บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก เดือด! ฟาน ไดจ์คโขกเกมรับหงส์แดงบุกสยบไก่เดือยทอง 10 คน 2-1 ไล่จี้โซนลุ้นตั๋วถ้วยใหญ่

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-2 ลิเวอร์พูล วันนี้ 21/12/68 – บ้านกีฬา

ศึกพรีเมียร์ลีกค่ำคืนนี้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล เกมใหญ่ที่แฟนบอลเช็กสกอร์กันแบบ ผลบอลสด ตั้งแต่นกหวีดแรกไปจนจบ เพราะมีผลโดยตรงต่อกลุ่มลุ้นพื้นที่ยุโรป ผลสุดท้ายเป็นหงส์แดงที่เก๋ากว่า บุกซัดนำห่าง 2-0 ก่อนเจ้าถิ่นที่เหลือ 10 แล้ว 9 คน จะฮึดไล่ตีไข่แตกช่วงท้าย จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญกลับเมอร์ซีย์ไซด์

บ้านกีฬา มองทั้งรูปเกมและอารมณ์โดยรวม ต้องบอกว่านี่คืออีกหนึ่งค่ำคืนที่แฟนไก่ใจสลาย ส่วนสาวกหงส์เฮกันลั่นหน้า บ้านผลบอล เพราะทีมรักโชว์ความนิ่งทั้งในเกมรับและการจบสกอร์ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตาย

⏱️ ครึ่งแรก: สเปอร์สบู๊มันส์ แต่ซิม่อนส์โดนไล่ออกหั่นเกม

เปิดมา สเปอร์สของโธมัส แฟรงค์ เปิดเกมบุกใส่เต็มสูบ ใช้เพรสสูงบีบแนวรับหงส์แดงให้เล่นลำบาก ร็องดาล โคโล มูอานี กับ ชาบี ซิมอนส์ พยายามฉีกหาพื้นที่ด้านข้าง ขณะที่ อาร์ชี เกรย์ กับ ลูคัส เบิร์กวัลล์ เติมเกมรุกจากแถวสอง ทำให้ลิเวอร์พูลต้องถอยลงไปตั้งโซนรับแน่นหนา

แม้ลิเวอร์พูลจะครองบอลได้เหนือกว่า แต่โอกาสจะแจ้งในครึ่งแรกไม่ได้มากอย่างที่คิด เกมเหมือนจะนิ่งจนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ นาที 32 VAR เช็กจังหวะเข้าบอลหนักของ ชาบี ซิมอนส์ ก่อนที่นาที 33 ผู้ตัดสินจอห์น บรูคส์ ชูใบแดงไล่ออกจากสนาม สเปอร์สเหลือ 10 คนตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทำให้รูปเกมเริ่มเปลี่ยน ฝั่งเจ้าถิ่นต้องหันมาเล่นระมัดระวัง ปิดพื้นที่กลางสนามให้แน่นขึ้น

แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า แต่ไก่เดือยทองยังพยายามโต้กลับเป็นระยะ ผ่านครึ่งแรกไปแบบลุ้นเหนื่อย จบ 45 นาทีแรกเสมอ 0-0 ทั้งที่แรงปะทะและอารมณ์ในสนามเดือดเกินสกอร์ชัดเจน

🔁 ครึ่งหลัง: หงส์ครองบอลสนั่น นำห่างก่อนโดนไล่บี้ท้ายเกม

เข้าครึ่งหลัง อาร์เน่ สลอต ไม่รอช้า ส่ง อเล็กซานเดอร์ อีซัค ลงมาแทน คัลวิน แบรดลีย์ ปรับรูปแบบให้ลิเวอร์พูลมีหน้าเป้าแท้ๆ คอยพักบอล และการเปลี่ยนตัวก็ได้ผลทันที นาที 56 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ หลุดมาทางซ้ายก่อนเปิดเรียดเข้าเขตโทษ อีซัคสอดมายิงไม่จับส่งบอลเสียบเสาเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้หงส์แดง

