลีกพบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแมตช์ตัดสินชะตาฤดูกาลอย่างแท้จริง
ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
คอบอลห้ามพลาดทุกเกมโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ติดตาม บ้านผลบอล และบทวิเคราะห์ฟุตบอลแบบเจาะลึกจากบ้านกีฬา พร้อมอัปเดตโปรแกรม ตารางคะแนน และสถิติเกมสดแบบจัดเต็มทุกวัน!