จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เชลซี 1-2 แอสตัน วิลล่า วันนี้ 28/12/68 – บ้านกีฬา
พรีเมียร์ลีก ค่ำคืนที่สแตมฟอร์ดบริดจ์กลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อสกอร์จากสัญญาณ ผลบอลสด บอกชัดว่า เชลซี ที่ออกนำก่อนสุดหล่อ กลับโดน แอสตัน วิลล่า บุกแซงชนะ 2-1 จากสองลูกคมกริบของตัวสำรองอย่าง โอลลี่ วัตกินส์ ทำให้บรรดาแฟนสิงห์เงียบกริบ ส่วนเหล่ากองเชียร์สิงห์ผงาดแหกปากสุดเสียงกับสามแต้มล้ำค่าที่พาทีมลุ้นแชมป์แบบเต็มปาก
บ้านกีฬา มองว่าเกมนี้คือภาพสะท้อนที่โหดร้ายของเจ้าบ้านที่ครองบอลเหนือกว่า แต่อยู่ดีๆ โดนทีเด็ดโต้กลับและความเฉียบคมของวัตกินส์ปล้นชัยออกไปต่อหน้าแฟนตัวเอง
🕐 ครึ่งแรก: เชลซีคุมเกม นำก่อนจากจูเอา เปโดร
ช่วงเปิดเกม เชลซีของ วิลลี่ กาบาเยโร่ (รักษาการกุนซือ) ออกสตาร์ตด้วยความมั่นใจ เดินเกมจากคู่กลาง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ มอยเซส ไกเซโด้ คุมจังหวะ ข้างหน้าปล่อยให้ โคล พัลเมอร์ ทำเกมร่วมกับ เปโดร เนโต้ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ กดดันแนวรับวิลล่า
สิงห์ครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจน สลับขึ้นเกมริมเส้นสองฝั่ง ใช้การเติมของ รีซ เจมส์ กับ มาร์ก กูกูเรย่า เปิดกดดัน แต่จังหวะจบยังไม่คมพอ จนกระทั่งนาที 37 รางวัลก็มา เมื่อ รีซ เจมส์ เติมสูงขึ้นมาทางขวาเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ จูเอา เปโดร สอดมาเก็บจังหวะยิงไม่เหลือ เชลซีขึ้นนำ 1-0 และเล่นด้วยความมั่นใจจนจบครึ่งแรกโดยที่แนวรุกวิลล่าทำอะไรแนวรับเจ้าบ้านไม่ได้มาก
🕑 ครึ่งหลัง: วัตกินส์ลงมาพลิกเกม สิงห์ผงะโดนแซง
ครึ่งหลังกลายเป็นเวทีของลูกทีมอูไน เอเมรี่ แบบเต็มตัว นาที 58 วิลล่าปรับเกมครั้งใหญ่ ส่ง โอลลี่ วัตกินส์ ลงมาแทน เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย พร้อมเปลี่ยน ดอนเยลล์ มาเลน กับ จอห์น แม็คกินน์ ออก แล้วใส่ จาดอน ซานโช่ กับ อามาดู โอนาน่า ลงมาช่วยไล่บีบแดนกลาง
การปรับแท็กติกนั้นได้ผลทันตา นาที 63 วัตกินส์หนีตัวประกบในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดตีเสมออย่างเยือกเย็นเป็น 1-1 ทำให้บรรยากาศฝั่งทีมเยือนเดือดพล่าน ขณะที่เชลซีเริ่มลนจนต้องเปลี่ยนสามตัวรวด ส่ง มาโล กุสโต้, เจมี่ กิตเทนส์ และ เลียม ดีแล็ป ลงมายกระตุ้นเกมรุก
แต่แล้วช่วงท้ายเกม นาที 84 ความหายนะของเจ้าถิ่นก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อ ยูริ ตีเลอม็องส์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วแทงทะลุช่องสุดเนียนให้ วัตกินส์ หลุดเดี่ยวไปแปสวน โรเบิร์ต ซานเชซ เสียบเสาแรก กลายเป็นประตูแซง 2-1 อย่างเฉียบคม ช่วงทดเจ็บแม้เชลซีจะพยายามบุกจน เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มีจังหวะหัวร้อนเถียงผู้ตัดสิน แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน สุดท้ายเสียงนกหวีดดังขึ้น วิลล่าคว้าชัยแบบเจ็บลึกสำหรับแฟนสิงห์
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน
🔵 เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- โรเบิร์ต ซานเชซ – 7.6
กองหลัง
- รีซ เจมส์ (กัปตัน) – 8.2
- เทรโวห์ ชาโลบาห์ – 6.2