โดนนำแล้ว สเปอร์สเริ่มขยับหมาก โธมัส แฟรงค์ ถอด โมฮัมเหม็ด คูดุส ออก ส่ง เบรนแนน จอห์นสัน ลงมาลากเลื้อยริมเส้นหวังดึงเกมกลับมา แต่ยังไม่ทันตั้งตัวดี นาที 66 แนวรับเจ้าบ้านดันหลุดอีกครั้ง ฮูโก เอกิติเก้ ฉวยโอกาสซัดจ่อๆ ให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0 ขณะที่ คริสเตียน โรเมโร เริ่มเดือดจัด มีจังหวะโวยผู้ตัดสินจนโดนใบเหลืองเตือน

ช่วงท้ายเกม สเปอร์สไม่มีอะไรจะเสีย เปลี่ยนรวดเดียวทั้ง ชูเอา ปาลินญ่า และ วิลสัน โดดแบร์ต ลงมาเติมความดุดันแดนกลางกับริมเส้น ก่อนจะส่ง ริชาร์ลิซอน ลงแทน โคโล มูอานี ในนาที 80 เพื่อปักธงในเขตโทษ และแค่สามนาทีให้หลัง นาที 83 ริชาร์ลิซอนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง วิ่งสอดมาเก็บบอลในกรอบเขตโทษแล้วยิงผ่านอลิสซอนเข้าไปอย่างเฉียบขาด ไล่มา 1-2 จุดไฟให้สนามลุกเป็นไฟ

หลังจากนั้นเกมกลายเป็นดราม่าล้วนๆ ลิเวอร์พูลถอยไปตั้งรับรอสวน สเปอร์สเดินหน้าบุกกับเวลาที่เหลือน้อยและผู้เล่นน้อยกว่า จนเข้าสู่ช่วงทดเวลา นาที 90+3 โรเมโรที่อารมณ์ค้างโดนใบแดงไล่ออกอีกคน ทำให้ไก่เดือยทองเหลือ 9 คน ท่ามกลางใบเหลืองที่ไหลมาไม่หยุดทั้ง โรดริโก เบนตันกูร์ และ อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ขณะที่ ริชาร์ลิซอนก็ยังมีจังหวะโวยจนโดนจดชื่อเพิ่ม นาที 90+11 แต่สุดท้ายสกอร์ไม่เปลี่ยน ลิเวอร์พูลบุกชนะ 2-1 แบบหืดจับแต่โคตรคุ้มค่า

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริง, คะแนน และการเปลี่ยนตัว

🐓 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ผู้จัดการทีม: โธมัส แฟรงค์

ผู้รักษาประตู

  • กูเยลโม่ วิคาริโอ (6.4)

กองหลัง

  • เปโดร เปร์โร่ (6.6)
  • คริสเตียน โรเมโร (กัปตัน, 6.1 – ใบเหลืองและใบแดงช่วงทดเจ็บ)
  • มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน (6.2)
  • ดีเยด สเปนซ์ (6.4)

กองกลาง

  • โรดริโก เบนตันกูร์ (6.5)
  • โมฮัมเหม็ด คูดุส (6.6)
  • อาร์ชี เกรย์ (6.7)
  • ลูคัส เบิร์กวัลล์ (6.3)

กองหน้า

  • ร็องดาล โคโล มูอานี (6.4)
  • ชาบี ซิมอนส์ (5.5 – โดนใบแดงตั้งแต่นาที 33)

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • เบรนแนน จอห์นสัน (6.7) ลงนาที 58 แทน คูดุส เติมสปีดเกมรุกฝั่งขวา
  • ชูเอา ปาลินญ่า (6.6) ลงนาที 71 แทน เกรย์ ช่วยตัดเกมกลางสนาม
  • วิลสัน โดดแบร์ต (6.2) ลงนาที 71 แทน เบิร์กวัลล์ เพิ่มความสดริมเส้นซ้าย
  • ริชาร์ลิซอน (7.9) ลงนาที 80 แทน โคโล มูอานี ยิงตีไข่แตก 1-2 และเป็นตัวป่วนหลักช่วงท้าย

ตัวสำรองไม่ได้ลง
อันโตนิน คินสกี, ราดู ดรากูชิน, เควิน ดันโซ, เบน เดวีส, มาธิส เทล

🔴 ลิเวอร์พูล

ผู้จัดการทีม: อาร์เน่ สลอต

ผู้รักษาประตู

  • อลิสซอน เบ็คเกอร์ (7.1) เซฟสำคัญหลายจังหวะช่วยยื้อสามแต้ม

กองหลัง

  • คัลวิน แบรดลีย์ (6.7) เล่นครึ่งแรกก่อนถูกถอด
  • อิบราฮิมา โกนาเต้ (6.9) คุมพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษได้แข็งแกร่ง
  • เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (กัปตัน, 8.0) อ่านเกมขาด ดักบอลชนะลูกกลางอากาศแทบทุกครั้ง
  • มิลอส เคอร์เคซ (6.8) เติมเกมซ้ายต่อเนื่อง

กองกลาง

  • อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ (6.0) เชื่อมเกมจากลึก แม้โดนใบเหลืองช่วงท้าย
  • เคอร์ติส โจนส์ (6.4) ช่วยวิ่งปิดช่องแดนกลาง
  • ไรอัน กราเฟนเบิร์ค (6.9) พาบอลลุยจากกลางสู่หน้ากรอบเขตโทษ

ตัวรุก

  • โดมินิค โซโบสไล (6.9) เดินเกมด้านขวา สร้างโอกาสลุ้น
  • ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (7.0) แอสซิสต์ประตูแรก และปั้นเกมได้เนียนตา
  • ฮูโก เอกิติเก้ (6.9) ยืนหน้าเป้า ยิงประตู 2-0 สำคัญสุดของเกม

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • อเล็กซานเดอร์ อีซัค (7.5) ลงนาที 46 แทน แบรดลีย์ ทำหนึ่งประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนโดนถอดพัก
  • เยเรมี ฟริมปง (7.2) ลงนาที 60 แทน อีซัค เติมสปีดและช่วยบีบแนวรับสเปอร์ส ก่อนโดนเปลี่ยนออกท้ายเกม
  • แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลงนาที 90 แทน เอกิติเก้ ปิดเกมริมเส้นซ้าย
  • เทรย์ นโยนี่ ลงนาที 90 แทน เวิร์ตซ์ เสริมความสดแดนกลาง
  • เฟเดริโก้ เคียซ่า (6.5) ลงนาที 90 แทน ฟริมปง

ตัวสำรองไม่ได้ลง
จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี, คัลวิน แรมซีย์, เวลลิตตี้ ลักกี้, ริโอ งูกูโมฮา

⭐ นักเตะโดดเด่นของเกม

ริชาร์ลิซอน เข้ามาเปลี่ยนจังหวะเกมให้สเปอร์สทันทีที่ลงสนาม ยิงหนึ่งประตูเต็มไปด้วยความดุดัน ขณะที่ฝั่งลิเวอร์พูล เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยืนเด่นเป็นสง่าในแนวรับ คุมพื้นที่ทุกจังหวะกลางอากาศ อเล็กซานเดอร์ อีซัค กับ เยเรมี ฟริมปง สร้างฝันร้ายให้แนวรับเจ้าบ้านตลอดครึ่งหลัง

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเชิงแท็กติก บ้านกีฬาเห็นภาพชัดว่าเป็นเกมที่ระบบและสมาธิสำคัญกว่าโอกาสยิงประตู สเปอร์สเริ่มเกมด้วยโครง 4-2-2-2 พยายามเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า ซิมอนส์กับโคโล มูอานีเป็นตัวไล่บอลแรก ขณะที่ เกรย์ และ เบิร์กวัลล์ แทรกระหว่างไลน์เพื่อเชื่อมเกม แต่การเสียใบแดงตั้งแต่นาที 33 ทำให้แผนเพรสสูงกลายเป็นดาบสองคม เจ้าบ้านจำเป็นต้องถอยมาเล่นบล็อกกลาง เน้นป้องกันมากกว่าบุก แม้จะยังหาโอกาสสวนกลับได้บ้างจากความเร็วของ คูดุส และการเติมของ เปร์โร่

