
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เบิร์นลี่ย์ 1-3 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันนี้ 31/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกค่ำคืนนี้ เกมระหว่างเบิร์นลี่ย์เปิดเทิร์ฟ มัวร์ รับมือ “สาลิกาดุ” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จบลงด้วยสกอร์ 1-3 ฝั่งทีมเยือนโชว์ความนิ่งตั้งแต่นาทีแรก ก่อนรัวสองเม็ดเร็วแล้วคุมจังหวะเกมไว้หมด แม้เจ้าถิ่นจะฮึดไล่จนสกอร์กลับมาลุ้น แต่สุดท้ายโดนปิดบัญชีช่วงทดเจ็บ ทำให้แฟนตามเช็กสกอร์ผ่าน ผลบอลสด และหน้าเว็บ บ้านผลบอล เห็นภาพชัดเลยว่าคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายของสองทีมยังห่างกันอยู่พอสมควร
⏱️ ครึ่งแรก: สาลิกาดุบุกสองหมัดตั้งต้นก่อน เบิร์นลี่ย์ยิงคืนหวังเปลี่ยนโมเมนตัม
เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังไม่ถึงสองนาที นิวคาสเซิลก็กดดันสำเร็จทันที จากจังหวะโฉบเข้าทำของ โจลินตัน ที่ใช้พละกำลังบังบอลในเขตโทษก่อนซัดไม่เหลือ สกอร์ไหลเป็น 0-1 อย่างรวดเร็ว สูบอากาศในสนามเงียบไปชั่วขณะ
ความช็อกยังไม่ทันหาย นาทีที่ 7 โยอัน วิสซ่า หลุดช่องทะลุแนวรับเบิร์นลี่ย์ที่ยืนกันหลวมเกินไป ก่อนกดเม็ดสองเพิ่มให้ทีมเยือนนำ 0-2 ตั้งแต่สิบห้านาทีแรก รูปเกมตรงนี้เห็นชัดว่าแผงหลังเจ้าถิ่นรับมือการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของแนวรุกนิวคาสเซิลไม่ไหว
สกอตต์ พาร์กเกอร์ ต้องแก้เกมเร็ว ในนาที 15 เปลี่ยนเอา บาชีร์ ฮัมฟรีส์ ลงมาแทน มักซิม เอสเตฟ เพื่อลดความผิดพลาดด้านหลัง แล้วเกมของเบิร์นลี่ย์เริ่มกลับมามีชีวิต นาที 23 จอช โลเรนต์ สอดจากแดนกลางเข้าเขตโทษ รับบอลแล้วซัดผ่านนิค โพ๊ป เข้าไปอย่างเฉียบ ทำให้สกอร์ไล่มาเป็น 1-2 และแฟนเจ้าบ้านเริ่มมีเสียงเชียร์กลับมา
ท้ายครึ่งแรกมีจังหวะปะทะดุเดือด ใบเหลืองขาประจำอย่าง เควิน วอล์คเกอร์ โดนจดชื่อจากการโวยและปะทะกับโจลินตัน ขณะที่ ฟาบิโอ ลุยส์ ก็โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียฟาวล์ กรรมการ โรเบิร์ต โจนส์ ต้องคุมอารมณ์ทั้งสองฝั่งพอสมควร ก่อนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-2
🔁 ครึ่งหลัง: เบิร์นลี่ย์บุกแต่ไม่คม ก่อนโดนบทลงโทษช่วงทดเจ็บ
ครึ่งหลังเบิร์นลี่ย์ยกระดับเกมรุกใส่เต็มที่ เล่นแบบไม่มีอะไรจะเสีย ใช้จังหวะบุกจากกราบซ้ายของโลเรนต์ และลูกวิ่งเติมของวอล์คเกอร์กดดันแนวรับทีมเยือน แต่เมื่อเข้าพื้นที่สุดท้ายก็ยังขาดคุณภาพในการจบสกอร์
เอ๊ดดี้ ฮาว กดปุ่มปรับแท็กติก นาที 72 ส่ง เจค็อบ เมอร์ฟี่ ลงแทน ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เพื่อเพิ่มสปีดสวนกลับ จากนั้นนาที 74 เบิร์นลี่ย์ตอบโต้ด้วยการสลับเอา ยาค็อบ บรืน ลาร์เซ่น ลงแทน ลามีน ชาอูนา หวังเพิ่มความจัดจ้านริมเส้น
ช่วงนาที 80 นิวคาสเซิลเสริมความสดในแดนกลาง ส่ง เจค็อบ แรมซีย์ และ นิค โวลเตอมาเด ลงมาแทน แอนโธนี กอร์ดอน กับ วิสซ่า เพื่อคุมจังหวะเกมก่อนจบ ขณะที่เจ้าถิ่นส่ง ไมค์ เทรเซอร์ และ แอชลีย์ บาร์นส์ ลงเติมแนวรุกในช่วงท้าย
เกมทำท่าจะจบที่ 1-2 แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 บรูโน กิมาไรส์ ฉวยโอกาสจากช่องว่างหน้ากรอบเขตโทษ กดด้วยขวาอย่างเด็ดขาด บอลพุ่งเสียบตาข่ายเป็น 1-3 ปิดบัญชีให้ “สาลิกาดุ” เก็บสามแต้มกลับบ้านแบบไม่ต้องลุ้นท้ายเกมมากกว่านี้

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนนความสามารถ
🟣 เบิร์นลี่ย์ (3-4-3)
ผู้รักษาประตู
- มาร์ติน ดูบราฟก้า 5.9
กองหลัง
- มักซิม เอสเตฟ 5.9 (ออกน.15)
- ลูคัส ไพเรส 6.6
- เควิน วอล์คเกอร์ (กัปตัน) 7.5
กองกลางและวิงแบ็ก
- ฮยาลมาร์ เอ็คดาล 6.6
- เลสลีย์ อูโกชุกวู 7.0
- ฟาบิโอ ลุยส์ 6.6
- จอช โลเรนต์ 7.1 – ทำหนึ่งประตูและเป็นตัวขับเคลื่อนเกมส์รุกฝั่งซ้าย
- มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ 6.3
กองหน้า
- ลามีน ชาอูนา 6.5 (ออกน.74)
- อาร์มันโด โบรยา 6.9
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- บาชีร์ ฮัมฟรีส์ 7.9 (แทน เอสเตฟ น.15)
- ยาค็อบ บรืน ลาร์เซ่น 6.5 (แทน ชาอูนา น.74)
- ไมค์ เทรเซอร์ 6.4 (แทน ลุยส์ น.88)
- แอชลีย์ บาร์นส์ 6.3 (แทน อูโกชุกวู น.88)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: แม็กซ์ ไวส์, โอลิเวอร์ ซอนเน, โอลิเวอร์ พิมลอตต์, เจดอน แอนโทนี, เจย์ดอน บาเนล
⚫ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- นิค โพ๊ป 6.5
กองหลัง
- ลูอิส ฮอลล์ 7.0
- ฟาเบียน แชร์ 7.9
- มาลิค ธีอาว 6.7
- ลูอิส ไมลีย์ 6.8
กองกลาง
- ซานโดร โตนาลี 6.5
- บรูโน กิมาไรส์ (กัปตัน) 8.4 – คุมจังหวะเกมและยิงปิดกล่อง
- โยอัน วิสซ่า 7.2 – หนึ่งประตูสำคัญในช่วงต้นเกม
กองหน้า
- ฮาร์วีย์ บาร์นส์ 6.6 (ออกน.72)
- โจลินตัน 8.3 – ยิงเปิดหัวและเล่นบอลบังตัวแนวรับคู่แข่งตลอดเกม