- เบอนัวต์ บาเดียชิล – 6.4
- มาร์ก กูกูเรย่า – 6.9
กองกลางตัวรับ
- มอยเซส ไกเซโด้ – 7.1
- เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – 7.2
กองกลางตัวรุก
- เปโดร เนโต้ – 6.5
- โคล พัลเมอร์ – 6.7
- อเลฮานโดร การ์นาโช่ – 7.1
กองหน้า
- จูเอา เปโดร – 7.7 (ผู้ทำประตูให้ทีม)
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- มาโล กุสโต้ – 6.7 (แทน กูกูเรย่า นาที 69)
- เจมี่ กิตเทนส์ – 6.8 (แทน การ์นาโช่ นาที 69)
- เลียม ดีแล็ป – 6.4 (แทน จูเอา เปโดร นาที 69)
- เอสเตวาว – 6.4 (แทน พัลเมอร์ นาที 72)
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอช อาเชแอมพง, โทซิน อดาราบิโอโย, อันเดรย์ ซานโตส
แข้งที่ขาดไป
- มิคไฮโล มูดริก (แบน), ดาริโอ เอซซูโก้, โรเมโอ ลาเวีย, เลวี่ โคลวิลล์, โจร์เรล ฮาโต้ (บาดเจ็บ)
🟣 แอสตัน วิลล่า (4-4-2)
ผู้รักษาประตู
- เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – 7.3
กองหลัง
- แม็ตตี้ แคช – 6.6
- เอซรี่ คอนซ่า – 7.1
- วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ – 6.7
- เอียน มัตเซ่น – 6.1
กองกลาง
- จอห์น แม็คกินน์ (กัปตัน) – 6.7
- บูบาการ์ กามาร่า – 6.7
- ยูริ ตีเลอม็องส์ – 7.1
- มอร์แกน โรเจอร์ส – 6.5
กองหน้า
- ดอนเยลล์ มาเลน – 6.4
- เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย – 6.1
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- โอลลี่ วัตกินส์ – 9.1 (แทน บูเอ็นเดีย นาที 58 ยิง 2 ประตู)
- อามาดู โอนาน่า – 6.9 (แทน แม็คกินน์ นาที 59)
- จาดอน ซานโช่ – 6.6 (แทน มาเลน นาที 59)
- ลูก้าส์ ดีญ – 6.8 (แทน มัตเซ่น นาที 83)
- ลามาร์ โบการ์เด – 6.6 (แทน กามาร่า นาที 83)
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- มาร์โก บิโซต์, อันเดรส การ์เซีย, จอร์จ เฮมมิงส์, จามาลดีน จิมโมห์
แข้งที่ขาดไป
- เปา ตอร์เรส, ไทโรน มิงส์, เอวานน์ เกสซ็องด์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (บาดเจ็บ), ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (เช็กฟิต)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองเชิง วิเคราะห์บอล บ้านกีฬา ต้องบอกว่า เชลซีวางหมากถูกในช่วงแรก ใช้ 4-2-3-1 สร้างความได้เปรียบตรงกลางสนาม การเคลื่อนบอลจากคู่หู เอ็นโซ่ – ไกเซโด้ ยืนต่ำคอยรับ-จ่าย ทำให้สิงห์ครองบอลได้ยาวและดันไลน์รับขึ้นสูง เกมรุกพยายามเล่นไดเร็กต์ผสมครอสจากสองฟูลแบ็กไปให้ จูเอา เปโดร โหม่งหรือพักลงมาทำชิ่งกับ พัลเมอร์
ปัญหาคือเมื่อได้ประตูนำแล้ว เชลซีกลับลดความดุดันในการเพรสซิ่ง ปล่อยให้วิลล่าเริ่มตั้งเกมจากหลัง และการป้องกันพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษไม่รัดกุมพอ หลายครั้งเซ็นเตอร์หลุดไลน์หรือถูกดึงออกจากตำแหน่ง ทำให้ช่องว่างตรงครึ่ง spaces ถูกใช้เล่นบอลทะลุช่องได้ง่าย โดยเฉพาะจังหวะที่โดนตีเสมอและโดนแซง
ฝั่งวิลล่า แม้จะใช้ 4-4-2 ที่ดูเป็นทีมเน้นเกมตรง แต่เอเมรี่ปรับจูนให้ยืดหยุ่นมาก แดนกลางใช้ กามาร่า กับ ตีเลอม็องส์ คอยดักบอลและออกบอลเร็วไปยังตัวริมเส้นอย่าง โรเจอร์ส กับ แม็คกินน์ พอส่งวัตกินส์ลงมา เขากลายเป็นตัวเชื่อมและตัวจบในคนเดียว วิ่งดึงแนวรับเชลซีจนหลุดตำแหน่งตลอด การเล่นโต้กลับมีทั้งบอลยาวให้ใช้สปีด และลูกทำชิ่งสั้นหน้าเขตโทษ
เกมรับวิลล่าอาจดูง่อนแง่นช่วงต้นจากแรงกดดันของเจ้าบ้าน แต่เมื่อ โอนาน่า ลงมายืนกลางรับเพิ่ม พวกเขาปิดช่องว่างระหว่างไลน์ได้ดีขึ้น บีบให้เชลซีต้องโยนมากกว่าตั้งเกมทะลุกลาง ซึ่งเข้าทาง คอนซ่า กับ ลินเดอเลิฟ ที่รับมือบอลโด่งได้ดี สุดท้ายเมื่อเจ้าบ้านเปิดหน้าบุกเต็มที่ พื้นที่ด้านหลังก็ยิ่งเปิดกว้างให้วัตกินส์ลงโทษแบบเลือดเย็น
📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง
ตัวเลขหลังเกมชี้ว่า เชลซีครองบอลถึง 62% ต่อ 38% ของวิลล่า ส่งบอลมากกว่า 500 ต่อ 329 ครั้ง และมีความแม่นยำ 92% ขณะที่ทีมเยือนอยู่ที่ 84% แต่จุดเปลี่ยนคือคุณภาพของการจบสกอร์ เชลซียิง 15 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 4 ส่วนวิลล่ายิง 12 ครั้ง เข้ากรอบถึง 9 ครั้ง แปลว่าทุกครั้งที่ทีมเยือนขึ้นมาถึงแดนสาม พวกเขาสร้างโอกาสจบจังๆ ได้บ่อยกว่ามาก
จำนวนฟาวล์ เชลซีทำไป 15 ครั้ง มากกว่าวิลล่าที่ 8 ฟาวล์ และรับใบเหลืองถึง 5 ใบ เทียบกับวิลล่า 3 ใบ ชี้ให้เห็นถึงความหัวร้อนโดยเฉพาะช่วงโดนไล่ตามและโดนแซง แม้ลูกเตะมุมเจ้าบ้านจะมากถึง 6 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูเพิ่มได้ ขณะที่วิลล่าได้เตะมุม 7 ครั้ง และใช้ลูกเซตพีซกดดันแนวรับสิงห์อยู่ตลอด
⏱️ เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- ⚽ นาที 30 แม็ตตี้ แคช ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลือง เกมเริ่มเดือด
- ⚽ นาที 37 เชลซีขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะ รีซ เจมส์ เปิดให้ จูเอา เปโดร เก็บบอลยิงในเขตโทษไม่เหลือ
- ⏱️ ทดเวลา 2 นาทีท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านคุมสกอร์นำเข้าห้องแต่งตัว
- 😡 นาที 57 รีซ เจมส์ มีจังหวะโวยผู้ตัดสิน โดนใบเหลืองข้อหาต่อปากต่อคำ
- 🔁 นาที 58 วิลล่าส่ง โอลลี่ วัตกินส์ ลงแทน เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย เปลี่ยนรูปเกมรุก
- 🔁 นาที 59 วิลล่าสับไพ่เพิ่ม ส่ง จาดอน ซานโช่ กับ อามาดู โอนาน่า แทน ดอนเยลล์ มาเลน และ จอห์น แม็คกินน์
- ⚽ นาที 63 วัตกินส์ใช้ความนิ่งหลุดเข้าไปซัดตีเสมอ 1-1 ให้แอสตัน วิลล่า
- 🟨 นาที 68 เทรโวห์ ชาโลบาห์ เข้าบอลแรงเกิน โดนใบเหลือง
- 🔁 นาที 69 เชลซีเปลี่ยนสามคนรวด ส่ง มาโล กุสโต้, เจมี่ กิตเทนส์, เลียม ดีแล็ป ลงสนาม
- 🟨 นาที 71 มอยเซส ไกเซโด้ ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองอีกคน
- 🔁 นาที 72 เชลซีใส่ เอสเตวาว ลงมาแทน โคล พัลเมอร์ เพื่อเร่งเกมริมเส้น
- 🟨 นาที 78 บูบาการ์ กามาร่า ทำฟาวล์หนักใส่ผู้เล่นเชลซี โดนใบเหลือง
- 🔁 นาที 83 วิลล่าปรับเกมรับส่ง ลูก้าส์ ดีญ แทน เอียน มัตเซ่น และ ลามาร์ โบการ์เด แทน กามาร่า
- ⚽ นาที 84 ยูริ ตีเลอม็องส์ จ่ายทะลุช่องให้ วัตกินส์ หลุดไปยิงเสียบเสาแรก แซงนำ 2-1
- 😡 นาที 90+4 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ไม่พอใจการตัดสินจนโดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียง
- 🔚 จบเกม แอสตัน วิลล่า บุกชนะ เชลซี 2-1 คว้า 3 แต้มกลับบ้านอย่างสุดแสบ
🏅 Player of the Match: โอลลี่ วัตกินส์
