ภาพรวมตลาดผีแดง: อโมริมขอของจริงปี 2026 เปลี่ยนทีมอีกระลอก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังขยับหมากในตลาดนักเตะอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยแผนงานใหญ่คือการสนับสนุน รูเบน อโมริม ด้วยการเสริมทัพแบบ “ยกเครื่อง” ในปี 2026 ทั้งการมองหามิดฟิลด์ที่เพิ่มคุณภาพและพลังงานในแดนกลาง รวมถึงตำแหน่งวิงแบ็กที่สามารถสร้างอันตรายในพื้นที่ริมเส้นได้มากขึ้น เพื่อยกระดับทีมให้มีมิติการเล่นครบเครื่องกว่าเดิม
ในรายชื่อที่ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณา หนึ่งในชื่อที่กลับมาอยู่บนโต๊ะอีกครั้งคือ แมนยู ที่กำลังทำการบ้านหนักกับฟอร์มของผู้เล่นระดับท็อปจากเซเรีย อา ขณะเดียวกันเป้าหมายอีกคนที่ถูกมองว่า “เข้าระบบ” กลับส่งสัญญาณไม่ค่อยดี จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่แฟนบอลต้องจับตา
ดุมฟรีส์กลับมาอยู่เรดาร์: ยูไนเต็ด “ติดต่ออินเตอร์” ขอข้อมูลล่าสุด
รายงานระบุว่า ยูไนเต็ดได้ติดต่อไปยังอินเตอร์ มิลาน เพื่อสอบถามข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ เดนเซล ดุมฟรีส์ ทั้งเรื่องสภาพร่างกายและความเป็นไปได้ในการย้ายทีมปีหน้า โดยแหล่งข่าววงในยืนยันว่า INEOS กำลังชั่งน้ำหนักดีลนี้อย่างจริงจัง และติดตามสถานการณ์แบบใกล้ชิด
ประเด็นสำคัญคือ หากยูไนเต็ดจะเดินหน้าจริงจัง การยื่นข้อเสนอมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ เพราะดุมฟรีส์อยู่ระหว่างพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า ทำให้ทุกอย่างต้องวัดจังหวะให้เหมาะ ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่รวมถึงความพร้อมในการกลับมาลงสนามเต็มสูบด้วย
ทำไม “ดุมฟรีส์” ถึงน่าลุ้น: ฟอร์มแรงจนแฟนอินเตอร์ยกเป็นตำนาน
ถ้ามองในเชิงฟุตบอล ดุมฟรีส์คือวิงแบ็กขวาที่มีคุณสมบัติครบทั้ง “พละกำลัง-ความเร็ว-การสอดขึ้นเติมเกม-การเล่นเกมรับ” และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ยูไนเต็ดมองว่าเขาอาจช่วยเพิ่มความอันตรายในริมเส้นได้ทันที โดยเฉพาะหากทีมต้องการวิงแบ็กที่ไม่ใช่แค่เปิดบอล แต่ต้อง “พาทีมบุก” และ “ปิดเกมรับ” ได้ในคนเดียว
รายงานยังย้ำว่าอินเตอร์จะพิจารณา “serious and high-value offers”
(ข้อเสนอที่ “จริงจังและมูลค่าสูง”)
แม้ดุมฟรีส์จะเป็นกำลังสำคัญของทีม และยังมีสัญญายาวถึงมิถุนายน 2028 แต่ช่องว่างของดีลก็ไม่ได้ปิดตาย หากมีข้อเสนอระดับที่อินเตอร์มองว่าคุ้มค่าในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
อีกมุมที่ทำให้เรื่องนี้เดือดคือ ความสนใจไม่ได้มีแค่ยูไนเต็ด เพราะมีคู่แข่งร่วมลีกอย่างนิวคาสเซิล และแอสตัน วิลลา ที่พร้อมแย่งลายเซ็นไปเสริมเขี้ยวเล็บเช่นกัน นั่นหมายความว่า หากยูไนเต็ดเอาจริง ต้องเร็ว ต้องชัด และต้องกล้าทุ่ม
