จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง ซัสเซาโล่ 0-1 โตริโน่ วันนี้ 21/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา ค่ำคืนนี้ แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด ผ่านหน้าจอคงได้ลุ้นกันจนหยดสุดท้าย เมื่อซัสซูโอโล่เปิดบ้านเจอกับโตริโน่ในเกมที่เดิมพันด้วยพื้นที่กลางตาราง สุดท้ายเป็นฝั่งกระทิงหินที่บุกมาคว้า 3 แต้มสำคัญกลับตูรินด้วยสกอร์ 1-0 จากจุดโทษเด็ดขาดของ นิโคล่า วลาซิช ในนาที 66 พลิกเสียงวิจารณ์หลังช่วงต้นฤดูกาลสะดุดยาวให้เงียบกริบไปชั่วขณะ ขณะที่เจ้าถิ่นต้องกลืนน้ำลายตัวเอง พลาดโอกาสไต่แต้มแซงกลุ่มหัวตารางอย่างน่าเสียดาย
🔍 ครึ่งแรก: ซัสซูโอโล่คุมบอลแต่คมไม่พอ
ครึ่งแรกซัสซูโอโล่ของ ฟาบิโอ กรอสโซ เปิดเกมด้วยรูปแบบ 4-3-3 เดินหน้าคุมจังหวะทันที การต่อบอลจากแดนหลังผ่านคู่เซ็นเตอร์อย่าง วาลูคิวิช กับ อิดเซส ขึ้นมาถึงแผงกลางที่มี มาติช เป็นตัวคุมจังหวะ ทำให้เจ้าถิ่นครองบอลมากกว่าโตริโน่ชัดเจน แต่ปัญหาคือจังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายยังขาดความเฉียบคม แม้ คอเน่ จะกระชากกินตัวคู่แข่งได้ตลอด ฝั่งริมเส้นซ้ายขวาอย่าง ดอยก์ กับ โลริย็องเต้ ก็ยังหาทางเจาะแนวรับกระทิงหินไม่เข้า
โตริโน่ของ มาร์โก บาโรนี เลือกตั้งรับในระบบ 3-5-2 เน้นระเบียบวินัย เกมรับนำโดย กิเยร์โม่ มาริปัน ที่คุมแนวหลังได้อยู่หมัด แดนกลางใช้แทเมเซ่กับจอร์จินีสช่วยไล่บี้ ปล่อยให้ วลาซิช กับ อดัมส์ รอโต้กลับหลังแย่งบอลได้ รูปเกมแม้ซัสซูโอโล่จะมีเปอร์เซ็นต์ครองบอลเหนือกว่า แต่โอกาสยิงเข้ากรอบกลับเป็นของทีมเยือนมากกว่า
นาที 25 เกมเดือดทันทีเมื่อ โตริโน่เกือบได้เฮก่อนจากจังหวะ คอนราด อดัมส์ ลากเข้าเขตโทษแล้วล้มลง ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ แต่หลังเช็ก VAR ย้อนภาพจังหวะปะทะ กลับเปลี่ยนคำตัดสินยกเลิกจุดโทษไป ทำเอาม้านั่งสำรองฝั่งกระทิงหินเดือดจัด ขณะเดียวกันก็ปลุกให้แฟนบอลซัสซูโอโล่ในสนามตื่นตัวมากขึ้น
เกมกลางสนามเริ่มแข็งกร้าว ในนาที 32 เนมันย่า มาติช ต้องรับใบเหลืองจากการตัดฟาวล์กลางสนาม ตามมาด้วยใบเหลืองของ วาลูคิวิช นาที 38 แสดงให้เห็นว่าเจ้าถิ่นเองก็เริ่มหลุดโฟกัสเล็กน้อย จากนั้นทั้งสองทีมยังหาโอกาสจบสกอร์กันไม่ถนัด ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 พร้อมการทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาทีที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
🔥 ครึ่งหลัง: วลาซิชซัดโทษดับเกมเจ้าถิ่น
เข้าสู่ครึ่งหลังรูปเกมยังคงเดิม ซัสซูโอโล่พยายามต่อบอลล้อมแดนคู่แข่ง แต่โตริโน่ยืนโซนรับเหนียวแน่น ก่อนที่ บาโรนี จะขยับก่อนด้วยการส่ง อีวาน อิลิช กับ โจวานนี ซิเมโอเน่ ลงมาแทน กีเนติส และ ดูวาน ซาปาตา ในนาที 58 เพื่อเติมพลังในแดนหน้าและเพิ่มความหลากหลายในการขึ้นเกม
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงไม่กี่อึดใจ เพราะในนาที 63 กรอสโซตอบโต้ด้วยการถอด เชดดิรา กับ วรันค์ซ์ ออก แล้วส่ง ลูก้า โมโร กับ ลูก้า ลิปานี ลงมาเติมความสดหวังเร่งเกมรุก แต่ยังไม่ทันตั้งตัวก็มาโดนหมัดเด็ดของทีมเยือนเข้าให้ในนาที 66 เมื่อแนวรับซัสซูโอโล่พลาดจังหวะสกัด จนบอลไปโดนแขนในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้จุดโทษให้โตริโน่คราวนี้ไม่มี VAR มาช่วยเจ้าถิ่นอีกแล้ว
นิโคล่า วลาซิช รับหน้าที่สังหาร เจ้าตัวยืนจ้อง มูริช ก่อนกดด้วยขวาเต็มแรงส่งบอลเสียบตาข่าย แม้ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นจะพุ่งถูกทางแต่ปัดไม่ออก กลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้โตริโน่ และเป็นจังหวะเปลี่ยนหน้าเกมแบบชัดเจน
หลังเสียประตู ซัสซูโอโล่ไร้ทางเลือกต้องเร่งเครื่องหนักกว่าเดิม ส่ง ฟาอิล กันเด้ กับ อลิอู ฟาเดรา ลงมาเติมเกมรุกริมเส้นในช่วงนาที 78 และ นิโคลัส เปียรินี ในนาที 79 เพื่อหวังเจาะแนวรับทีมเยือนให้ได้สักครั้ง ทว่ากระดูกชิ้นโตที่ชื่อ มาริปัน ยังโหดไม่เปลี่ยน อ่านเกมและเก็บทุกลูกกลางอากาศอย่างใจเย็น ทำให้เจ้าบ้านไม่มีจังหวะยิงจังๆ มากไปกว่าลูกครอสลอยเข้ามือ เปลาเอรี
ช่วงท้ายเกม โตริโน่ยังไม่ลืมปิดเกมให้แน่นหนา ในนาที 85 เปลี่ยนส่ง ซิริล เอ็นกงเก้ ลงแทนอาดัมส์ เพื่อช่วยไล่บี้แนวรับ ส่วนช่วงนาที 88 มีการส่ง คริสเตียโน บิรากี และ เชซาเร กาซาเดย์ ลงเสริมกำลังอีกชั้น เกมถูกล็อกด้วยเกมรับแน่นหนา จบ 90 นาที โตริโน่บุกชนะ 1-0 คว้า 3 แต้มแบบสุดเขี้ยว ขณะที่แฟนเจ้าถิ่นได้แต่เปิด บ้านผลบอล เช็กตัวเลขแล้วถอนหายใจยาว
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🟢 ซัสซูโอโล่
ผู้จัดการทีม: ฟาบิโอ กรอสโซ
ระบบการเล่น: 4-3-3
ผู้รักษาประตู
- อาร์ยานเน็ต มูริช (49) – เรตติ้ง 7.5 โชว์เซฟสวย ๆ หลายจังหวะ ช่วยไม่ให้ทีมแพ้เละ
กองหลัง
- จอช ดอยก์ (3) – เรตติ้ง 5.5 เจองานหนักทั้งเกมเมื่อโดนบุกใส่ฝั่งตัวเองตลอด ก่อนโดนเปลี่ยนออกนาที 78
- ยาคุบ อิดเซส (21) – เรตติ้ง 6.0 รับใบเหลืองนาที 76 จากการตัดฟาวล์สำคัญ
- เซบาสเตียน วาลูคิวิช (6) – เรตติ้ง 6.5 โดนใบเหลืองนาที 38 แต่โดยรวมยังพอคุมพื้นที่ได้
- อาเดรียง วรันค์ซ์ (40) – เรตติ้ง 6.9 เติมสูงช่วยเกมรุกบ่อยครั้ง ก่อนถูกถอดนาที 63
กองกลาง
- ติน มูฮาเรโมวิช (80) – เรตติ้ง 6.6 ช่วยตัดเกมกลางสนามแต่ยังมีหลุดตำแหน่ง
- เนมันย่า มาติช (18, กัปตัน) – เรตติ้ง 6.9 หัวใจแดนกลาง รับใบเหลืองนาที 32 จากจังหวะฟาวล์หนัก
- คริสเตียน โวลปาโต (7) – เรตติ้ง 6.6 พยายามเชื่อมเกมรุกแต่จ่ายบอลเด็ด ๆ ยังน้อย โดนเปลี่ยนออกนาที 78
กองหน้า
- อิสมาล คอเน่ (90) – เรตติ้ง 7.2 ตัวรุกฝั่งซ้ายที่อันตรายที่สุดของเจ้าบ้าน ดวลหนึ่งต่อหนึ่งได้ดี
- อาร์กม็องด์ โลริย็องเต้ (45) – เรตติ้ง 6.2 มีโอกาสได้บอลเยอะแต่จังหวะสุดท้ายยังขาด ๆ เกิน ๆ ถูกเปลี่ยนออกนาที 79
- วาลิด เชดดิรา (9) – เรตติ้ง 6.1 วิ่งสู้ฟัดแต่ไม่ได้จบสกอร์แบบจัง ๆ ก่อนถูกถอดนาที 63
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ลูก้า ลิปานี (35) – เรตติ้ง 6.5 ลงนาที 63 แทน วรันค์ซ์ เพิ่มความสดให้กลางสนาม
- ลูก้า โมโร (24) – เรตติ้ง 6.5 ลงนาที 63 แทน เชดดิรา พยายามหาพื้นที่ในเขตโทษ
- ฟาอิล กันเด้ (5) – เรตติ้ง 6.5 ลงนาที 78 แทน ดอยก์ เติมเกมรุกฝั่งซ้าย
- อลิอู ฟาเดรา (20) – เรตติ้ง 6.5 ลงนาที 78 แทน โวลปาโต ช่วยลากเลื้อยริมเส้น
- นิโคลัส เปียรินี (77) – เรตติ้ง 6.4 ลงนาที 79 แทน โลริย็องเต้ พยายามหาช่องยิงไกลช่วงท้าย
นักเตะโดดเด่นฝั่งซัสซูโอโล่:
มูริช, คอเน่ และ มาติช ถือเป็นสามคนที่ยังรักษามาตรฐานไว้ได้ในวันที่ทั้งทีมเล่นต่ำกว่าฟอร์ม
🔴 โตริโน่
ผู้จัดการทีม: มาร์โก บาโรนี
ระบบการเล่น: 3-5-2
ผู้รักษาประตู
- อาเดรียโน เปลาเอรี (1) – เรตติ้ง 6.6 แม้ไม่ต้องเซฟยากบ่อย แต่คุมพื้นที่หน้าปากประตูได้ดี
กองหลัง
- อเล็กซิส ทาเมเซ่ (61) – เรตติ้ง 7.4 ช่วยทั้งเกมรับและเกมรุกทางขวา ก่อนถูกถอดนาที 88 เพื่อรักษาสภาพร่างกาย
- กิเยร์โม่ มาริปัน (13) – เรตติ้ง 7.8 หัวใจของแนวรับ อ่านทางบอลเฉียบขาด เคลียร์จังหวะอันตรายได้ตลอด
- อาร์เบอร์ อิสมัยลี (44) – เรตติ้ง 7.0 ยืนประกบกองหน้าซัสซูโอโล่ไม่ให้พักบอลได้ง่าย
กองกลาง
- มาร์ติน เปเดอร์เซ่น (16) – เรตติ้ง 6.5 ทำงานหนักทางฝั่งซ้าย ช่วยบังช่องริมเส้น
- จอร์จิอุส กีเนติส (66) – เรตติ้ง 7.0 ช่วยดักบอลหน้ากองหลัง ก่อนเปลี่ยนออกนาที 58
- คริสเตียน อัสลานี (32) – เรตติ้ง 6.7 คุมจังหวะเกมรับกลางสนาม ก่อนถูกถอดนาที 88
- นิโคล่า วลาซิช (10) – เรตติ้ง 7.3 ฮีโร่ของทีม ซัดจุดโทษประตูชัยและเชื่อมเกมรุกได้เนียนตา
- วาเลนติน ลาซาโร (20) – เรตติ้ง 6.7 เติมเกมริมเส้นซ้าย สร้างความกดดันใส่แบ็กซ้ายเจ้าบ้าน
กองหน้า
- คอนราด อดัมส์ (19) – เรตติ้ง 6.7 วิ่งปั่นป่วนแนวรับเจ้าถิ่น ได้ลุ้นจุดโทษตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 85
- ดูวาน ซาปาตา (91, กัปตัน) – เรตติ้ง 6.4 ช่วยพักบอลและดึงตัวประกบ ก่อนถูกถอดออกนาที 58 ให้ซิเมโอเน่ลงมาแทน
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อีวาน อิลิช (8) – เรตติ้ง 7.0 ลงนาที 58 แทน กีเนติส เติมพลังแดนกลาง และเป็นคนเรียกฟาวล์สำคัญหลายครั้ง
- โจวานนี ซิเมโอเน่ (18) – เรตติ้ง 7.2 ลงนาที 58 แทน ซาปาตา คอยไล่บีบแนวรับซัสซูโอโล่ไม่ให้ตั้งเกมง่าย
- ซิริล เอ็นกงเก้ (26) – เรตติ้ง 6.8 ลงนาที 85 แทน อดัมส์ ช่วยเก็บบอลโต้กลับช่วงท้าย
- คริสเตียโน บิรากี (34) – เรตติ้ง 6.6 ลงนาที 88 แทน อัสลานี เสริมความสดในแนวรับซ้าย
- เชซาเร กาซาเดย์ (22) – เรตติ้ง 6.6 ลงนาที 88 แทน ทาเมเซ่ ปิดเกมแดนกลางให้แน่นขึ้น
นักเตะโดดเด่นฝั่งโตริโน่:
มาริปัน, ทาเมเซ่ และ วลาซิช คือสามเสาหลักที่ทำให้แท็กติกของบาโรนีสมบูรณ์แบบทั้งเกมรับและโต้กลับ
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองของ บ้านกีฬา แท็กติกของทั้งสองทีมมีคาแรกเตอร์ชัดเจน ฝั่งซัสซูโอโล่เน้นการขึ้นบอลจากแดนหลัง เล่นบอลสั้นต่อเนื่องผ่านมาติชเป็นจุดหมุน ก่อนกระจายออกริมเส้นให้คอเน่กับโลริย็องเต้เล่นงานฟูลแบ็กคู่แข่ง การซ้อนตำแหน่งค่อนข้างดี แต่ปัญหาคือพื้นที่ระหว่างไลน์กองกลางกับกองหน้าห่างเกินไป ทำให้ เชดดิรา รับบอลในตำแหน่งลุ้นทำประตูได้น้อยมาก การโจมตีส่วนใหญ่กลายเป็นการโยนจากด้านข้างที่แนวรับโตริโน่รับมือได้สบาย
ในเกมรับ ซัสซูโอโล่พยายามดันไลน์ขึ้นสูงเพื่อกดให้ โตริโน่ ต้องทิ้งบอลยาว แต่คู่เซ็นเตอร์อย่างวาลูคิวิชกับอิดเซสบางจังหวะอ่านบอลผิด ทำให้เกิดช่องว่าระหว่างเซ็นเตอร์กับฟูลแบ็กหลายครั้ง โชคดีที่มูริชยืนตำแหน่งดีช่วยเซฟไว้ไม่ให้ทีมโดนมากกว่าหนึ่งลูก ความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดคือจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษที่นำไปสู่จุดโทษ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการยืนบล็อกจากลูกครอสที่ยังไม่ละเอียดพอ
ส่วนโตริโน่เล่นในสไตล์ที่ชัดเจนมาก เกมรับใช้แผงหลังสามคนยืนโซนแคบ บีบให้คู่แข่งต้องออกด้านข้าง แล้วค่อยดึงคนลงมาช่วยบล็อกจากแนวลึก การยืนตำแหน่งของมาริปันถือว่าสมบูรณ์แบบ ขึ้นโหม่งเคลียร์แทบทุกลูก ครึ่งหลังเมื่อส่ง อิลิช กับ ซิเมโอเน่ ลงมา ทีมมีมิติในเกมโต้กลับมากขึ้น เล่นบอลจังหวะเดียวแล้วแทงช่องหาพื้นที่ด้านหลังฟูลแบ็กซัสซูโอโล่ ทำให้กดดันแนวรับเจ้าบ้านจนเกิดจุดโทษลูกตัดสิน
หากมองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติกแล้ว เกมนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนของฟุตบอลที่ “คมกว่า ชนะ” แม้ซัสซูโอโล่จะคุมบอลและผ่านบอลแม่นกว่า แต่โตริโน่ใช้การจัดระเบียบเกมรับและความนิ่งในจังหวะสำคัญบดเอาชัยออกมาจากบ้านคู่แข่งได้แบบสุดเขี้ยว
📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมยืนยันภาพในสนามได้ชัดเจน ซัสซูโอโล่ครองบอล 53% ต่อ 47% ส่งบอลสำเร็จสูงถึง 86% จากจำนวนการจ่าย 434 ครั้ง ขณะที่โตริโน่จ่ายบอลไป 405 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 78% แต่โอกาสจบสกอร์กลับต่างกันแบบคนละเรื่อง เจ้าถิ่นยิงทั้งหมด 7 ครั้ง เข้ากรอบแค่ลูกเดียว ส่วนโตริโน่สร้างโอกาสได้ถึง 11 ครั้ง และยิงเข้ากรอบถึง 6 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าการบุกของผู้มาเยือนเฉียบขาดและมีคุณภาพมากกว่า
ด้านเกมปะทะ โตริโน่ยอมแลกด้วยการฟาวล์มากถึง 16 ครั้ง เทียบกับ 12 ครั้งของซัสซูโอโล่ และรับใบเหลืองเพียงใบเดียว ในขณะที่เจ้าบ้านโดนไปถึง 3 ใบ แต่ทั้งสองทีมต่างไม่มีใบแดงเกิดขึ้น ล้ำหน้าเป็นซัสซูโอโล่ที่โดนเป่าไป 3 ครั้ง ส่วนโตริโน่ไม่มีเลย ขณะที่ลูกเตะมุมเจ้าถิ่นได้ 2 ลูก ทีมเยือนได้ 3 ลูก ตัวเลขทั้งหมดสะท้อนว่าโตริโน่เล่นแบบมีวินัยและเน้นคุณภาพการจบสกอร์มากกว่าปริมาณ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚠️ 25′ โตริโน่ได้จุดโทษจากจังหวะ คอนราด อดัมส์ ล้มในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วยกเลิกคำตัดสิน
- 🟨 32′ เนมันย่า มาติช ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองใบแรกของเกม
- 🟨 38′ เซบาสเตียน วาลูคิวิช เข้าสกัดแรงเกินเหตุ โดนใบเหลืองเพิ่มให้ซัสซูโอโล่
- ⏱️ 45+3′ จบครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอ 0-0 หลังทดเวลา 3 นาที
- 🔁 58′ โตริโน่เปลี่ยนสองคน ส่ง อีวาน อิลิช แทน กีเนติส และ โจวานนี ซิเมโอเน่ แทน ซาปาตา เติมพลังแนวรุก
- 🔁 63′ ซัสซูโอโล่สวนกลับด้วยการส่ง ลูก้า โมโร แทน เชดดิรา และ ลูก้า ลิปานี แทน วรันค์ซ์
- ⚽ 66′ โตริโน่ได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษของเจ้าถิ่น นิโคล่า วลาซิช ยิงไม่พลาด ทีมเยือนนำ 1-0
- ⚠️ 72′ อีวาน อิลิช ทำฟาวล์กลางสนาม เกมเริ่มดุเดือดมากขึ้น
- 🟨 76′ ยาคุบ อิดเซส รับใบเหลืองจากการตัดฟาวล์ใกล้เขตโทษตัวเอง
- 🔁 78′ ซัสซูโอโล่ขยับอีกครั้ง ส่ง ฟาอิล กันเด้ แทน ดอยก์ และ อลิอู ฟาเดรา แทน โวลปาโต
- 🔁 79′ นิโคลัส เปียรินี ลงสนามแทน โลริย็องเต้ เติมความสดแนวรุก
- 🔁 85′ โตริโน่ส่ง ซิริล เอ็นกงเก้ แทน อดัมส์ เพื่อช่วยไล่บีบแดนหน้า
- 🔁 88′ โตริโน่เสริมความแน่นด้วยการส่ง คริสเตียโน บิรากี แทน อัสลานี และ เชซาเร กาซาเดย์ แทน ทาเมเซ่
- ⏱️ 90+4′ จบเกมหลังทดเจ็บ 4 นาที โตริโน่รักษาสกอร์ 1-0 คว้า 3 คะแนนออกจากบ้านซัสซูโอโล่ได้สำเร็จ
⭐ Player of the Match: กิเยร์โม่ มาริปัน
เกมนี้รางวัลยอดเยี่ยมต้องยกให้ กิเยร์โม่ มาริปัน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งของโตริโน่ที่ได้เรตติ้งสูงสุด 7.8 และเป็นแกนหลักของชัยชนะอย่างแท้จริง กองหลังชาวชิลีอ่านเกมได้เหนือชั้น เล่นลูกกลางอากาศแทบไม่แพ้ใคร เก็บบอลยาว และดักครอสจากริมเส้นซัสซูโอโล่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้รูปเกมโต้กลับของเจ้าบ้านถูกตัดตอนตั้งแต่หน้ากรอบเขตโทษ
นอกจากเกมรับเหนียวแน่นแล้ว มาริปันยังคอยสั่งการไลน์หลัง ดันทีมขึ้นลงตามจังหวะอย่างมีระเบียบ ทำให้ซัสซูโอโล่แทบหาช่องแทงทะลุช่องไม่ได้เลย พูดได้ว่าถ้าปราการหลังรายนี้ไม่อยู่ในสนาม โตริโน่อาจไม่สามารถล็อกสกอร์ 1-0 ได้จนจบเกม
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา
ชัยชนะเกมนี้ส่งผลโดยตรงต่อภาพรวมตารางคะแนนกัลโช่ เซเรียอา ซัสซูโอโล่แข่ง 16 นัด มี 21 คะแนน อยู่โซนกลางตารางกลุ่มลุ้นพื้นที่ครึ่งบน แต่การพ่ายคาบ้านครั้งนี้ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไล่จี้ทีมอย่างโคโม่และลาซิโอ ที่มีแต้มเหนือกว่าเพียงเล็กน้อย แถมฟอร์ม 5 นัดหลังของซัสซูโอโล่มีสะดุดอยู่หลายเกม ทำให้ต้องกลับไปเช็กฟอร์มตัวเองอย่างจริงจัง
ฝั่งโตริโน่เก็บเพิ่มเป็น 20 คะแนนจาก 16 นัด ขยับขึ้นมาไล่จี้ซัสซูโอโล่แบบติด ๆ และสำคัญที่สุดคือสร้างระยะห่างจากโซนหนีตกชั้นได้มากขึ้น เมื่อมองไปที่ท้ายตารางยังมีทีมอย่าง เวโรนา, ปาร์ม่า, เจนัว, ปิซา และโฟรซิโนเน ที่แต้มตามหลังอยู่ หากกระทิงหินรักษาฟอร์มแบบเกมนี้ต่อไป มีลุ้นขยับขึ้นไปอยู่โซนกลางบนของ ตารางคะแนน ได้ไม่ยากในช่วงเลกสอง
📅 ตารางบอลเซเรียอา นัดถัดไป
ในแง่ของ โปรแกรมบอล ต่อจากนี้ ทั้งสองทีมยังมีภารกิจสำคัญรออยู่ ซัสซูโอโล่ต้องออกไปเยือนโบโลญญาในเกมลีก ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านเจอกับปาร์ม่าในต้นปีใหม่ ซึ่งเป็นสองนัดที่ชี้ชะตาว่าพวกเขาจะยังเกาะกลุ่มกลางบนของตารางได้หรือไม่
ด้านโตริโน่มีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของกายารีในนัดถัดไป แล้วต่อด้วยเกมหนักเมื่อต้องบุกเยือนเวโรนา เกมเหล่านี้ล้วนเป็นแมตช์ที่คู่แข่งอยู่โซนล่างของตาราง หากเก็บคะแนนได้ต่อเนื่อง โอกาสไต่แรงกิ้งใน ตารางบอล และสร้างความมั่นใจก่อนชนทีมใหญ่จะสูงขึ้นทันที
📺 ติดตามบ้านผลบอล และคอบอลห้ามพลาดที่บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของศึกกัลโช่ เซเรียอา ตั้งแต่สรุปสกอร์แบบเรียลไทม์ ไปจนถึงบทวิเคราะห์จัดหนักจัดเต็ม แบบเกมนี้ซัสซูโอโล่พลาดท่าให้โตริโน่ สามารถเช็กทั้ง บ้านผลบอล และอัปเดต ผลบอลสด คู่สำคัญได้ตลอดที่ บ้านกีฬา เราพร้อมเสิร์ฟสถิติหลังเกม มุมมองเชิงแท็กติก และอัปเดตโปรแกรมแข่งให้แฟนบอลได้เกาะติดทุกคืนไม่มีหลุดโผ
