
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 เชลซี วันนี้ 11/5/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2025 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อคืนวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “สิงห์บลู” เชลซี ในเกมที่มีผลอย่างยิ่งต่อการลุ้นอันดับในพื้นที่ยุโรป โดยผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 2-0 พร้อมกับใบแดงของ นิโกลัส แจ็คสัน ที่ทำให้เชลซีต้องเล่น 10 คนเกือบตลอดทั้งเกม ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ บ้านกีฬา ขอยกให้แฟนบอลติดตาม ผลบอลสด อย่างใกล้ชิดเพราะเต็มไปด้วยจังหวะร้อนแรงและความดุดันตลอด 90 นาที
เปิดฉากครึ่งแรกได้เพียง 2 นาทีเท่านั้น นิวคาสเซิ่ลก็ออกนำอย่างรวดเร็วจากลูกยิงของ ซานโดร โตนาลี่ ที่เติมขึ้นมายิงเน้น ๆ ส่งบอลตุงตาข่ายกลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ช็อกแนวรับของเชลซีอย่างรวดเร็ว แม้เชลซีจะพยายามครองบอลมากกว่าด้วยสัดส่วนการครองบอล 56% และพยายามเจาะแนวรับเจ้าบ้านหลายครั้ง แต่ในนาทีที่ 34 นิโกลัส แจ็คสัน โดนใบเหลือง และเพียงสองนาทีถัดมาเขาเจอใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมเยือนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากตั้งแต่นาทีที่ 36 ของเกม ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0
ครึ่งหลังแม้เชลซีจะยังพยายามเดินเกมรุกโดยเปลี่ยนตัวหลายตำแหน่งเพื่อเร่งจังหวะ แต่ด้วยการมีนักเตะน้อยกว่าทำให้แทบเจาะแนวรับของนิวคาสเซิ่ลไม่ได้เลย ขณะที่เจ้าบ้านเล่นด้วยความมั่นใจและมีโอกาสสวนกลับอันตรายหลายครั้ง กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+1 บรูโน่ กีมาไรส์ ยิงปิดกล่องให้ทีมออกนำ 2-0 แบบสุดเฉียบ จบเกม “สาลิกาดง” คว้า 3 คะแนนสำคัญ พร้อมขยับขึ้นอันดับ 3 ของตารางอย่างสง่างาม
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ระบบ 3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: นิค โป๊ป
กองหลัง: ฟาเบียน ชาร์, สเวน บ็อตแมน (ออก น.55), แดน เบิร์น
วิงแบ็ก: เจค็อบ เมอร์ฟี่, วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้
กองกลาง: บรูโน่ กีมาไรส์ (ออก น.90+1), ซานโดร โตนาลี่
ตัวรุก: แอนโธนี่ กอร์ดอน (ออก น.65), ฮาร์วีย์ บาร์นส์
หน้าเป้า: อเล็กซานเดอร์ อิซัค (ออก น.90+1)
ตัวสำรองที่ลงสนาม: ลูอิส ไมลีย์, เอมิล คราฟธ์, คัลลัม วิลสัน, ฌอน ลองสตาฟฟ์
ผู้จัดการทีม: เอ็ดดี้ ฮาว
เชลซี (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ
กองหลัง: มาร์ค กูกูเรญ่า, เลวี่ โคลวิลล์, เทรโวห์ ชาโลบาห์ (ออก น.75), มอยเซส ไกเซโด้
มิดฟิลด์: เอนโซ่ เฟร์นานเดซ, โรเมโอ ลาเวีย (ออก น.75)
ตัวรุก: โคล พาล์เมอร์, โนนี่ มาดูเอเก้ (ออก น.46), เปโดร เนโต้
หน้าเป้า: นิโกลัส แจ็คสัน (ใบแดง น.36)
ตัวสำรองที่ลงสนาม: รีซ เจมส์, มาล็อก กุสโต้, จาดอน ซานโช
ผู้จัดการทีม: เอนโซ่ มาเรสก้า
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้นิวคาสเซิ่ลยืนระบบ 3-4-2-1 ที่เน้นการเติมเกมจากวิงแบ็กและมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยเฉพาะ โตนาลี่ กับ กีมาไรส์ ที่เป็นหัวใจของทีมในเกมรุกและเกมรับ พร้อมกับการใช้ความเร็วของกอร์ดอนและบาร์นส์เจาะแนวรับจากด้านข้าง การตั้งรับด้วยสามเซ็นเตอร์ช่วยลดช่องโหว่ในเขตโทษ และปิดเกมสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเชลซีในระบบ 4-2-3-1 แม้จะเน้นการครองบอลและจ่ายบอลแม่นกว่า (87% เทียบกับ 84%) แต่กลับขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย พวกเขาเสียเปรียบตั้งแต่มีใบแดง และแผนที่เน้นจังหวะเกมรุกจึงถูกตัดทอนทันที ความผิดพลาดของแนวรับยังทำให้การ วิเคราะห์บอล เกมนี้ชี้ชัดว่า นิวคาสเซิ่ลมีความแน่นอนทั้งรุกและรับเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
สถิติการแข่งขัน
แม้เชลซีจะครองบอลมากกว่า 56% และผ่านบอลได้มากถึง 501 ครั้ง พร้อมความแม่นยำในการจ่ายบอลถึง 87% แต่พวกเขายิงตรงกรอบได้เพียง 3 ครั้งจาก 10 หน ขณะที่นิวคาสเซิ่ลที่ครองบอลน้อยกว่า (44%) แต่จบสกอร์อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการยิงตรงกรอบ 6 ครั้งจากทั้งหมด 15 ครั้ง นอกจากนี้ ยังเห็นความแตกต่างในการเล่นลูกตั้งเตะ โดยเชลซีได้เตะมุมถึง 8 ครั้ง ขณะที่นิวคาสเซิ่ลมีเพียง 2 ครั้ง แต่กลับสร้างโอกาสชัดเจนได้ดีกว่า
เหตุการณ์สำคัญในเกม
⚽ 2′ – นิวคาสเซิ่ลขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงของ ซานโดร โตนาลี่
🟥 36′ – นิโกลัส แจ็คสัน โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง ไล่ออกจากสนาม
🟨 45+5′ – เอนโซ่ เฟร์นานเดซ โดนใบเหลืองจากการโต้เถียง
🔁 46′ – เชลซีเปลี่ยนตัว มาดูเอเก้ ออก ให้ รีซ เจมส์ ลงสนาม
🟨 53′ – ฟาเบียน ชาร์ ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
🔁 55′ – นิวคาสเซิ่ลเปลี่ยน บ็อตแมน ออก ส่ง ลูอิส ไมลีย์ ลง
🟨 64′ – เมอร์ฟี่ โดนใบเหลืองข้อหาเตะถ่วงเวลา
🔁 65′ – คราฟธ์ ลงสนามแทน กอร์ดอน
🔁 75′ – เชลซีเปลี่ยนลิเวอร์พูล 2 ราย ส่ง กุสโต้ กับ ซานโช แทน ลาเวีย และ ชาโลบาห์
🟨 84′ – กีมาไรส์ โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์
🟨 89′ – คราฟธ์ โต้เถียง โดนใบเหลือง
⚽ 90+1′ – บรูโน่ กีมาไรส์ ยิงปิดเกมให้ นิวคาสเซิ่ลชนะ 2-0
🔁 90+1′ – ลองสตาฟฟ์ และ วิลสัน ลงแทน กีมาไรส์ และ อิซัค
Player of the Match
ซานโดร โตนาลี่ คือยอดนักเตะของเกมนี้ เขาคุมจังหวะเกมแดนกลางได้อย่างเด็ดขาด เป็นผู้เปิดสกอร์ในนาทีที่ 2 พร้อมโชว์ความนิ่งและคลาสในทุกจังหวะการเล่น ได้คะแนนสูงสุดที่ 8.0 จากการประเมินฟอร์มโดยรวม เรียกได้ว่าเป็นฟันเฟืองหลักของชัยชนะในเกมนี้ของนิวคาสเซิ่ลอย่างแท้จริง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ส่งผลให้ นิวคาสเซิ่ล ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 66 คะแนนจาก 36 นัด ทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ 1 แต้ม และมีโอกาสจบท็อปโฟร์สูง ขณะที่ เชลซี แม้จะอยู่อันดับ 5 ร่วมกับ แอสตัน วิลล่า ที่มี 63 คะแนนเท่ากัน แต่การแพ้นัดนี้ทำให้พวกเขาเสียโอกาสขึ้นไปจี้อันดับ 4 และต้องลุ้นหนักในสองเกมสุดท้ายเพื่อการันตีโควตายุโรป
การแข่งขันนัดถัดไป
จากตาราง ตารางบอล พรีเมียร์ลีก 2025 โปรแกรมถัดไปของนิวคาสเซิ่ล คือบุกเยือน อาร์เซน่อล ในวันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 22:30 น. ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ในวันสุดท้ายของฤดูกาล ส่วนเชลซีมีโปรแกรมหนักไม่แพ้กัน โดยจะเปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันที่ 17 พฤษภาคม ก่อนจะปิดฤดูกาลด้วยเกมเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 25 พฤษภาคม
ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่ไม่อยากพลาดทุกจังหวะของเกมสุดเข้มข้นแบบนี้ ติดตาม บ้านผลบอล และบทวิเคราะห์เจาะลึกทุกแมตช์ได้ที่ บ้านกีฬา อัปเดตเรียลไทม์ ครบทุกลีก ทันทุกเหตุการณ์เดือดแบบมืออาชีพ!