
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน 0-1 อาร์เซนอล วันนี้ 21/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษนัดที่ 17 ที่กูดิสัน พาร์ก จบลงด้วยชัยชนะของ อาร์เซนอล บุกเบียด เอฟเวอร์ตัน 1-0 จากจุดโทษของวิคตอร์ ไจอเคเรส นาที 27 ทำให้ทีมของมิเกล อาร์เตต้าเก็บเพิ่มเป็น 39 แต้ม นั่งจ่าฝูงต่อไป ส่วนลูกทีมของเดวิด มอยส์ยังหยุดที่ 24 แต้ม อยู่โซนกลางตาราง แต่รูปเกมต้องบอกว่าห่างกันพอสมควร หากใครตามเช็กสกอร์ผ่านหน้าเว็บแนวสายบอลอย่าง ผลบอลสด แล้วดูสถิติประกอบ จะเห็นได้ชัดว่าปืนใหญ่คุมจังหวะและคุมทุกอย่างในสนาม
⏱️ ครึ่งแรก: จุดโทษไจอเคเรสชี้ขาด
เสียงนกหวีดเริ่มเกม เอฟเวอร์ตันของมอยส์ยืนระบบ 4-2-3-1 พยายามเพรสสูงช่วงต้นเพื่อกดดันแนวรับอาร์เซนอล แต่จังหวะเพรสไม่ต่อเนื่อง ปล่อยให้มิดฟิลด์ทีมเยือนอย่างเดแคลน ไรซ์, มาร์ติน ซูบิเมนดี และมาร์ติน โอเดการ์ด ค่อย ๆ ตั้งเกมจากแดนกลาง ขยับบอลจากซ้ายไปขวาอย่างใจเย็น
อาร์เซนอลครองบอลเหนือกว่าชัดเจน ใช้การเลี้ยงกินตัวของบูกาโย ซากา และเลอันโดร ทรอสซาร์ด เจาะเข้าระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์ พร้อมให้ไจอเคเรสคอยขยับดึงตัวประกบ เปิดช่องให้มิดฟิลด์สอดขึ้นมายิง จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญนาที 24 เมื่อไรซ์เติมขึ้นมารับบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนถูกแนวรับเจ้าถิ่นชนล้มในกรอบ ผู้ตัดสินซามูเอล แบร์รอตต์เช็ก VAR แล้วชี้เป็นจุดโทษ
นาที 27 ไจอเคเรสรับหน้าที่สังหาร วิ่งมาซัดด้วยขวาเต็มข้อส่งบอลเสียบตาข่ายให้ปืนใหญ่บุกนำ 1-0 ท่ามกลางความกดดันของแฟนเจ้าบ้าน หลังเสียประตู เอฟเวอร์ตันพยายามยกระดับเกมรุก โยนยาวให้ทิม แบร์รี ไปลุ้นดวลเดี่ยว แต่กลับแทบไม่มีโอกาสลุ้นยิงแบบได้เสียว จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ โดยอาร์เซนอลคุมจังหวะไว้หมดและแทบไม่ให้เจ้าถิ่นได้ลองยิงตรงกรอบเลย
🔁 ครึ่งหลัง: ปืนใหญ่ประคองเกม เก็บสามแต้มเยือดกูดิสัน
ครึ่งหลังมอยส์สั่งลูกทีมดันไลน์ขึ้นสูงมากขึ้น พยายามบีบให้แนวรับอาร์เซนอลเตะทิ้ง แต่ปืนใหญ่ยังนิ่ง เดแคลน ไรซ์ถอยต่ำลงมาช่วยเซ็นเตอร์แบ็กประกบลูกกลางอากาศ ช่วงกลางครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตันเปลี่ยนเอาเบโต้ลงมาแทนแบร์รี เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและลูกชนในกรอบเขตโทษ ตามด้วยไทเลอร์ ดิบลิง และเมอร์ลิน เริห์ล ลงมาเติมความสดจากม้านั่งสำรอง
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเปลี่ยนเกมรุกใส่เต็มที่ เจ้าถิ่นก็ยังเจาะแนวรับอาร์เซนอลไม่เข้า เกมริมเส้นทั้งสองข้างถูกบีบจนต้องเปิดบอลแบบไม่มีน้ำหนัก ขณะที่ทีมเยือนเปลี่ยนส่งกาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และมิเกล เมรีโน ลงมาใช้ประสบการณ์ช่วยพักบอลและดึงจังหวะ ทำให้ช่วงท้ายเกมเน้นควบคุมความเร็วและตั้งรับอย่างมีวินัย แม้จะมีใบเหลืองจากการถ่วงเวลาของไจอเคเรสและมาร์ติเนลลี แต่ก็แลกมากับสามคะแนนล้ำค่าที่กูดิสัน พาร์ก และจบลงด้วยชัยชนะหนึ่งลูกแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยจนหายใจไม่ทั่วท้อง

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง คะแนน และการเปลี่ยนตัว
🔵 เอฟเวอร์ตัน
ระบบ 4-2-3-1
ผู้จัดการทีม: เดวิด มอยส์
ผู้รักษาประตู
- จอร์แดน พิคฟอร์ด (6.4)
กองหลัง
- เจค โอไบรอัน (15) (6.7)
- เจมส์ ทาร์คอฟสกี กัปตันทีม (6) (7.8)
- ไมเคิล คีน (5) (7.7)
- วิตาลี มิโคเลนโก (16) (6.7)
กองกลางตัวรับ
- ทิโมธี อิโรเอกบูแนม (42) (7.1)
- การ์ลอส อัลการาซ (24) (6.2)
กองกลางตัวรุก/ริมเส้น
- ดไวท์ แม็คนีล (7) (6.2)
- เจมส์ การ์เนอร์ (37) (6.8)
- แจ็ค กรีลิช (18) (6.3)
กองหน้า
- ทิม แบร์รี (11) (6.4)
ตัวสำรองและการเปลี่ยนตัว
- เบโต้ (9) ลงสนามนาที 66 แทน แบร์รี ได้คะแนน 6.3
- ไทเลอร์ ดิบลิง (20) ลงนาที 75 แทน แม็คนีล คะแนน 6.7
- เมอร์ลิน เริห์ล (34) ลงนาที 76 แทน อัลการาซ คะแนน 6.7
- มาร์ก ทราเวอร์ส (12), ทอม คิง (31), นาธาน แพตเตอร์สัน (2), อดัม อัซนู (39), รีซ เวลช์ (64), อีไลจาห์ แคมป์เบลล์ (73) เป็นตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
นักเตะบาดเจ็บ/ไม่มีชื่อ
- เชมัส โคลแมน, อิลิมัน เอ็นดิอาเย, อิดริสซา เกเย, จาร์ราด แบรนธเวต, เคียร์แนน ดิวส์บรี-ฮอลล์
🔴 อาร์เซนอล
ระบบ 4-3-3
ผู้จัดการทีม: มิเกล อาร์เตต้า
ผู้รักษาประตู
- ดาบิด รายา (1) (7.4)
กองหลัง
- ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (12) (6.8)
- วิลเลียม ซาลิบา (2) (7.0)
- ปีเอโร ฮินกาเปีย (5) (7.2)
- ริคคาร์โด คาลาฟิออรี (33) (6.8)
กองกลาง
- มาร์ติน ซูบิเมนดี (36) (6.7)
- มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีม (8) (7.0)
- เดแคลน ไรซ์ (41) (7.9)
กองหน้า
- บูกาโย ซากา (7) (6.6)
- วิคตอร์ ไจอเคเรส (14) (6.8)
- เลอันโดร ทรอสซาร์ด (19) (6.3)
ตัวสำรองและการเปลี่ยนตัว
- กาเบรียล เชซุส (9) ลงนาที 65 แทน ไจอเคเรส คะแนน 6.3
- กาเบรียล มาร์ติเนลลี (11) ลงนาที 80 แทน ทรอสซาร์ด คะแนน 6.3 ได้ใบเหลืองช่วงทดเวลา
- มิเกล เมรีโน (23) ลงนาที 88 แทน โอเดการ์ด คะแนน 6.4
- เกปา อาร์ริซาบาลากา (13), ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี (49), คริสเตียน นอร์การ์ด (16), อีธาน เอ็นวาเนรี (22), โนนี มาดูเอเก (20), เอเบเรชี เอเซ (10) เป็นตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
นักเตะบาดเจ็บ/ไม่มีชื่อ
- ไค ฮาแวร์ตซ์, คริสเตียน มอสเกรา, กาเบรียล มากัลเญส, แม็กซ์ ดาวแมน, เบน ไวต์
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองในเชิงแท็กติกแบบสาย วิเคราะห์บอล อาร์เซนอลของอาร์เตต้าวางระบบชัดเจนให้ไรซ์ยืนต่ำกว่าโอเดการ์ดและซูบิเมนดีเล็กน้อย ทำหน้าที่เป็นจุดหมุนและตัวตัดเกมแรก เมื่อทีมครองบอล เขาจะดันขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ คอยเฝ้าหน้ากรอบและสอดขึ้นไปจบสกอร์ในจังหวะสอง ซึ่งนำไปสู่การเรียกจุดโทษในเกมนี้ด้วย