ฝั่งลิเวอร์พูลยืนระบบใกล้เคียง 4-2-3-1 ปรับเป็น 4-3-3 ตามจังหวะเกม การวาง แม็ค อลิสเตอร์ เล่นต่ำสุดหน้าคู่เซ็นเตอร์เปิดโอกาสให้ กราเฟนเบิร์ค และ โจนส์ สอดขึ้นไปช่วยไล่บีบ เมื่อได้บอลก็ใช้การเคลื่อนที่ของ เวิร์ตซ์ กับ โซโบสไล ดึงแนวรับสเปอร์สออกจากตำแหน่ง ก่อนแทงทะลุช่องให้หน้าเป้า

ประตูแรกเกิดจากภาพตามตำราของคำว่า “ต่อบอลเจาะบล็อกลึก” เวิร์ตซ์ดึงตัวประกบให้หลุด ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้อีซัคจบคมกริบ ประตูที่สองก็เป็นผลจากการครองบอลต่อเนื่องและการสลับตำแหน่งแดนหน้า ทำให้ เอกิติเก้ ได้ยิงแบบไม่มีตัวประกบตรงตัว

ในเกมรับ ลิเวอร์พูลใช้แนวทางบีบสูงช่วงต้นครึ่งหลังแล้วค่อยถอยลงมาเล่นโซนในช่วงนำ 2-0 ฟาน ไดจ์ค กับ โกนาเต้ อ่านบอลยาวของสเปอร์สได้ดีมาก แทบไม่เปิดช่องให้โหม่งทำประตู ส่วน สเปอร์ส เมื่อเหลือ 10 แล้ว 9 คน คะแนนเกมรับถูกทดสอบอย่างหนัก แฟรงค์พยายามชดเชยด้วยการส่ง ปาลินญ่า ลงมาตัดเกมกลาง แต่การเสียโรเมโรช่วงทดเวลา ทำให้การไล่ตามตีเสมอแทบเป็นไปไม่ได้

ภาพรวมการ วิเคราะห์บอล แล้ว รูปเกมบอกชัดว่าลิเวอร์พูลชนะเพราะความนิ่งในจังหวะสำคัญและคุณภาพการตัดสินใจหน้าประตู ขณะที่สเปอร์สพังเพราะความร้อนของตัวเองมากกว่าจะเป็นแท็กติกล้วนๆ

📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง

แม้สกอร์ออกมาเบียด 1-2 แต่ตัวเลขหลังเกมชี้ชัดว่าลิเวอร์พูลคุมทุกอย่างในแดนกลางและจังหวะขึ้นเกม หงส์แดงครองบอลถึง 67% ต่อ 33% ของเจ้าบ้าน จ่ายบอลมากกว่าเกือบเท่าตัว 603 ต่อ 325 และมีความแม่นยำในการส่งบอลสูงถึง 90% ขณะที่สเปอร์สอยู่ที่ 79% เท่านั้น

ยอดยิงรวม สเปอร์สยิงมากกว่า 11 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลยิง 7 ครั้ง และเข้ากรอบเท่ากันฝั่งละ 4 แต่คุณภาพจังหวะของทีมเยือนเฉียบคมกว่าอย่างเห็นได้ชัด เกมนี้ยังเต็มไปด้วยการปะทะ สเปอร์สทำฟาวล์ 9 ครั้ง ลิเวอร์พูล 7 ครั้ง เจ้าบ้านโดนใบเหลืองถึง 5 ใบและใบแดง 2 ใบ ส่วนหงส์แดงได้เหลือง 3 ใบ ไม่มีใครถูกไล่ออก นอกจากนี้ลิเวอร์พูลยังครองเกมรุกด้านหน้าได้ดีกว่า เห็นได้จากการล้ำหน้า 6 ครั้งและเตะมุม 6 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านมีแค่ล้ำหน้า 1 ครั้งและเตะมุม 2 ครั้ง แปลว่าทีมเยือนพาบอลไปจบในพื้นที่สุดท้ายได้ต่อเนื่องกว่าอย่างชัดเจน

