พิธีปิดซีเกมส์ 33 ที่ราชมังฯ บรรยากาศระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่
มหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเจ้าภาพ เดินทางมาถึงวันปิดฉากอย่างเป็นทางการ เมื่อค่ำวันที่ 20 ธันวาคม 2568 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก บรรยากาศในสนามแน่นขนัดทั้งบนอัฒจันทร์และในสนาม แข่งขันจบแต่ความอินของแฟนกีฬาอาเซียนยังไม่จบง่ายๆ
พิธีเริ่มขึ้นเวลา 19.00 น. ท่ามกลางแสงสีเสียงสุดอลังการ พร้อมการถ่ายทอดสดครบทุกช่องทางสำคัญทั้ง PPTV 36, NBT, T Sports 7 และ TrueVisions NOW ให้แฟนกีฬาในไทยและเพื่อนบ้านได้ร่วมสัมผัสโมเมนต์ประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน เหมือนทุกสายตาถูกจับจ้องเข้ามาที่กรุงเทพฯ ในค่ำคืนเดียวกัน
พิธีการสุดยิ่งใหญ่ เปิดด้วยถวายอาลัย – ปิดด้วยดับคบเพลิง
พิธีปิดครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธานในพิธีอย่างเป็นทางการ ช่วงต้นเริ่มด้วยการยืนสงบนิ่งถวายอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สะท้อนถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของปวงชนชาวไทย
จากนั้นจึงเป็นพิธีเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสมเกียรติ ก่อนต่อด้วยการแสดงชุด “The Sound of Whistle…เสียงสะท้อนจากการแข่งขัน” ถ่ายทอดทั้งแรงเชียร์ ความกดดัน น้ำตา และรอยยิ้มตลอดทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์ครั้งนี้ ตามด้วยขบวนพาเหรดนักกีฬาจาก 54 ชนิดกีฬา เดินลงสู่ลู่วิ่งให้แฟนๆ ได้ปรบมือชื่นชมกันแบบใกล้ชิด พร้อมวิดีทัศน์ประมวลภาพความประทับใจจากตลอดการแข่งขัน
ไฮไลต์ท้ายพิธีคือช่วง “ดับคบเพลิง” ที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นสัญลักษณ์ของการปิดฉากอย่างเป็นทางการ เปลวไฟที่ลุกโชติช่วงมาตลอดมหกรรมกีฬาจึงค่อยๆ เลือนหาย ทิ้งไว้แต่ความทรงจำและเรื่องราวให้พูดถึงต่อไปอีกนาน
เวทีระอุ! ‘ต้าห์อู๋–กระแต อาร์สยาม’ ขึ้นโชว์ ปลุกอารมณ์ทั้งสนาม
สีสันสำคัญของค่ำคืนนี้หนีไม่พ้นโชว์จากสองศิลปินชื่อดังอย่าง “ต้าห์อู๋” พิทยา แซ่ฉั่ว และ “กระแต อาร์สยาม” แตร บุญยะเลี้ยง ที่ขึ้นเวทีถ่ายทอดพลังด้วยเพลงและการแสดงชุดพิเศษในคอนเซ็ปต์ “The Sound of Champions…บทเพลงแห่งผู้ชนะ”
ทั้งคู่แบกความรู้สึกของนักกีฬา เจ้าภาพ และคนดูเอาไว้ในทุกจังหวะการร้องและการเต้น ถ่ายทอดบรรยากาศแห่งชัยชนะ ความเหนื่อยล้า และความภูมิใจของแต่ละชาติบนเวทีอาเซียนได้อย่างเข้มข้น แฟนกีฬาในสนามลุกขึ้นโบกธง ร้องเพลง และบันทึกภาพไว้กันแทบทุกคน เรียกได้ว่าเป็นโชว์ที่ช่วยปิดจบซีเกมส์ครั้งที่ 33 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ส่งไม้ต่อเจ้าภาพใหม่ มาเลเซีย รับธงลุยซีเกมส์ 2027
อีกหนึ่งช่วงสำคัญในพิธีปิด คือการส่งมอบธงสัญลักษณ์สมาพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากไทยไปสู่มือของตัวแทน มาเลเซีย เจ้าภาพ ซีเกมส์ 2027 หรือครั้งที่ 34 ตามลำดับ
ทันทีที่พิธีส่งมอบธงเสร็จสิ้น เจ้าภาพใหม่ก็จัดการเปิดตัวด้วยการแสดงพิเศษ โชว์วัฒนธรรม เอกลักษณ์ และความพร้อมในการต้อนรับชาติต่างๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถือเป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่า “อีกไม่นานเจอกันที่แดนเสือเหลือง” ให้แฟนกีฬาอาเซียนเริ่มนับถอยหลังกันตั้งแต่ตอนนี้
ทัพไทยผงาดเจ้าเหรียญทอง คว้า 233 ทอง มากสุดในประวัติศาสตร์
ด้านผลงานในสนาม ทีมชาติไทย ปิดซีเกมส์ 33 ด้วยความยิ่งใหญ่สุดๆ เมื่อผงาดครองตำแหน่ง เจ้าเหรียญทอง เป็นสมัยที่ 14 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ โดยตัวเลขผลงานรวมของทัพไทยในครั้งนี้คือ 233 เหรียญทอง 154 เหรียญเงิน และ 108 เหรียญทองแดง
ตัวเลข 233 ทอง ยังกลายเป็นการทำลายสถิติเดิมที่ เวียดนาม เคยทำไว้ เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าศักยภาพของวงการกีฬาไทยบนเวทีอาเซียนยังแข็งแกร่ง และยังพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกีฬาใหญ่ในสปอตไลต์อย่างฟุตบอล, วอลเลย์บอล, แบดมินตัน, กรีฑา ไปจนถึงกีฬาชนิดใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในโปรแกรมแข่งขัน ต่างช่วยกันโกยเหรียญเข้าตารางอย่างมีนัยสำคัญ
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนแค่แรงของนักกีฬา แต่ยังรวมถึงระบบสนับสนุนทั้งหมด ทั้งสมาคมกีฬา ทีมโค้ช ทีมแพทย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ไปจนถึงเสียงเชียร์จากแฟนกีฬาไทยทั่วประเทศ ที่ช่วยผลักดันให้ธงไตรรงค์โบกสะบัดบนยอดเสาธงบ่อยครั้งตลอดการแข่งขัน
ซีเกมส์กับความหมายต่อแฟนกีฬาไทยในระยะยาว
สำหรับแฟนกีฬาชาวไทย ซีเกมส์อาจไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่คือเวทีที่สร้าง “ฮีโร่คนแรก” ให้กับวงการกีฬาไทยมานับไม่ถ้วน หลายคนแจ้งเกิดจากซีเกมส์ ก่อนจะก้าวต่อไปคว้าเหรียญในเอเชียนเกมส์ โอลิมปิก หรือสร้างชื่อในลีกอาชีพระดับโลก การได้เห็นนักกีฬารุ่นใหม่ผลัดเปลี่ยนขึ้นมาแทนรุ่นพี่ คือสัญญาณว่ารากฐานของกีฬาไทยยังแข็งแรง
ซีเกมส์ครั้งที่ 33 จบลง แต่สิ่งที่ทิ้งไว้คือแรงบันดาลใจให้เด็กไทยลุกขึ้นมาจับรองเท้าสตั๊ด, ไม้แร็กเกต, รองเท้าวิ่ง หรืออุปกรณ์กีฬาอื่นๆ มากกว่าเดิม รวมถึงการตอกย้ำให้ทุกฝ่ายเห็นว่า หากมีการวางแผนระยะยาว การสนับสนุนที่จริงจัง และการจัดการที่เป็นระบบ ไทยยังมีศักยภาพจะพุ่งขึ้นไปแข่งขันกับชาติระดับท็อปในหลายชนิดกีฬาได้ในอนาคต
ลุ้นก้าวต่อไปของนักกีฬาไทย ติดตามได้ที่ บ้านกีฬา
แม้เปลวไฟซีเกมส์ 33 จะดับลงแล้ว แต่เส้นทางของนักกีฬาทีมชาติไทยเพิ่งเริ่มต้นสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นรายการชิงแชมป์เอเชีย เวทีโลก หรือลีกอาชีพต่างแดน แฟนกีฬาไทยยังมีโปรแกรมให้ตามเชียร์กันอีกยาวๆ ทั้งปี
ใครที่อยากเกาะติดทุกก้าวของนักกีฬาไทย ทุกเหรียญรางวัลสำคัญ ทุกสถิติใหม่ที่กำลังถูกสร้างขึ้น สามารถตามอ่านข่าวอัปเดต บทวิเคราะห์เข้มข้น และเรื่องราวเบื้องหลังในโลกกีฬาได้ที่ บ้านกีฬา แล้วมาดูไปพร้อมกันว่า จากความสำเร็จในซีเกมส์ครั้งนี้ ทัพไทยจะต่อยอดขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิมได้แค่ไหนในอนาคตอันใกล้
