การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นกับแผงกลางของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อมีรายงานว่า กรานิต ชาคา มิดฟิลด์จอมบู๊ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา เรียบร้อยแล้ว และเหลือเพียงรายละเอียดเรื่องค่าตัวเท่านั้นก่อนจะปิดดีลอย่างเป็นทางการ
ตามรายงานจากแหล่งข่าวระดับความน่าเชื่อถือสูง ชาคาตกลงจะเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี กับทีม “ปีศาจแดง-ดำ” พร้อมรับค่าเหนื่อยต่อปีสูงถึง 4 ล้านยูโร หรือประมาณ 152 ล้านบาท (ยังไม่รวมโบนัส) ถือเป็นดีลที่แสดงให้เห็นชัดว่า มิลานมองเขาเป็นนักเตะตัวหลักสำหรับโปรเจกต์ลุยฤดูกาลใหม่อย่างแท้จริง
ทางฝั่งมิลานเตรียมยื่นข้อเสนอเงินราว 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 380 ล้านบาทให้กับ เลเวอร์คูเซ่น พิจารณา แม้จะยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการจากทีมแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุด แต่แนวโน้มของดีลนี้ถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า เลเวอร์คูเซ่น กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายทีมชุดใหม่ และพร้อมปล่อยนักเตะอาวุโสออกจากทีม
การอำลาทีมของ ชาคา จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะตัวหลักอีกรายที่ต้องแยกทางกับถิ่น ไบอารีน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ ถัดจากสามแข้งชื่อดังอย่าง โยนาธาน ทาห์ ที่หมดสัญญาแล้วย้ายไปร่วมทัพ บาเยิร์น มิวนิค, เจเรมี่ ฟริมปง และ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่ต่างพากันย้ายไป ลิเวอร์พูล เพื่อเสริมความแกร่งให้ทัพ “หงส์แดง” ยุคใหม่ภายใต้การนำของกุนซือคนใหม่
กรานิต ชาคา วัย 32 ปี กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งในเวทีบุนเดสลีกาหลังย้ายจาก อาร์เซน่อล มาอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น โดยกลายเป็นแกนหลักทั้งในด้านผลงานในสนามและความเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว เขาคือจิ๊กซอว์สำคัญของทีมภายใต้การคุมทัพของ ชาบี อลอนโซ่ ที่พาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
การย้ายไปร่วมทัพมิลานของชาคา ไม่เพียงเป็นดีลที่สะเทือนวงการตลาดนักเตะเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นการเติมเต็มจุดอ่อนของทีมรอสโซเนรี่ที่กำลังมองหากองกลางที่มีทั้งประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำ เพื่อผลักดันทีมให้กลับมาท้าชิงสคูเด็ตโต้อย่างเต็มตัวอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
สำหรับแฟนบอลที่ติดตามเส้นทางของชาคา มาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค, อาร์เซน่อล และล่าสุดกับเลเวอร์คูเซ่น เชื่อว่านี่คือก้าวต่อไปที่น่าสนใจในอาชีพของเขา และอาจเป็นดีลที่เปลี่ยนสมดุลของเกมในอิตาลีได้ไม่น้อย
ติดตามข่าวตลาดนักเตะและความเคลื่อนไหวดุเด็ดเผ็ดมันแบบเจาะลึกได้ทุกวันที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