เกมรุกของปืนใหญ่ใช้การโอเวอร์แล็ปของทิมเบอร์และคาลาฟิออรีช่วยซ้อนริมเส้น เปิดพื้นที่ให้ซากาและทรอสซาร์ดหุบเข้าในเพื่อเล่นหนึ่ง-สองกับโอเดการ์ด รวมถึงให้ไจอเคเรสคอยดึงแนวรับออกจากตำแหน่ง ช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์กับฟูลแบ็กของเอฟเวอร์ตันจึงถูกโจมตีซ้ำ ๆ แม้ว่าจังหวะสุดท้ายจะไม่ได้เปลี่ยนเป็นประตูเพิ่ม แต่รูปเกมบ่งบอกชัดว่าอาร์เซนอลคุมพื้นที่ครึ่งสนามของเจ้าบ้านได้เบ็ดเสร็จ
ฝั่งเอฟเวอร์ตันเลือกเล่นเน้นความแน่นกลางรับ ใช้อิโรเอกบูแนมคู่กับอัลการาซคอยเคลื่อนที่ปิดช่องระหว่างไลน์ แต่ปัญหาคือเมื่อตัดบอลได้แล้วการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกทำได้ช้า บ่อยครั้งต้องคืนหลังให้ทาร์คอฟสกีกับคีนแล้วโยนยาวไปข้างหน้า ทำให้ลูกกลางอากาศส่วนใหญ่ถูกซาลิบากับฮินกาเปียปัดทิ้ง กลายเป็นโอกาสโต้กลับของอาร์เซนอลเสียเอง
เกมรับของปืนใหญ่ถือว่าจัดระเบียบดีเยี่ยม บีบโซนกลางสนามจนเอฟเวอร์ตันแทบครองบอลได้แค่แดนตัวเอง และเมื่อเกมเข้าสู่ช่วงนำ 1-0 ทีมเยือนยิ่งแพ็กเกมรับแน่นขึ้น เปลี่ยนให้เชซุสกับมาร์ติเนลลีช่วยวิ่งไล่เพรสด้านข้าง ปิดประตูไม่ให้เจ้าถิ่นได้ตั้งเกมรุกอย่างจริงจังตลอดครึ่งหลัง

📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมชี้ชัดว่าอาร์เซนอลเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง ทีมเยือนสร้างโอกาสยิงได้ถึง 13 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันมีโอกาสยิงเพียง 2 หนและไม่มีลูกไหนตรงกรอบเลย การครองบอลก็เป็นฝ่ายปืนใหญ่อย่างชัดเจนที่ 67% ต่อ 33% พร้อมกับจำนวนการส่งบอล 653 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 88% ส่วนทอฟฟี่สีน้ำเงินส่งบอลได้ 337 ครั้ง ความแม่นยำ 77% เท่านั้น
ด้านเกมปะทะ เอฟเวอร์ตันทำฟาวล์ 2 ครั้ง อาร์เซนอล 5 ครั้ง ใบเหลืองทีมละ 2 ใบ ไม่มีใบแดงเกิดขึ้น ตลอดทั้งเกมเจ้าบ้านไม่ได้ล้ำหน้าสักครั้ง ขณะที่ทีมเยือนถูกจับล้ำหน้า 1 ครั้ง ลูกเตะมุมเป็นอาร์เซนอลที่ทำได้มากกว่า 3 ต่อ 2 ตัวเลขทั้งหมดสะท้อนรูปเกมที่ทีมของอาร์เตต้าคุมสถานการณ์ได้ตามต้องการ ส่วนเอฟเวอร์ตันแทบไม่มีหมัดหนักตอบโต้
🕰️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 24′ เดแคลน ไรซ์ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนให้จุดโทษอาร์เซนอล
- ⚽ 27′ วิคตอร์ ไจอเคเรสยิงจุดโทษเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
- 🟨 26′ วิตาลี มิโคเลนโกโดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงกับผู้ตัดสิน
- 🟨 39′ เจมส์ ทาร์คอฟสกีทำฟาวล์หนักใส่แนวรุกอาร์เซนอล รับใบเหลือง
- ⏱️ ทดเวลาครึ่งแรก 4 นาที แต่ไม่มีประตูเพิ่ม
- 🟨 56′ ไจอเคเรสโดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลาระหว่างรอเพื่อนขึ้นเกม
- 🔁 65′ อาร์เซนอลเปลี่ยนตัว ส่งกาเบรียล เชซุสลงแทนไจอเคเรส
- 🔁 66′ เอฟเวอร์ตันแก้เกมรุก ส่งเบโต้ลงแทนทิม แบร์รี
- 🔁 75′ ทอฟฟี่สีน้ำเงินเปลี่ยนไทเลอร์ ดิบลิงลงมาแทนดไวท์ แม็คนีล
- 🔁 76′ เมอร์ลิน เริห์ลถูกส่งลงสนามแทนอัลการาซเพื่อเติมพลังแดนกลาง
- 🔁 80′ ปืนใหญ่ส่งกาเบรียล มาร์ติเนลลีลงแทนทรอสซาร์ด เติมสปีดริมเส้นซ้าย
- 🔁 88′ มิเกล เมรีโนลงมาแทนโอเดการ์ด ช่วยล็อกเกมกลางสนามช่วงท้าย
- 🟨 89′ มาร์ติเนลลีโดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลาในช่วงทดเจ็บ
- ⏱️ ทดเวลาครึ่งหลัง 6 นาที ก่อนจบเกมอาร์เซนอลรักษาสกอร์ 1-0 คว้าชัยกลับลอนดอน
🌟 Player of the Match – Declan Rice
เดแคลน ไรซ์คือหัวใจของเกมนี้อย่างแท้จริง ได้เรตติ้งสูงสุด 7.9 และถูกเลือกเป็น Player of the Match ไม่ใช่แค่เพราะมีส่วนสำคัญกับประตูชัยจากการเรียกจุดโทษ แต่ตลอด 90 นาที เขาคือคนคุมจังหวะทั้งเกมรุกและเกมรับของอาร์เซนอลอย่างหมดจด
ในยามที่ทีมต้องการบุก ไรซ์จะดันสูงไปร่วมประสานงานกับโอเดการ์ด สอดขึ้นไปยิงไกลและป้อนบอลให้แนวรุกเล่นง่าย ขณะเดียวกันในช่วงที่ต้องแพ็กเกมรับ เขาถอยลงต่ำยืนหน้าคู่เซ็นเตอร์ ตัดบอลกลางอากาศหลายครั้ง ช่วยซาลิบาและฮินกาเปียปิดเกมโยนยาวของเอฟเวอร์ตันอย่างอยู่หมัด บทบาทสองมิตินี้ทำให้แฟนปืนเห็นชัดว่าการลงทุนกับมิดฟิลด์อังกฤษรายนี้คุ้มค่าทุกเพนนี

📈 สถานการณ์บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะนัดนี้ส่งให้อาร์เซนอลเก็บเพิ่มเป็น 39 คะแนนจาก 17 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 แพ้ 2 ยิงได้ 31 เสียเพียง 10 ประตู รักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปและทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มี 37 แต้มเล็กน้อย พร้อมส่งสัญญาณชัดว่าเป้าหมายลุ้นแชมป์ยังเดินหน้าเต็มกำลัง
ส่วนเอฟเวอร์ตันแม้จะพ่ายคาบ้านแต่ยังยึดอันดับ 10 มี 24 แต้มจาก 17 นัด ผิดหวังกับผลการแข่งขันแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องหนีตกชั้น ทว่าหากอยากลุ้นพื้นที่ยุโรปก็ต้องเร่งฟอร์ม เพราะระยะห่างจากโซนหัวตารางยังมีช่องว่างพอสมควร และการแพ้ในบ้านแบบแทบไม่มีจังหวะยิงตรงกรอบเช่นนี้คือสัญญาณเตือนว่าต้องปรับจูนเกมรุกด่วน
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้าในหน้า ตารางบอล และหน้าอัปเดต โปรแกรมบอล แฟนบอลจะได้เห็นว่าเส้นทางต่อไปของทั้งสองทีมยังเข้มข้นไม่แพ้กัน ฝั่งเอฟเวอร์ตันมีคิวออกไปเยือนเบิร์นลีย์ในลีกวันที่ 27 ธันวาคม เวลา 22.00 น. ก่อนจะบุกไปเยือนฟอเรสต์ต่อในวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 02.30 น. ซึ่งเป็นสองเกมสำคัญที่อาจนิยามทิศทางครึ่งฤดูกาลหลังของมอยส์ได้เลย
ด้านอาร์เซนอลต้องจัดการโปรแกรมถี่ยิบ เริ่มจากเกมบอลถ้วยกับคริสตัล พาเลซในศึก EFL Cup วันที่ 24 ธันวาคม เวลา 03.00 น. ตามด้วยเกมลีกเปิดบ้านรับไบรท์ตันวันที่ 27 ธันวาคม เวลา 22.00 น. หากเก็บชัยได้ต่อเนื่อง จ่าฝูงมีลุ้นเริ่มหนีห่างคู่แข่งมากขึ้นอีก
🏟️ ติดตามบ้านผลบอลและข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สด ดูตารางคะแนน และเกาะทุกแมตช์เดือดแบบเรียลไทม์ อย่าลืมติดตามหน้า บ้านผลบอล และข่าวบอลจากมุมมองดุดันสไตล์แฟนบอลพันธุ์แท้ได้ที่ “บ้านกีฬา” เราจะพาไปซูมทุกช็อตสำคัญของพรีเมียร์ลีก รวมถึงลีกดังทั่วโลกแบบถึงใจคอบอลไทยทุกคืน