🕰️ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚠️ 32′ VAR เปลี่ยนคำตัดสินจังหวะเข้าบอลของ ชาบี ซิมอนส์ ก่อนให้เป็นใบแดง
  • 🟥 33′ ชาบี ซิมอนส์ เข้าฟาวล์หนักกลางสนาม โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม สเปอร์สเหลือ 10 คน
  • ⏱️ 45+3′ จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอ 0-0
  • 🔁 46′ ลิเวอร์พูลส่ง อเล็กซานเดอร์ อีซัค ลงแทน คัลวิน แบรดลีย์ ปรับเกมรุกแดนหน้า
  • ⚽ 56′ ประตู 0-1 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เปิดให้ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ยิงตุงตาข่ายให้ลิเวอร์พูลออกนำ
  • 🔁 58′ สเปอร์สเปลี่ยน เบรนแนน จอห์นสัน ลงแทน โมฮัมเหม็ด คูดุส เพิ่มสปีดริมเส้น
  • 🔁 60′ ลิเวอร์พูลส่ง เยเรมี ฟริมปง ลงแทน อีซัคที่มีชื่อบนสกอร์แล้ว
  • ⚽ 66′ ฮูโก เอกิติเก้ ซัดประตู 0-2 ให้ลิเวอร์พูลฉีกหนี
  • ⚠️ 66′ คริสเตียน โรเมโร โวยผู้ตัดสินจนโดนใบเหลืองเตือน
  • 🔁 71′ ชูเอา ปาลินญ่า ลงแทน อาร์ชี เกรย์ เพิ่มความดุดันกลางสนาม
  • 🔁 71′ วิลสัน โดดแบร์ต ลงแทน ลูคัส เบิร์กวัลล์ เปลี่ยนเกมริมเส้นซ้าย
  • 🟨 76′ อิบราฮิมา โกนาเต้ ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
  • 🔁 80′ ริชาร์ลิซอน ลงแทน โคโล มูอานี เป็นหอกตัวความหวังของสเปอร์ส
  • ⚽ 83′ ริชาร์ลิซอน ซัดให้สเปอร์สไล่มา 1-2 จุดไฟความหวังในบ้าน
  • 🟨 83′ โดมินิค โซโบสไล โดนใบเหลืองจากจังหวะประท้วงผู้ตัดสิน
  • 🟨 85′ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน ทำฟาวล์โดนจดชื่อ
  • 🔁 90′ ลิเวอร์พูลส่ง เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงแทน ฟริมปง เสริมความสดแนวรุก
  • 🟥 90+3′ โรเมโรโดนไล่ออกจากสนามหลังไปมีปากเสียงและฟาวล์หนัก สเปอร์สเหลือ 9 คน
  • 🟨 90+4′ โรดริโก เบนตันกูร์ โดนใบเหลืองเพิ่มอารมณ์เดือด
  • 🟨 90+7′ อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ฟาวล์ตัดเกมกลางสนามโดนใบเหลือง
  • 🔁 90+9′ ลิเวอร์พูลเปลี่ยน ฮูโก เอกิติเก้ ออก ส่ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ลงมาล็อกเกมรับ
  • 🔁 90+10′ เทรย์ นโยนี่ ลงแทน ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ปิดช่องแดนกลาง
  • 🟨 90+11′ ริชาร์ลิซอน โวยกรรมการจนโดนใบเหลืองในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย

🏅 Player of the match

รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมตกเป็นของ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันลิเวอร์พูล ที่ได้คะแนนสูงสุด 8.0 บ้านกีฬาเห็นด้วยเต็มๆ เพราะตลอด 90 นาทีกว่า เขาคือผู้นำแนวรับอย่างแท้จริง ทั้งการคุมไลน์ดันสูง การอ่านจังหวะบอลยาวของสเปอร์ส และการชนะดวลลูกกลางอากาศแทบทุกครั้ง ทำให้อลิสซอนต้องออกแรงเซฟไม่มากนัก

นอกจากฟาน ไดจ์คแล้ว ริชาร์ลิซอน ก็สมควรถูกชมเป็นพิเศษ ลงมาแล้วเปลี่ยนหน้าเกมให้สเปอร์ส ยิง 1 ประตู สร้างโอกาสต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งลิเวอร์พูล อเล็กซานเดอร์ อีซัค กับ เยเรมี ฟริมปง เป็นสองคนที่ทำให้เกมรุกหงส์แดงดูมีชีวิตชีวาในครึ่งหลังอย่างชัดเจน

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

หลังจบเกมนี้ ลิเวอร์พูลเก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนนจาก 17 นัด ขยับขึ้นมาเกาะกลุ่มบนของตาราง รั้งอันดับ 5 ร่วมกับเชลซี ไล่จี้อาร์เซนอลจ่าฝูงที่มี 39 แต้ม และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 37 คะแนน อยู่ในระยะที่ยังลุ้นได้เต็มตัว ถ้าเก็บชัยต่อเนื่องอีกไม่กี่นัด ภาพการลุ้นแชมป์อาจกลับมาเปิดกว้างทันที

ส่วนสเปอร์สแพ้นัดนี้ทำให้หยุดอยู่ที่ 22 คะแนนจาก 17 เกม ร่วงลงไปแถวกลางตารางอันดับ 13 โดนกลุ่มลุ้นโควต้ายูฟ่า แชมเปียนส์ลีกทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ และต้องเริ่มหันกลับมามองหลัง เพราะทีมอย่าง บอร์นมัธ ฟูแล่ม และลีดส์ กำลังไล่บี้แต้มกันสูสีผิดกับภาพจำเดิมๆ ของแฟนไก่เดือยทองที่เคยชินกับคำว่าลุ้นท็อปโฟร์

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป

ในแง่ โปรแกรมบอล นัดข้างหน้า ทั้งสองทีมยังมีเกมสำคัญรออยู่แบบห้ามพลาด

🐓 โปรแกรมของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

  • 28/12/25 เวลา 23:30 น. คริสตัล พาเลซ พบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
  • 02/01/26 เวลา 03:00 น. เบรนท์ฟอร์ด พบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

สองเกมนี้คือบททดสอบสำคัญของลูกทีมโธมัส แฟรงค์ ว่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้แค่ไหนหลังพ่ายคาบ้านและเสียผู้เล่นตัวหลักจากโทษแบน

🔴 โปรแกรมของลิเวอร์พูล

  • 27/12/25 เวลา 22:00 น. ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
  • 02/01/26 เวลา 00:30 น. ลิเวอร์พูล พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด

หงส์แดงได้เล่นในแอนฟิลด์สองนัดรวด ถ้าเก็บชัยได้ต่อเนื่อง โอกาสไต่ขึ้นไปติดท็อปโฟร์ของตารางพรีเมียร์ลีกมีความเป็นไปได้สูงสุดๆ

📣 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา

ใครที่อยากตามทุกจังหวะของบอลอังกฤษตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกจนจบ สามารถเช็กสกอร์แบบ บ้านกีฬา สไตล์จัดหนักได้ทั้ง บ้านผลบอล, สถิติสด และมุมมองเจาะลึกหลังเกมแบบนี้ได้ทุกวัน อัปเดตทั้งข่าวร้อนจากพรีเมียร์ลีก ลีกใหญ่ยุโรป รวมถึงวิเคราะห์เกมก่อน-หลังแข่งให้แฟนบอลได้เกาะติดกันยาวๆ

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา