ดราม่าลูกยางไทย! สมพร ใช้บางยาง เคลียร์เดือดปม เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา หลัง ยามีน กฤษดา นิลไสว แฉกลางสื่อ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพใหญ่ดราม่าวอลเลย์บอลทีมชาติชายกำลังเดือด

วงการ ลูกยางไทย สั่นสะเทือนทันทีหลังจบมหกรรม ซีเกมส์ 2025 ที่ทีมวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทยผงาดคว้าเหรียญทองต่อหน้าแฟนกีฬาชาวไทย นี่คือแชมป์ประวัติศาสตร์ในรอบ 8 ปี แต่แทนที่บรรยากาศจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดันมีประเด็น “เบี้ยเลี้ยงโดนหัก” โผล่ขึ้นมากลางดึก กลายเป็นไฟลุกทั้งโซเชียลในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ต้นเรื่องมาจากคำให้สัมภาษณ์ของ ยามีน กฤษดา นิลไสว ตัวเก่งทีมชาติไทย ที่ออกมาพูดแบบไม่อ้อมค้อมถึงเรื่องค่าตอบแทนและระบบสวัสดิการของนักกีฬาทีมชาติ จนแฟนกีฬาเริ่มตั้งคำถามว่า แชมป์ซีเกมส์เหรียญทอง แต่เบื้องหลังชีวิตจริงของนักกีฬา “อยู่ยากกว่าที่คนคิด” หรือไม่

ยามีนเปิดใจหลังคว้าแชมป์ซีเกมส์ พร้อมประกาศอำลาทีมชาติ

เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองในศึกซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ทัวร์นาเมนต์นี้เต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งจากการเล่นในบ้าน ความคาดหวังของแฟนๆ และภารกิจทวงความยิ่งใหญ่ของ วอลเลย์บอลทีมชาติไทย ฝั่งชายที่ห่างเหรียญทองมานานถึง 8 ปี

ภายหลังจบภารกิจ ยามีนออกมาเปิดใจถึงเส้นทางต่อไปของตัวเอง โดยย้ำชัดว่าจากนี้จะขอมุ่งหน้าเล่นในระดับลีกอาชีพเป็นหลัก และหากมีการทาบทามให้หวนคืนสู่ทีมชาติอีกครั้ง เจ้าตัวก็ไม่ปิดประตูเสียทีเดียว แต่ขอใช้คำว่า “ต้องพิจารณาอย่างหนัก”

นอกจากเรื่องอนาคตในสนาม ยามีนยังฉายสปอตไลต์ไปที่เรื่องค่าตอบแทนของนักกีฬา ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนรู้สึกกันมานาน แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดชัดๆ แบบที่เขาทำในครั้งนี้

ประเด็นเดือด! เบี้ยเลี้ยงวันละ 900 เหลือจริง 600

ยามีนหยิบเรื่อง เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา มาพูดแบบตรงไปตรงมา โดยเล่าว่าตัวเลขที่เห็นบนกระดาษกับเงินจริงที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น “ไม่เท่ากัน” และไม่ตอบโจทย์ค่าครองชีพยุคปัจจุบันเลย

“หลายปีแล้ว เบี้ยเลี้ยงวันละ 900 บาท แต่ถูกหักค่าโน่นค่านี่ เหลือจริงๆ แค่วันละ 600 บาท ซึ่งเป็นแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว” ยามีน กล่าวพร้อมยกตัวอย่างค่าครองชีพที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ตั้งแต่ราคาอาหารไปจนถึงค่าใช้จ่ายพื้นฐาน ขณะที่ตัวเลขเบี้ยเลี้ยงแทบไม่ขยับตามยุคสมัย

คำพูดนี้ทำให้แฟนกีฬาและคนในโลกออนไลน์เริ่มตั้งคำถามทันทีว่า ในยุคที่ราคาข้าวจานหนึ่งแตะหลักหลายสิบถึงร้อยบาท ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัวพุ่งขึ้นต่อเนื่อง การได้เบี้ยเลี้ยงสุทธิวันละ 600 บาท สำหรับการทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในนาม “ทีมชาติไทย” มันแฟร์แล้วหรือยัง

สังคมตั้งคำถาม ระบบสวัสดิการนักกีฬาทีมชาติไทยไปถึงไหนแล้ว

หลังคำให้สัมภาษณ์ถูกเผยแพร่ออกมา วงการกีฬาไทยเดือดทันที หลายคนมองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ประเด็นของคนๆ เดียว แต่สะท้อนโครงสร้างสวัสดิการนักกีฬาทีมชาติทั้งระบบ ทั้งในเรื่องเบี้ยเลี้ยง โบนัส การดูแลระยะยาว และโอกาสหลังเลิกเล่น

เสียงวิจารณ์ส่วนหนึ่งชี้ว่า ถ้านักกีฬาที่คว้าเหรียญทองระดับนานาชาติยังรู้สึกว่า “อยู่ยาก” แล้วนักกีฬารุ่นใหม่หรือชนิดกีฬาที่ไม่ได้มีสปอตไลต์ส่องมากนักจะลำบากแค่ไหน ขณะเดียวกันก็มีคนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบายให้ชัดว่า เบี้ยเลี้ยงถูกจัดสรรอย่างไร ใครเป็นคนกำหนด และมีอะไรที่สามารถพัฒนาได้บ้าง

สมพร ใช้บางยาง เคลียร์สั้นๆ ยืนยันสมาคมจ่ายครบ ไม่เคยหัก

เมื่อกระแสเริ่มแรงขึ้น ชื่อของ สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ก็ถูกจับตาทันทีว่าจะออกมาพูดอย่างไรกับดราม่าระลอกนี้ และในที่สุดเจ้าตัวก็ให้คำตอบแบบสั้น กระชับ แต่ตรงประเด็น

“เป็นเรื่องปกติ ถือปฏิบัติกันมาอย่างนี้ตลอด และไม่ใช่อำนาจของสมาคม เรื่องของเราคือจ่ายครบ ไม่เคยหักนักกีฬา” นายสมพรกล่าว

จากมุมมองของนายกสมาคมฯ ประเด็นสำคัญที่ถูกเน้นคือ เรื่องการจ่ายเงินในส่วนที่สมาคมรับผิดชอบนั้น “จ่ายครบ” ตามกรอบที่มีอยู่ และการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นเรื่องของระเบียบที่ยึดถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ภายใต้อำนาจของหน่วยงานที่ดูแลงบประมาณส่วนใหญ่ ไม่ใช่สมาคมเพียงฝ่ายเดียว

อย่างไรก็ตาม แม้คำชี้แจงจะชัดในเรื่องความรับผิดชอบของสมาคม แต่คำถามเรื่องความ “เหมาะสม” ของตัวเลขเบี้ยเลี้ยงกับค่าครองชีพจริง ก็ยังคงเป็นประเด็นที่แฟนกีฬาและสังคมจับตามองต่อไป

มองภาพกว้างของระบบเบี้ยเลี้ยงทีมชาติไทยในยุคค่าครองชีพพุ่ง

หากมองให้ลึกกว่าดราม่ารายกรณี เรื่องนี้สะท้อนโจทย์ใหญ่ของวงการกีฬาไทยแบบชัดเจน นั่นคือ การสร้างสมดุลระหว่าง “งบประมาณรัฐ–เอกชน” กับ “คุณภาพชีวิตนักกีฬา” เพราะนักกีฬาทีมชาติไม่ใช่แค่ตัวแทนไปแข่งเฉยๆ แต่เป็นภาพลักษณ์ของประเทศ เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาจับลูกบอล ลูกยาง หรือรองเท้าสตั๊ด

ในหลายประเทศที่กีฬาพัฒนาแล้ว ระบบเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการจะถูกวางให้ใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายจริงในชีวิตประจำวันมากที่สุด มีทั้งเบี้ยเลี้ยงที่ชัดเจน โบนัสตามผลงาน ประกันสุขภาพ การดูแลเรื่องอาการบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมหลังเลิกเล่นอาชีพ เพื่อให้คำว่า “ทีมชาติ” เป็นทั้งเกียรติยศและอาชีพที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจชั่วคราว

สำหรับไทย ประเด็นนี้กำลังถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกปี การจะผลักดันให้เยาวชนเดินบนเส้นทางนักกีฬาทีมชาติ จำเป็นต้องทำให้คนรู้สึกได้ว่า ถ้าทุ่มสุดตัวแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ก็ต้อง “ไปต่อได้” ไม่ใช่แค่มีชื่อบนเสื้อทีมชาติแล้วต้องลุ้นใช้ชีวิตเดือนชนเดือน

บทเรียนสำคัญต่ออนาคตวงการลูกยางไทย

ดราม่าเรื่องเบี้ยเลี้ยงที่เกิดขึ้นระหว่าง ยามีน กับมุมมองของ สมพร อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการถกเถียงครั้งใหญ่ในวงการ วอลเลย์บอลไทย แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่คือโอกาสสำคัญที่จะทำให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดกันอย่างจริงจัง ทั้งนักกีฬา สมาคม ผู้สนับสนุน และหน่วยงานภาครัฐ

หากสามารถพัฒนาระบบสวัสดิการให้ทันยุคสมัย พร้อมออกแบบโครงสร้างเบี้ยเลี้ยงและผลตอบแทนที่สอดคล้องกับค่าครองชีพจริงๆ วงการลูกยางไทยไม่เพียงแต่จะรักษานักกีฬารุ่นใหญ่เอาไว้ได้ แต่ยังจะดึงดูดให้เด็กรุ่นใหม่กล้าฝัน กล้าลงทุนกับเส้นทางอาชีพนี้มากขึ้นด้วย

ในระยะสั้น แฟนกีฬาไทยคงต้องจับตาดูต่อว่า หลังจากที่เสียงของนักกีฬาอย่างยามีนถูกส่งออกมาแล้ว จะมีการขยับเชิงนโยบายอย่างไร หรืออย่างน้อยที่สุด จะมีเวทีพูดคุยที่เปิดกว้างและโปร่งใสมากขึ้นหรือไม่

สำหรับคอลูกยางชาวไทย เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน ทั้งในมุมดราม่า ทั้งในมุมการพัฒนาวงการกีฬา ใครรักวอลเลย์บอลไทยต้องตามเรื่องนี้ต่อยาวๆ

แฟนกีฬาอยากติดตามทุกมุมร้อนของวงการลูกยางไทย และข่าวเด่นประเด็นแรงของโลกกีฬา อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา