เชลซี เดินหน้าเก็บชัยต่อเนื่องในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังบุกเชือด ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แบบเฉียบขาด 1-0 จากประตูโทนของ เจา เปโดร ส่งผลให้ “สิงห์บลูส์” ขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ของตาราง มีแต้มเท่ากับคู่ปรับร่วมเมืองในศึกดาร์บี้แมตช์แห่งลอนดอน เกมนี้กลายเป็นการตอกย้ำความเหนือชั้นของเชลซีที่ยังคงรักษาสถิติสุดโหด ชนะสเปอร์สที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียมได้ถึง 5 นัดติดต่อกัน
⚽ เกมพลิกเพราะจังหวะเดียว “ไก่” แจกของขวัญเอง
ก่อนเกมนี้ สเปอร์ส มีโอกาสทองที่จะขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของลีก หากคว้าชัยเหนือเชลซีได้ แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พวกเขากลับเล่นผิดพลาดให้คู่แข่งลงโทษอย่างเจ็บปวด นาทีที่ 34 กลายเป็นจังหวะเปลี่ยนเกม เมื่อแนวรับเจ้าถิ่นเล่นบอลกันพลาดระหว่าง ซาบี ซิมอนส์ กับ มิคกี้ ฟาน เดอ เวน บอลเลยไปถึง มอยเซส ไกเซโด้ ที่ไหวตัวไว ตัดบอลได้ก่อนจ่ายถวายพานให้ เจา เปโดร ยิงจ่อ ๆ ไม่เหลือ
จากนั้นทั้งสนามเริ่มเต็มไปด้วยความกดดัน เสียงบ่นจากแฟนบอล “ไก่เดือยทอง” ดังระงมทุกครั้งที่บอลหลุดเท้าเจ้าถิ่น ขณะที่เชลซีเกือบหนีห่างจากลูกวอลเลย์ของเจา เปโดร แต่ กูลิแอลโม่ วีคาริโอ นายทวารสเปอร์สปัดออกได้หวุดหวิด
🔥 ครึ่งหลังเดือด เชลซีคุมเกมเหนือกว่า
ช่วงครึ่งหลังสถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นสำหรับเจ้าบ้านเลย แม้ โธมัส แฟรงค์ จะพยายามเร่งจังหวะเกม แต่แนวรุกของสเปอร์สกลับขาดความเฉียบคม โอกาสดีที่สุดมาจากจังหวะยิงของ โรดริโก้ เบนตานกูร์ ที่เกือบฉกบอลยาวเข้าไปได้ แต่ถูกบล็อกไว้ได้ทัน
ตรงข้ามกับ เชลซี ที่เล่นอย่างมั่นใจมากขึ้น เกมแดนกลางคุมโดย เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ และ รีซ เจมส์ ซึ่งถูกจับยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ช่วยให้ “สิงห์บลูส์” ควบคุมจังหวะและเปิดเกมสวนกลับได้อย่างดุดัน โดยเฉพาะ เปโดร เนโต้ ที่ป่วนแนวรับสเปอร์สตลอดครึ่งหลัง
หากไม่ใช่เพราะการเซฟสุดหนึบของวีคาริโอ เชลซีอาจชนะขาดถึง 2-3 ลูกด้วยซ้ำ ขณะที่แฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มส่งเสียงโห่หนักเมื่อหมดเวลา เพราะทีมรักยังไม่สามารถหาชัยในบ้านได้ตามที่หวัง
🧤 สเปอร์สแพ้เพราะตัวเอง – ฟอร์มเหย้าอันตรายอีกครั้ง
ฤดูกาลนี้ฟอร์มของ สเปอร์ส เหมือนมีสองหน้า — เล่นเกมเยือนดีเหลือเชื่อ แต่กลับทำผลงานในบ้านได้อย่างน่าผิดหวัง และเกมนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน เจ้าถิ่นออกสตาร์ตช้า แถมเสียบอลง่ายในแดนหลังจนถูกลงโทษ
ความผิดพลาดจากแนวรับที่ไม่เข้าใจกัน ทำให้ความมั่นใจของทั้งทีมพังทลาย และแม้จะพยายามเปิดเกมรุกในช่วงท้าย แต่ก็แทบไม่มีจังหวะจบสกอร์ที่ชัดเจน สุดท้ายจบเกมด้วยความผิดหวังต่อหน้าแฟน ๆ อีกครั้ง ส่งผลให้พวกเขายังอยู่ในอันดับ 4 ของตาราง โดยมีแต้มเท่ากับเชลซีแต่ลูกได้เสียดีกว่าเล็กน้อย
💪 ไกเซโด้โชว์ของ – สิงห์บลูส์มั่นใจเต็มสูบ
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการตอบคำถามทุกเสียงวิจารณ์ของ “สิงห์บลูส์” ที่เริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีนัก และเพิ่งเฉือนชนะวูล์ฟส์แบบหืดจับในถ้วยลีกคัพก่อนหน้านี้ เกมนี้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ปรับหมากได้อย่างเฉียบขาด โดยใช้รีซ เจมส์คุมเกมกลางสนามคู่กับ มอยเซส ไกเซโด้ ที่โชว์ฟอร์มสุดแกร่ง ทั้งตัดเกมและสร้างจังหวะได้ดี
ลูกแอสซิสต์ของไกเซโด้ที่พาไปสู่ประตูชัยแสดงให้เห็นถึงการอ่านเกมที่เฉียบคมและการตัดสินใจที่เด็ดขาด เขาคือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตพร้อมสามแต้มเต็มอย่างเหนือชั้น
เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “วันนี้เราคอนโทรลเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนทำตามแท็กติกที่วางไว้ มันคือชัยชนะที่คู่ควรสำหรับเรา”
🏟️ โปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีม
จากภาพรวมโปรแกรม พรีเมียร์ลีก ที่กำลังเข้มข้น ทั้งสองทีมมีคิวฟาดแข้งสุดโหดในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
- 8 พฤศจิกายน พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
- 23 พฤศจิกายน เยือน อาร์เซน่อล
- 29 พฤศจิกายน เปิดบ้านเจอ ฟูแล่ม
- 2 ธันวาคม เยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
- 6 ธันวาคม พบ เบรนท์ฟอร์ด
เชลซี
- 8 พฤศจิกายน เปิดบ้านพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
- 22 พฤศจิกายน เยือน เบิร์นลีย์
- 30 พฤศจิกายน เปิดรังรับมือ อาร์เซน่อล
- 3 ธันวาคม เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด
- 6 ธันวาคม เยือน บอร์นมัธ
ทั้งสองทีมต่างมีศึกหนักรออยู่ โดยเฉพาะเชลซีที่ต้องบินไปเยือน คาราบัค ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์ ก่อนกลับมาเปิดบ้านรับวูล์ฟส์ในลีก ส่วนสเปอร์สต้องเจอโปรแกรมหินต่อเนื่องกับ แมนยูฯ และ อาร์เซน่อล สองทีมใหญ่ที่พร้อมทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเขา
📊 สถิติหลังเกมน่าสนใจ
- เชลซี ชนะสเปอร์ส 5 นัดรวดในทุกรายการที่สนามท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม
- สเปอร์ส ชนะเกมเหย้าเพียง 3 นัดจาก 19 เกมลีกหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 12)
- ประตูของ เจา เปโดร คือการหยุดสถิติไร้สกอร์ 705 นาทีของเขาในทุกรายการ
- สเปอร์สคือหนึ่งในทีมที่ทำ “ความผิดพลาดนำไปสู่การเสียประตู” มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
🧩 ความมั่นใจกลับมา – สิงห์บลูส์พร้อมลุยต่อ
ชัยชนะในเกมดาร์บี้นี้คือสัญญาณว่าทีมของ มาเรสก้า เริ่มหาทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง การเล่นที่มีวินัย ความเข้าใจในแท็กติก และแรงจูงใจจากนักเตะรุ่นใหม่อย่าง เอ็นโซ่, ไกเซโด้ และเปโดร เนโต้ ทำให้เชลซีกลับมาดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยพลังหนุ่มอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ความพ่ายแพ้ของสเปอร์สอาจเป็นจุดที่พวกเขาต้องทบทวนวิธีเล่นในบ้าน เพราะหากยังไม่ปรับเกมรับให้แน่นกว่านี้ โอกาสหลุดจากท็อปโฟร์อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด
ติดตามทุกข่าวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ผลบอลวันนี้ และบทวิเคราะห์ก่อนเกมได้ที่ “ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา” เว็บไซต์ของคนรักบอลตัวจริง!