คำชมจากแฟนอินเตอร์ก็ยิ่งทำให้ชื่อของดุมฟรีส์ถูก “ปั้นกระแส” หนักขึ้นในปีนี้ โดยมีการใช้คำอย่าง “legendary”, “amazing” และ “relentless”
(“ระดับตำนาน”, “สุดมหัศจรรย์” และ “วิ่งไม่มีหมด/ไม่หยุดไล่ไม่หยุดเพรส”)
นี่คือภาพสะท้อนว่าเขาไม่ได้แค่เล่นดี แต่เล่นจนแฟนบอลรู้สึกว่าเป็นคนที่ทีม “ขาดไม่ได้” ซึ่งถ้าผีแดงดึงมาได้จริง มันคือดีลที่เพิ่มความแข็งในแนวทาง “วิงแบ็กทำเกม” แบบเห็นผลทันตา
เซเมนโยเริ่มไกลออกไป: เจ้าตัวเอนเอียงไป “ลิเวอร์พูล-แมนซิตี้”
จังหวะที่ยูไนเต็ดกลับมาหาดุมฟรีส์ ยิ่งน่าสนใจเพราะทีมยังชื่นชอบ อองตวน เซเมนโย ของบอร์นมัธอย่างมาก อโมริมมองว่าเซเมนโยสามารถเล่นได้ทั้งวิงแบ็ก หรือแม้แต่บทบาทเกมรุกในตำแหน่งหมายเลข 10 สองตัวได้ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นโปรไฟล์ที่ “เข้าระบบ” และเพิ่มความยืดหยุ่นในแท็กติก
อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่า ยูไนเต็ดเจออุปสรรคในการโน้มน้าวใจนักเตะ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ เซเมนโยกำลังพิจารณาแค่ 2 ทีมจากกลุ่มที่ไล่ล่า โดยทีมที่เขาให้ความสำคัญมากกว่าคือ ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ยูไนเต็ดกับสเปอร์สเหมือนโดนตัดชื่อออกจากตัวเลือกหลักไปแบบเจ็บ ๆ
อีกจุดที่ทำให้แฟนผีรู้สึกเสียวสันหลังคือ แมนซิตี้ถูกมองว่า “ขึ้นนำ” ในดีลนี้ เพราะเริ่มเร่งเจรจากับทีมงานของนักเตะมากขึ้น และมีรายงานว่าการตกลงเงื่อนไขส่วนตัวอาจไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว ขณะที่ลิเวอร์พูลก็ยังตามมาไม่ห่าง โดยความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ริชาร์ด ฮิวจ์ส กับบอร์นมัธถูกมองว่าเป็นแต้มต่อสำคัญในการปิดดีล
สำหรับอโมริม นี่คือข่าวที่ทำให้ผิดหวังได้จริง เพราะเขาชื่นชอบเซเมนโยมาก และยูไนเต็ดเองเคยคุยกับทีมงานของนักเตะเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว เพียงแต่สุดท้ายตัดสินใจไปเอา ไบรอัน เอ็มเบวโม และ มาเตอุส คุนญา แทน ซึ่งวันนี้อาจกลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ว่าทีมพลาดโอกาสสำคัญไปหรือไม่
ประเด็นร้อนเมนูหลัก: สัญญาเมนูยังไม่ลงตัว จนความสัมพันธ์แตะ “จุดแตกหัก”
นอกเหนือจากตลาดซื้อขาย เรื่องที่น่าเป็นห่วงในแคมป์โอลด์ แทรฟฟอร์ดคือสถานการณ์ของ ค็อบบี เมนู ที่ถูกระบุว่าความสัมพันธ์กับผู้บริหารกำลังถึง “breaking point”
(“จุดแตกหัก”)
สาเหตุหลักมาจากการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่ยังไม่ลงตัว และตัวนักเตะเองก็ไม่พอใจกับโอกาสลงสนามที่ลดลง โดยสัญญาปัจจุบันของเมนูจะหมดในมิถุนายน 2027 และค่าเหนื่อยที่รายงานว่าอยู่ราว 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ถือว่าน้อยกว่าหลายคนในทีมอย่างชัดเจน
เมื่ออโมริมเลือกใช้ บรูโน แฟร์นันด์ส และคาเซมิโรในแดนกลางบ่อยครั้ง ภาพที่ยิ่งทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นคือ น้องชายของเมนูถูกถ่ายภาพขณะใส่เสื้อ “Free Kobbie Mainoo”
(“ปล่อยค็อบบี เมนูเป็นอิสระ”)
ก่อนหน้านี้ยูไนเต็ดเคยปฏิเสธคำขอย้ายแบบยืมตัวของเมนูในช่วงซัมเมอร์ และรายงานระบุว่าสถานการณ์แย่ลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้เมนูกำลังมองไปถึงการย้ายออกแบบถาวรเมื่อถึงตลาดเดือนมกราคม โดยมีนาโปลีที่พยายามเร่งเครื่องแย่งลายเซ็น แต่ก็ต้องแข่งกับทีมจากอังกฤษ เยอรมนี และคู่แข่งร่วมลีกอิตาลีด้วย
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ยูไนเต็ดอาจเสีย “แกนอนาคต” ไปแบบเจ็บหนัก และส่งผลต่อภาพลักษณ์การบริหารทีมระยะยาวแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
เป้าหมายจากพาเลซ “ยังไม่พร้อมขาย”: มาเตต้า-มูนญอซโดนกันท่า
รายงานยังโยงถึงการมองหากองหน้าประสบการณ์เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของ เบนจามิน เชสโก โดยมีชื่อ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ถูกพูดถึง รวมถึง ดาเนียล มูนญอซ ที่มีข่าวว่าอยากก้าวไปสู่ความท้าทายระดับถัดไปในอาชีพ
แต่ข้อมูลจากแหล่งข่าวตลาดนักเตะระบุว่า คริสตัล พาเลซ ไม่ต้องการปล่อยทั้งสองคนในเร็ว ๆ นี้ เพราะสโมสรไม่อยากรื้อทีมที่กำลังไปได้สวย โดยก่อนหน้านี้ เอเบเรชี เอเซ ถูกขายให้ อาร์เซนอล ในเดือนสิงหาคม และ มาร์ค เกฮี ก็มีแนวโน้มย้ายแบบฟรีเอเยนต์หลังจบฤดูกาล ทำให้พาเลซยิ่งไม่อยากเสียแกนหลักเพิ่ม
มุมที่แฟนผีควรรู้: วิงแบ็กคือกุญแจของระบบ และตลาดปี 2026 จะเดิมพันอนาคต
ฟุตบอลสมัยใหม่ โดยเฉพาะทีมที่ต้องการเล่นเกมรุกแบบมีโครงสร้าง “ริมเส้น” คือจุดสร้างความแตกต่าง วิงแบ็กที่ดีไม่ใช่แค่ขึ้นสุดเส้นแล้วเปิด แต่ต้องคุมจังหวะ เติมเข้าเขตโทษ สลับตำแหน่ง และช่วยเกมรับแบบมีวินัย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมยูไนเต็ดจึงมองหาตัวที่ยกระดับได้จริงในตำแหน่งนี้ การลุยดีลดุมฟรีส์จึงไม่ใช่แค่ “ข่าวลือ” แต่สะท้อนทิศทางการสร้างทีมอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกัน การพลาดเซเมนโยหรือปัญหาเมนู ก็อาจเป็นตัวแปรใหญ่ที่บิดเกมแผนเสริมทัพได้ทั้งกระดาน
บทสรุปแฟนผี: ต้องเร็ว ต้องชัด ไม่งั้นโดนปาดหน้าอีกตามเคย
ภาพรวมตอนนี้คือ ยูไนเต็ดเริ่มขยับจริงกับดุมฟรีส์ และมีโอกาสเปิดดีลใหญ่หากยื่นข้อเสนอระดับที่อินเตอร์รับฟังได้ แต่ในฝั่งเซเมนโยถือว่าโดนข่าวร้ายเต็ม ๆ เพราะนักเตะเอนเอียงไปลิเวอร์พูลกับแมนซิตี้ ขณะที่ภายในทีมเองยังมีไฟลามเรื่องเมนูและสัญญาที่ไม่คืบ หากผีแดงอยากเปลี่ยนปี 2026 ให้เป็นปีแห่งการกลับมา การตัดสินใจในตลาดหน้าต่างต่อไปต้อง “คม” กว่านี้ และอย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือแบบเดิม ๆ แฟนบอลที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวเดือด ๆ ของตลาดนักเตะ อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