- แอนโธนี กอร์ดอน 6.4 (ออกน.80)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เจค็อบ เมอร์ฟี่ 6.5 (แทน บาร์นส์ น.72)
- เจค็อบ แรมซีย์ 6.5 (แทน กอร์ดอน น.80)
- นิค โวลเตอมาเด 6.3 (แทน วิสซ่า น.80)
- โจ วิลล็อค 6.3 (แทน โจลินตัน น.90)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: อารอน แรมส์เดล, อเล็กซ์ เมอร์ฟี่, เลโอ ชาฮาร์, อาเดดาโมลา ซามูเอล อลาบี, ฌอน นีฟ
กลุ่มผู้เล่นบาดเจ็บของทั้งสองทีมยังยาว ทั้งคอร์เนอร์ โรเบิร์ตส์, เซกี้ อัมดูนี, ลายล์ ฟอสเตอร์, อักเซล ตวนเซเบ ทางฝั่งเบิร์นลี่ย์ และ เอมิล คราฟธ์, สเวน บ็อตมัน, ดาน เบิร์น, คีแรน ทริปเปียร์ ของนิวคาสเซิล ทำให้โค้ชทั้งสองต้องหมุนทีมกันพอสมควร
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ถ้าเปิดเทปย้อนดูทั้งเกมจะเห็นชัดว่ารูปแบบการยืนของสองทีมต่างกันอย่างสิ้นเชิง เบิร์นลี่ย์ใช้ 3-4-3 ตั้งโซนรับกลางสนาม หวังอาศัยการบีบพื้นที่ตรงกลางจาก อูโกชุกวู กับ เอ็คดาล แล้วดันวิงแบ็กอย่างโลเรนต์กับเอ็ดเวิร์ดส์ขึ้นมาทำเกมริมเส้น จุดเด่นคือเมื่อแย่งบอลได้สามารถสวนกลับเป็นแนวลึกทันที แต่จุดอ่อนคือระยะห่างระหว่างเซนเตอร์กับวิงแบ็กหลวม ทำให้โดนวิสซ่ากับกอร์ดอนหาช่องแทงทะลุได้ง่ายในช่วงต้นเกม
ฝั่งนิวคาสเซิลในระบบ 4-3-3 เล่นแบบทีมใหญ่ชัดเจน แบ็กสองฝั่งเติมสูงสลับกัน โดยฮอลล์มักดันขึ้นไปสร้างโอเวอร์แลปทางซ้าย ขณะที่ไมลีย์ด้านขวาคอยประคองให้ทีมไม่เสียสมดุล สิ่งที่ทำให้เกมรุกทีมเยือนเหนือกว่ามากคือการขยับของสามมิดฟิลด์ กิมาไรส์ยืนเป็นแกนกลาง คอยเชื่อมเกมสั้นแล้วเปลี่ยนจังหวะยาวไปด้านข้าง ส่วนโตนาลีลงต่ำรับบอลจากเซนเตอร์ก่อนแทงทะลุไลน์ให้สามแนวรุกวิ่งไล่หลังแนวรับเบิร์นลี่ย์อยู่ตลอด
ในเกมรับ นิวคาสเซิลเลือกดันไลน์สูง เน้นเพรสตั้งแต่แดนบน โจลินตัน กับวิสซ่าปิดช่องตัวรับบอลแรกของเจ้าถิ่น ส่วนกิมาไรส์กับโตนาลีเข้าแทร็ปกลางสนาม ทำให้เบิร์นลี่ย์แทบไม่มีโอกาสต่อบอลขึ้นจากพื้น ต้องโยนยาวแล้วหวังให้โบรยาชนะลูกกลางอากาศ ซึ่งไม่ใช่จุดแข็งมากนัก แท็กติกแบบนี้จึงทำให้คำว่า วิเคราะห์บอล หลังเกมออกมาในทิศทางเดียวแทบทุกสำนัก ว่านิวคาสเซิลเหนือกว่าอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในเรื่องจังหวะรุก การเพรส และการจัดการพื้นที่

📊 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังเกมยืนยันตามสายตา เบิร์นลี่ย์มีโอกาสยิง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่นิวคาสเซิลสร้างจังหวะทำประตูได้ถึง 19 ครั้ง และเข้ากรอบมากถึง 7 ครั้ง แปลว่าทุกครั้งที่ทีมเยือนขยับเกมขึ้นหน้า มักจบด้วยการยิงแทบจะตลอด
แม้เปอร์เซ็นต์การครองบอลจะใกล้เคียงกัน 49% ต่อ 51% แต่จำนวนการส่งบอลของนิวคาสเซิลอยู่ที่ 449 ครั้ง และมีความแม่นยำสูงถึง 83% สูงกว่าเจ้าบ้านที่ส่ง 339 ครั้ง แม่นยำ 81% เล็กน้อย ขณะที่เกมรับของเบิร์นลี่ย์ต้องทำฟาวล์ถึง 8 ครั้ง ได้ใบเหลือง 2 ใบ แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องใช้การตัดเกมหนัก ๆ เพื่อหยุดจังหวะสวนกลับของทีมเยือน ส่วนลูกตั้งเตะอย่างเตะมุม นิวคาสเซิลได้มากกว่า 4 ครั้งต่อ 3 ซึ่งช่วยให้พวกเขาขึงเกมรุกตามแบบฉบับทีมที่คุมจังหวะเกมได้เหนือกว่า
🔔 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 2′ นิวคาสเซิลได้ประตูขึ้นนำ 0-1 จากจังหวะโจลินตันหลุดเข้าไปยิงไม่เหลือ
- ⚽ 7′ ทีมเยือนหนีเป็น 0-2 เมื่อโยอัน วิสซ่า ใช้สปีดหนีแนวรับก่อนซัดผ่านมือดูบราฟก้า
- 🔁 15′ เบิร์นลี่ย์แก้เกมเร็ว ส่งบาชีร์ ฮัมฟรีส์ ลงมาแทนมักซิม เอสเตฟ
- ⚽ 23′ จอช โลเรนต์ สอดจากแถวสองกดเต็มข้อให้เบิร์นลี่ย์ไล่มา 1-2
- 🟨 28′ เควิน วอล์คเกอร์ โดนใบเหลืองจากจังหวะปะทะและโวยใส่โจลินตัน
- 🟨 32′ ฟาบิโอ ลุยส์ เหยียบสกัดช้าจนผู้ตัดสินต้องควักเหลืองเพิ่มให้เจ้าถิ่น
- ⚠️ 45+’ ทดเวลาครึ่งแรก 5 นาที แต่ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกที่ 1-2
- 🔁 72′ นิวคาสเซิลเปลี่ยนเกมรุก ส่งเจค็อบ เมอร์ฟี่ แทนฮาร์วีย์ บาร์นส์
- 🔁 74′ เบิร์นลี่ย์ส่งยาค็อบ บรืน ลาร์เซ่น ลงแทนลามีน ชาอูนา หวังเร่งเกมริมเส้น
- 🔁 80′ นิวคาสเซิลดรอปความเร็วเกม ส่งเจค็อบ แรมซีย์ และนิโคลัส โวลเตอมาเด แทนแอนโธนี กอร์ดอน กับวิสซ่า
- 🔁 88′ เจ้าบ้านส่งไมค์ เทรเซอร์ กับแอชลีย์ บาร์นส์ ลงมาแทนฟาบิโอ ลุยส์ และอูโกชุกวู เป็นไม้ตายชุดสุดท้าย
- ⚽ 90+3′ บรูโน กิมาไรส์ ส่องไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาเป็นประตู 1-3 ให้สาลิกาดุเก็บชัยชนะ
⭐ Player of the match: บรูโน กิมาไรส์ หัวใจแดนกลางนิวคาสเซิล
กองกลางชาวบราซิลโชว์ฟอร์มระดับผู้นำสมค่าคะแนน 8.4 ไม่ได้เด่นแค่ประตูปิดกล่องในช่วงทดเจ็บ แต่ตลอดทั้งเกมเขาเป็นจุดศูนย์กลางของบอลเกือบทุกจังหวะในแดนกลาง วิ่งเชื่อมเกมจากเซนเตอร์ขึ้นมาจนถึงสามแนวรุก คอยเปลี่ยนแกนบอลออกซ้ายขวาให้บาร์นส์และกอร์ดอน รวมถึงแทงทะลุช่องให้วิสซ่าได้วิ่งเล่นงานแนวรับเจ้าถิ่นหลายครั้ง
ในเกมรับ บรูโนยังอ่านจังหวะตัดบอลกลางอากาศได้ดี ช่วยบีบพื้นที่ไม่ให้เบิร์นลี่ย์ต่อบอลสั้นขึ้นหน้าโดยง่าย เรียกได้ว่าเป็น “เครื่องยนต์ตัวเดียว” ที่ทำให้รูปเกมของนิวคาสเซิลไหลลื่นตั้งแต่นาทีแรกจนจบ

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะเกมนี้ทำให้นิวคาสเซิล ยูไนเต็ดขยับแต้มขึ้นไปที่ 26 คะแนน จาก 19 นัด ผลต่างประตูได้เสีย +2 อยู่ในกลุ่มกลางตารางที่พร้อมไต่ขึ้นลุ้นพื้นที่ยุโรป หากรักษาฟอร์มเก็บชัยต่อเนื่องในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังได้
ฝั่งเบิร์นลี่ย์สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง รั้งอันดับ 19 มีเพียง 12 คะแนน จากผลงานชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ถึง 13 นัด ประตูได้เสีย -17 อยู่ในโซนตกชั้นเต็มตัว แถมฟอร์มช่วงหลังยังสะดุดต่อเนื่อง แฟนเจ้าบ้านจึงเริ่มมองตารางแล้วกลุ้ม เพราะช่องว่างกับโซนปลอดภัยเริ่มยืดออกเรื่อยๆ
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปและโปรแกรมบอลที่ต้องจับตา
จากหน้ารายการแข่งขันใน โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เบิร์นลี่ย์ยังต้องเจอด่านหินต่อเนื่อง เริ่มจากเกมบุกเยือนไบรท์ตันในต้นเดือนมกราคม ก่อนจะกลับมาเปิดเทิร์ฟ มัวร์ รับมือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งสองนัดนี้สำคัญระดับ “ชี้ชะตา” เพราะหากเก็บแต้มไม่ได้ โอกาสหนีโซนแดงจะยากขึ้นอีกหลายเท่า
ด้านนิวคาสเซิลได้เล่นในบ้านสองนัดติด มีคิวเปิดรังรับลีดส์ ยูไนเต็ด และคริสตัล พาเลซ เกมต่อเนื่องในช่วงต้นปี โปรแกรมแบบนี้ถือว่าเอื้อให้พวกเขามีโอกาสโกยแต้มเต็ม ถ้ายังรักษาความเฉียบคมในแดนหน้าพร้อมเกมรับที่แน่นอนแบบวันนี้ เป้าหมายขยับขึ้นกลุ่มบนของตารางก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
📣 เช็ก บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
คอบอลที่อยากตามทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่สกอร์สด นาทีต่อ นาที ไฮไลต์จังหวะสำคัญ ไปจนถึงการวิเคราะห์หลังเกมสไตล์เข้มข้น สามารถตามได้ครบจบในที่เดียวผ่านหน้าเว็บ บ้านผลบอล และบทความของ “บ้านกีฬา” ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งสกอร์สด สถิติละเอียด และมุมมองเจาะลึกเหมือนนั่งดูบอลข้างสนาม ใครไม่อยากพลาดความเคลื่อนไหวเดือด ๆ แบบคืนนี้ กดเข้ามาเช็กข่าวและผลบอลกันได้ทุกวันที่ บ้านกีฬา

