แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายตัวเก่งของลิเวอร์พูลและกัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ ออกโรงยกย่องฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาสของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติที่สร้างปรากฏการณ์กับ นาโปลี จนสามารถคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2024/25 ไปครองได้อย่างสง่างาม สวนทางกับอดีตต้นสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หล่นลงเหวแบบไม่เป็นท่า
หลังจากถูกมองว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งในแผนการทำทีมของแมนยู แม็คโทมิเนย์ก็ถูกขายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์และความสงสัยว่าเขาจะไปรอดหรือไม่ในลีกต่างแดน แต่เด็กหนุ่มเลือดวิสกี้ไม่เพียงแค่ยืนหยัดได้ เขากลับ ระเบิดฟอร์มสุดโหด ซัดไป 12 ประตู และทำอีก 6 แอสซิสต์ ช่วยให้นาโปลีเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกอิตาลีอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรีย อา มาแบบไร้ข้อกังขา
โรเบิร์ตสัน กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ผมคิดว่าเขาย้ายไปที่นั่นเพราะอยากพิสูจน์บางสิ่ง เขาต้องการแสดงให้เห็นว่า แมนยู คิดผิดมหันต์ที่ปล่อยเขาออกไป เขาตอบโต้ด้วยการคว้าแชมป์ และเป็นแกนหลักของทีมที่เต็มไปด้วยความกระหายชัยชนะ ผมยกเครดิตทั้งหมดให้เขาเลย ทั้งเรื่องทัศนคติ ความมุ่งมั่น และหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้”
โรเบิร์ตสันยังกล่าวต่ออีกว่า “ช่วงที่อยู่กับแมนยู เขาแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง เข้า ๆ ออก ๆ จากตัวจริงอยู่ตลอด และผมคิดว่าเขาไม่ได้รับความเคารพในระดับที่เขาสมควรจะได้รับ แต่ที่นาโปลี เขากลายเป็นราชาของเมือง เขาพาแฟนบอลทั้งเมืองฉลองแชมป์ที่รอคอยมานาน ทุกคนรักเขา เหมือนที่พวกเขารัก บิลลี่ กิลมอร์”
ในขณะที่แม็คโทมิเนย์กำลังฉลองแชมป์, อดีตต้นสังกัดของเขาอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับตกต่ำถึงขีดสุด จบอันดับ 15 ของ พรีเมียร์ลีก และพลาดโอกาสคว้าตั๋วลุยฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า หลังจากพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ทำให้ฤดูกาล 2024/25 กลายเป็นปีแห่งความล้มเหลวโดยสมบูรณ์สำหรับทีมปีศาจแดง
“สำหรับชาวสกอตแลนด์อย่างพวกเรา มันคือความภูมิใจเมื่อได้เห็นหนึ่งในนักเตะบ้านเดียวกันไปสร้างชื่อในต่างแดน และยังได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามจากแฟนบอลต่างประเทศ” โรเบิร์ตสันกล่าวเสริม “ไม่ใช่แค่แม็คโทมิเนย์ แต่ บิลลี่ กิลมอร์ เองก็ได้รับความรักอย่างท่วมท้นในต่างแดนเช่นกัน ต้องยกเครดิตให้ทั้งสองคนที่กล้าไปไล่ล่าฝัน และคว้าแชมป์กลับมาได้สำเร็จ”
การย้ายออกจาก แมนยู ของแม็คโทมิเนย์ อาจถูกตั้งคำถามในวันแรก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าเขาคือผู้ชนะตัวจริง และเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของนักเตะที่ไม่ยอมให้เสียงวิจารณ์มาจำกัดเส้นทางของตัวเอง
ติดตามข่าววงการฟุตบอลระดับโลก พร้อมอัปเดต ผลบอลสด และวิเคราะห์แบบเจาะลึกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
