เด รอสซี่น้ำตาตกใน โรม่าอำลาอบอุ่นแต่เจ็บจี๊ด พาเจนัวแพ้ 1-3 ที่โอลิมปิโก้

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เด รอสซี่คืนถิ่นโอลิมปิโก้ในฐานะคู่แข่ง

คืนอันแสนพิเศษที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก้ กลายเป็นค่ำคืนรสชาติขมสำหรับ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ตำนานที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของ เอเอส โรม่า เมื่อเขาคุม เจนัว กลับมาเยือนบ้านเก่า และต้องเห็นทีมตัวเองพ่ายไป 1-3 ต่อหน้าแฟนบอลที่ยังรักเขาเต็มหัวใจ

นี่คือเกมแรกของเด รอสซี่ที่ได้เหยียบโอลิมปิโก้อีกครั้ง นับตั้งแต่ถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือโรม่าเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน แม้บรรยากาศรอบสนามจะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและการต้อนรับสุดยิ่งใหญ่ แต่ในเชิง สรุปผลบอล ทุกอย่างกลับไม่เข้าทางเขาเลยสักนิด

รูปเกม: โรม่าเฉียบคม เจนัวตามเกมไม่ทัน

ในสนาม ฝั่งโรม่าเริ่มเกมด้วยความมุ่งมั่น กดดันใส่เจนัวตั้งแต่ต้น และใช้จังหวะเข้าทำที่เฉียบคมจบสกอร์ได้อย่างมีคุณภาพ ประตูจาก มาติอัส ซูเล่, มานู โกเน่ และ เอแวน เฟอร์กูสัน ส่งให้โรม่าออกนำห่าง 3-0 ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก แฟนเจ้าถิ่นในโอลิมปิโก้แทบไม่ได้นั่งพัก เสียงเชียร์ดังกระหึ่มเหมือนคืนยุโรปในอดีต

เจฟ เอคาเตอร์ มายิงตีไข่แตกให้เจนัวในนาที 87 ลดสกอร์ลงมาเป็น 3-1 แต่ก็สายเกินไปที่จะไล่กลับมาได้ ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของโรม่าอย่างเด็ดขาด ขณะที่เด รอสซี่ต้องกลืนความผิดหวังไว้ในใจ แม้ภายนอกจะดูนิ่งแต่ภายในเดือดพล่าน

สำหรับแฟนบอลที่ชอบเช็กผลย้อนหลังหรือดูภาพรวมเกม ค่าเกมนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแมตช์ที่แฟนโรม่าอยากย้อนดู ไฮไลท์บอล ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่สำหรับเด รอสซี่ มันคือ 90 นาทีที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่าง “หน้าที่” กับ “ความรู้สึก” อย่างแท้จริง

ช่วงอำลาหลังเกม: ตำนานโรม่าในอ้อมแขนแฟนบอล

ก่อนเริ่มเกม บรรยากาศเต็มไปด้วยความซึ้ง เด รอสซี่เดินออกมาที่ข้างสนามได้รับการต้อนรับจากลูกทีมเก่าอย่าง เปาโล ดีบาล่า, จานลูก้า มันชินี่ และโกเน่ ที่เข้ามาสวมกอดให้กำลังใจอย่างอบอุ่น เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นชัดว่า แม้ตำแหน่งจะเปลี่ยนจาก “โค้ชโรม่า” เป็น “กุนซือทีมคู่แข่ง” แต่ความผูกพันในห้องแต่งตัวยังไม่เคยจางหาย

หลังจบ 90 นาที แม้เจนัวจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่โรม่าและแฟนบอลทั้งสนามเลือกจะให้เกียรติตำนานของพวกเขา เด รอสซี่ได้เดิน “แลปออฟฮอนเนอร์” รอบสนาม ปรบมือขอบคุณแฟนบอลทั้งสี่ทิศ ขณะที่เพลง Grazie Roma บรรเลงก้องไปทั่วโอลิมปิโก้

เมื่อเดินมาถึงโซน คูร์วา ซุด แฟนบอลโรม่าโบกธงที่มีชื่อและเบอร์เสื้อเก่าของเด รอสซี่ ท่ามกลางเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างไม่ขาดสาย เด รอสซี่เองก็เดินเข้าไปใกล้รั้วอัฒจันทร์ จับมือและขอบคุณแฟนบอลทีละคน นี่คือภาพของความสัมพันธ์ระหว่าง “คนของสโมสร” กับ “สโมสรของหัวใจ” ที่ฟุตบอลสมัยนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก

คำพูดจากใจเด รอสซี่: โกรธในใจ เสียใจต่อฟอร์มทีม

แม้จะได้รับการต้อนรับระดับฮีโร่ แต่เด รอสซี่ยอมรับตรงๆ ว่าเขาไม่พอใจกับผลงานของเจนัวในเกมนี้ โดยให้สัมภาษณ์กับ DAZN หลังจบเกม พร้อมใบหน้าที่จริงจังและเคร่งเครียด

“ผมโกรธอยู่ข้างใน มันน่าหงุดหงิดเพราะผมไม่ชอบฟอร์มการเล่นที่เราทำกันออกมา ความรู้สึกนั้นยังอยู่ แม้จะเป็นค่ำคืนอำลาครั้งสุดท้าย ได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนบอลของผม จากแฟนบอลเก่าของผม จากลูกทีมเก่าของผมก็ตาม” เด รอสซี่อธิบาย

เขายังย้ำว่าปฏิกิริยาของแฟนบอลโรม่า จะยังอบอุ่นเหมือนเดิมไม่ว่าเกมจะจบแบบไหน

“พวกเขาก็คงทำแบบนี้เหมือนเดิม ไม่ว่าเกมจะจบด้วยผลเสมอ ชนะ หรือแพ้ แต่มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าผมได้ไปบอกลาพวกเขาหลังจากเราเล่นกันได้ดีกว่านี้”

และเขาปิดท้ายด้วยการขอโทษแฟนบอลที่เห็นเขายืนหน้าตึงในช่วงอำลา

“ผมขอโทษที่ระหว่างอำลาผมทำหน้าตึงแบบนั้น แต่พวกเขารู้จักผมดี พวกเขารู้ว่าผมไม่มีวิธีใช้ชีวิตกับฟุตบอลแบบอื่น”

คำพูดเหล่านี้สะท้อนตัวตนของเด รอสซี่อย่างชัดเจน – คนที่มองฟุตบอลเป็นเรื่องจริงจังสุดหัวใจ ไม่ใช่แค่เกม 90 นาทีในปฏิทินแข่งธรรมดา

เด รอสซี่ กับโรม่า: ความผูกพันที่ใหญ่กว่าตำแหน่งกุนซือ

สำหรับแฟน ข่าวบอล ส่วนใหญ่ทั่วโลก เด รอสซี่ คือภาพจำของ “กองกลางเลือดหมาป่า” ที่ทุ่มเททุกจังหวะสไลด์ ทุกการเข้าปะทะ และทุกวินาทีในสนามเพื่อตราหมาป่าแห่งกรุงโรม เขาเติบโตจากอะคาเดมี เป็น “วัน คลับ แมน” ในยุคที่วงการฟุตบอลแทบไม่เหลือคนแบบนี้แล้ว

แม้วันนี้เขาจะเดินเข้าสู่เส้นทางกุนซือ และต้องยืนในฝั่งตรงข้ามของโรม่า แต่สิ่งที่เห็นในโอลิมปิโก้คือ การยอมรับที่แฟนโรม่ายังมีให้เขาอย่างไม่เสื่อมคลาย มันย้ำเตือนว่าในโลกของลูกหนัง ความทรงจำและความซื่อสัตย์ต่อสโมสรมีคุณค่ามากกว่าแค่ถ้วยรางวัล

ภาพของเด รอสซี่ที่ยืนหน้าตึงแต่ยังยกมือไหว้ขอบคุณแฟนบอลทุกโซนในสนาม บอกได้ชัดเจนว่า เขาเจ็บที่ทีมตัวเองแพ้ แต่ก็ยังปลื้มและซาบซึ้งกับการได้รับเกียรติจากบ้านเก่าที่เขารักเหมือนครอบครัว

มุมมองจาก บ้านกีฬา: ความเป็นโปรของเด รอสซี่ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่

ในสายตา บ้านกีฬา เกมนี้คือภาพสะท้อนชัดเจนของคำว่า “มืออาชีพตัวจริง” เด รอสซี่เลือกโฟกัสที่ผลงานทีมก่อนความโรแมนติก ทุกคำพูดของเขาหลังเกมแสดงให้เห็นว่า แม้จะซึ้งกับบรรยากาศ แต่เขาไม่ยอมลดมาตรฐานตัวเองเพียงเพราะเป็นคืนพิเศษ เขายังวิจารณ์ฟอร์มลูกทีมอย่างตรงไปตรงมา

ในยุคที่แฟนบอลเช็กผลผ่านเว็บ บ้านผลบอล นั่งดูรีเพลย์ไฮไลต์ผ่านคลิปต่างๆ ภาพของโค้ชที่ยัง “โกรธในใจ” ทั้งที่ได้รับการอำลาระดับฮีโร่ กลับยิ่งทำให้เด รอสซี่ดูน่าเคารพมากกว่าเดิม เพราะมันแสดงว่าเขายังจริงจังกับฟุตบอลเหมือนสมัยใส่ปลอกแขนกัปตันไม่มีเปลี่ยน

นี่แหละเสน่ห์ของ เซเรียอา และฟุตบอลอิตาลีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความดิบ และความจริงใจของคนในเกม ไม่ได้มีแค่แท็กติกกับสถิติ แต่ยังมีเรื่องของความผูกพัน ความภักดี และหัวใจที่แฟนบอลทั่วโลกสัมผัสได้

แฟนบอลที่อยากตามทุกอารมณ์ในโลกฟุตบอล ตั้งแต่เรื่องในสนามยันเรื่องหัวใจของคนลูกหนัง อย่าลืมติดตามเรื่องราวมันส์ๆ แบบนี้ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา