นี่คือเรื่องราวสุดเจ็บแสบของ 4 สโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เคยมีโอกาสได้ตัว หลุยส์ เอ็นรีเก้ มานั่งแท่นกุนซือ แต่กลับปล่อยให้หลุดมือไปแบบน่าเสียดาย — และสิ่งที่ยิ่งตอกย้ำความผิดพลาดก็คือ เขาคือคนที่เพิ่งพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการคว้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกของสโมสร พร้อมคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ แบบสะท้านวงการ!
หลังนำ เปแอสเช ไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ขาดลอย 5-0 ในรอบชิงชนะเลิศ UCL ฤดูกาลล่าสุด เอ็นรีเก้ กลายเป็นกุนซือคนที่สองในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ที่พาทีมต่างสโมสรคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ต่อจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อนร่วมชาติชาวสเปน นับว่าเป็นผลงานที่ยากจะหาใครเทียบได้ในยุคนี้
แต่ใครจะรู้ว่าอดีตเทรนเนอร์ของ บาร์เซโลน่า รายนี้ เคยตกเป็นเป้าหมายของ 4 ทีมยักษ์พรีเมียร์ลีก ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส ทว่าไม่มีทีมใดคว้าตัวเขาไปได้จริง!
สเปอร์ส – โอกาสทองที่ปล่อยทิ้งกลางอากาศ
เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากเอ็นรีเก้ลาทีมชาติสเปนจากผลงานตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เขาพร้อมกลับมารับงานคุมทีมในระดับสโมสร โดยมีเป้าหมายหลักคือ พรีเมียร์ลีก
ช่วงนั้น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กำลังพิจารณาแยกทางกับ อันโตนิโอ คอนเต้ และมีรายงานชัดเจนว่า เอ็นรีเก้เปิดรับข้อเสนอจาก “ไก่เดือยทอง” อย่างจริงจัง แต่สุดท้าย ดาเนียล เลวี่ และบอร์ดบริหารกลับตัดสินใจเบนเข็มไปเลือกใช้บริการของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู แทน ส่งผลให้สเปอร์สชวดโค้ชระดับโลกอย่างน่าเสียดาย
อาร์เซน่อล – ปืนใหญ่ที่ไม่กล้ายิง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นอีกในปี 2018 หลังการอำลาของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ครองบังเหียน อาร์เซน่อล มาอย่างยาวนาน สโมสรพิจารณาหลายชื่อ และหนึ่งในนั้นคือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ซึ่งในตอนนั้นว่างงานหลังแยกทางกับ บาร์เซโลน่า มาแล้ว 1 ปี
แม้มีรายงานว่าเดลี่ เมล เผยการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น แต่สุดท้าย อาร์เซน่อลถอยออกจากดีล เพราะติดปัญหาเรื่องค่าจ้างที่เอ็นรีเก้เรียกร้องสูงเกินกว่า เวนเกอร์ เคยได้รับ ซึ่งไม่สอดคล้องกับโครงสร้างการเงินที่สโมสรวางไว้ แม้ท้ายที่สุดพวกเขาจะยังเลือกผู้จัดการทีมเชื้อสายสแปนิชเหมือนเดิม แต่กว่าจะมาลงตัวกับ มิเกล อาร์เตต้า ก็ต้องผ่านยุคของ อูไน เอเมรี่ เสียก่อน
เชลซี – ความลังเลที่แลกมาด้วยความล้มเหลว
ในซัมเมอร์ปี 2023 หลังจากผลงานอันน่าผิดหวังในยุค ท็อดด์ โบลี่ ที่ เชลซี จบอันดับ 12 ของลีกและเก็บได้แค่ 44 แต้ม สโมสรจำเป็นต้องหาผู้จัดการทีมคนใหม่อีกครั้งหลังสิ้นสุดยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด
ชื่อของ เอ็นรีเก้ โผล่มาในลิสต์ตัวเลือก แต่สุดท้ายก็ถูกขีดฆ่าทิ้งก่อนจะเลือก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มารับไม้ต่อแทน ซึ่งผลลัพธ์ก็ยังไม่ดีพอ เพราะ “สิงห์บลูส์” จบอันดับ 6 และพลาดโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกตามเคย นักข่าวดังอย่าง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ยืนยันว่า เชลซีตัดสินใจไม่เอาเอ็นรีเก้ไปตั้งแต่เนิ่นๆ และไม่มีเหตุผลชัดเจนใดที่เปิดเผยสู่สาธารณะ มีเพียงคำพูดจากตำนานมิดฟิลด์อย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ ที่บอกว่า “แนวทางของเขาอาจไม่เหมาะกับความเร็วของพรีเมียร์ลีก”
แมนฯ ยูไนเต็ด – ความลังเลที่อาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะไม่เคยมีการเจรจาอย่างเป็นทางการในยุคที่ เอ็นรีเก้ว่างงานในปี 2023 เนื่องจาก เอริค เทน ฮาก เพิ่งเข้ารับงานได้ไม่นานและเริ่มต้นได้ดี แต่หากมองย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2021 ช่วงที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกปลดจากตำแหน่ง เอ็นรีเก้เคยมีชื่อเชื่อมโยงกับทีม “ปีศาจแดง” อยู่เหมือนกัน
ร็อบ ดอร์เซ็ตต์ จาก Sky Sports เคยเผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชื่นชอบในสไตล์การทำทีมของเขา ทว่าในตอนนั้น เอ็นรีเก้ยังไม่พร้อมย้าย เนื่องจากยังมีภารกิจคุมทีมชาติสเปนลุยฟุตบอลโลก ทำให้โอกาสหลุดลอยไปอีกครั้ง
บทสรุป – จากคนที่ถูกเมิน สู่ผู้สร้างตำนาน
การที่ หลุยส์ เอ็นรีเก้ สร้างประวัติศาสตร์พา เปแอสเช ซิวแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรก พร้อมพ่วงทริปเปิ้ลแชมป์ กลายเป็นเหมือนการตบหน้าทุกทีมที่เคยปฏิเสธเขาในอดีต โดยเฉพาะ 4 ยักษ์พรีเมียร์ลีกที่ปล่อยให้โค้ชระดับเวิลด์คลาสหลุดลอยไปแบบไม่ใยดี
และหากวันหนึ่งเขาย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกจริงๆ บางทีสิ่งที่หลายสโมสรเคยมองข้าม อาจย้อนกลับมาเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว
อย่าลืมติดตามข่าวสารลึกวงการฟุตบอลแบบจัดเต็มได้ที่ บ้านกีฬา!