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแข้งยอดเยี่ยมของเกมนี้คือ โอลลี่ วัตกินส์ ตัวสำรองที่ลงมานาที 58 แล้วเปลี่ยนทุกอย่างให้วิลล่า คะแนน 9.1 สะท้อนผลงานโหดจัด ทั้งการหาพื้นที่ว่าง การวิ่งทำทางดึงตัวประกบ และที่สำคัญคือความเฉียบคมหน้ากรอบเขตโทษ
ประตูแรกเขาใช้เซนส์กองหน้าแท้ๆ หลุดหนีเซ็นเตอร์แล้วจบสกอร์เนียนๆ ส่วนประตูที่สองเป็นการอ่านทางบอลทะลุของตีเลอม็องส์ วิ่งตัดไลน์เชลซีแบบรู้จังหวะ ก่อนแปสวนมือผู้รักษาประตูอย่างเยือกเย็น บ้านกีฬา มองว่าวัตกินส์คือซูเปอร์ซับที่ทำให้แอสตัน วิลล่าดูเป็นทีมลุ้นแชมป์ของจริง ไม่ใช่แค่ทีมฟอร์มดีชั่วคราว
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
หลังจบเกมนี้ ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกขยับสำคัญ แอสตัน วิลล่ามี 39 แต้มจาก 18 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 แพ้ 3 ประตูได้เสีย +10 ขยับไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 40 แต้ม และตามหลังจ่าฝูงอาร์เซน่อลเพียง 3 คะแนนเท่านั้น เส้นทางลุ้นแชมป์เปิดกว้างสุดๆ สำหรับลูกทีมเอเมรี่
ด้านเชลซี แม้จะยังยึดอันดับ 5 ด้วย 29 แต้มจาก 18 นัด แต่ความพ่ายแพ้ในบ้านแบบนี้ทำให้ระยะห่างจากกลุ่มหัวตารางยืดออกไป และโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่มีแต้มเท่ากันหายใจรดต้นคอ เรื่องขวัญกำลังใจและความมั่นใจของทีมก็โดนถล่มไปเต็มๆ แฟนสิงห์ต้องลุ้นกันหนักว่าทีมจะรีบลุกกลับมาให้ได้เร็วแค่ไหน
ข้อมูลลำดับและฟอร์มช่วงหลังสะท้อนชัดว่า จากมุมมองของแฟนบอลที่เช็กผลผ่าน บ้านผลบอล ตอนนี้ วิลล่าคือหนึ่งในทีมที่น่าจับตามองที่สุดของลีก ขณะที่เชลซีเริ่มเข้าสู่โหมดกดดันทุกนัดในเลกสอง
📅 ตารางบอลและโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้า แฟนบอลที่ไล่ดู โปรแกรมบอล และ ตารางบอล พรีเมียร์ลีกต้องเตรียมตัวกันให้ดี เพราะทั้งสองทีมมีงานช้างรออยู่
เชลซีจะกลับมาลงสนามในบ้านอีกครั้งพบ บอร์นมัธ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นโอกาสทองในการกู้หน้าและเรียกความมั่นใจ ก่อนต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมโหดสุดๆ ช่วงต้นเดือนมกราคม นัดนั้นถ้ายังเล่นผิดพลาดเหมือนแมตช์นี้ มีโอกาสโดนยำได้ทุกเมื่อ
ฝั่งแอสตัน วิลล่าไม่ได้นุ่มนวลกว่าสักเท่าไหร่ เพราะต้องยกพลไปเยือนอาร์เซน่อลในช่วงสิ้นปี เกมนั้นคือวัดกันตรงๆ ว่าจะลุ้นแชมป์ยาวๆ ได้แค่ไหน ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต้นเดือนมกราคม ซึ่งถ้าเก็บชัยได้ต่อเนื่อง โอกาสยึดท็อปทรีแบบยาวๆ ก็ดูไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
📣 ติดตามบ้านผลบอลกับ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ผลแข่งสดใหม่หลังเกม ไปจนถึงมุมมองแท็กติกจัดเต็มแบบนี้ บ้านกีฬา ขอชวนให้เกาะติดอัปเดตสไตล์แฟนบอลตัวจริง ทั้งสรุปแมตช์เด็ด, อัปเดตคะแนน, และมุมมองดุดันมันส์ๆ ที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเพื่อนข้างบ้านนั่งถกบอลให้ฟัง
อย่าลืมเช็กผล บ้านผลบอล และวิเคราะห์เกมเดือดครั้งต่อไป รวมถึงอัปเดตทุกมุมมองแบบฉับไวได้ที่ บ้านกีฬา แล้วคุณจะไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอล
