เส้นทางจากแชมป์โลกสมัครเล่นสู่เวทีการเมือง
ชื่อของ “บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ ไม่ใช่คนแปลกหน้าของคอกีฬาและแฟนสนุกเกอร์ชาวไทย จากอดีตนักแม่นคิวดีกรี แชมป์สมัครเล่นโลก ปี 2550 ที่เคยสร้างชื่อให้ประเทศ จนกลายเป็น ผู้บรรยายสนุกเกอร์ ฝีปากคมบนหน้าจอโทรทัศน์ วันนี้เขาตัดสินใจก้าวข้ามเส้นแบ่งจากวงการกีฬาไปยังโลกการเมือง เตรียมลงสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขต ในนาม พรรคประชาชน ลุยศึก เลือกตั้ง 8 กุมภาพันธ์ 2569
สำหรับครั้งนี้ อรรถสิทธิ์ไม่ได้มาเล่น ๆ แต่คือการ “ลงสนามจริง” อีกครั้ง หลังจากเคยชิมลางงานการเมืองมาแล้วในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อปี 2567 ทำให้เขารู้จักเกมการเมืองมากขึ้น ไม่ต่างจากการอ่านเกมบนโต๊ะสนุกเกอร์ที่ต้องละเอียดทุกจังหวะ
โปรไฟล์ “บิ๊ก สระบุรี” จากนักแม่นคิวสู่กูรูสนุกเกอร์
อรรถสิทธิ์ มหิทธิ คือหนึ่งในนักสนุกเกอร์ไทยที่เคยผ่านการเทิร์นโปรเล่นอาชีพ ในยุคที่วงการสนุกเกอร์ไทยยังคึกคัก ชื่อของเขาถูกพูดถึงทั้งในฐานะนักกีฬาฝีมือจัดจ้าน และในฐานะกูรูที่มองเกมสนุกเกอร์ได้ลึกกว่าคนทั่วไป เมื่อผันตัวมารับหน้าที่ผู้บรรยายทางโทรทัศน์ น้ำเสียงและการวิเคราะห์ของเขาทำให้แฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อยติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง
ประสบการณ์ทั้งในฐานะนักกีฬาอาชีพและผู้บรรยาย ส่งผลให้เขาเข้าใจทั้งมุมของคนลงแข่งและมุมของคนดู นั่นกลายเป็นทุนสำคัญที่เจ้าตัวเชื่อว่าจะต่อยอดได้บนเวทีการเมือง ที่ต้องฟังเสียงประชาชนและรู้จังหวะ “รุก-รับ” ให้ถูกเวลา
ทำไมเลือกพรรคประชาชนเป็นบ้านหลังใหม่ทางการเมือง
เหตุผลที่ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ เลือกลงสมัครในสังกัด พรรคประชาชน เขามองว่าตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ เชื่อในความถูกต้อง และพบว่าหลายนโยบายของพรรคไปในทิศทางเดียวกับแนวคิดส่วนตัว ทั้งเรื่องโอกาสของคนตัวเล็ก การพัฒนาพื้นที่ และการให้ความสำคัญกับเยาวชนและกีฬา
เขามองว่าการลงเล่นการเมืองครั้งนี้ไม่ใช่แค่การ “เปลี่ยนอาชีพ” แต่คือการใช้ประสบการณ์จากโลกกีฬา ที่คุ้นเคยกับคำว่า “แฟร์เพลย์” มาปรับใช้บนเวทีสภา ที่ควรยืนอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสและรับผิดชอบต่อประชาชน
เขต 3 จังหวัดสระบุรี พื้นที่บ้านเกิดคือจุดเริ่มต้น
การเลือกลงสมัครใน เขต 3 จังหวัดสระบุรี ไม่ได้เกิดจากการสุ่มเลือก แต่เป็นพื้นที่ที่เขาผูกพันโดยตรง เขตนี้ประกอบด้วย อำเภอวิหารแดง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าตัว, อำเภอหนองแค, อำเภอหนองแซง รวมถึงพื้นที่ตำบลหนองโน อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
การเริ่มต้นจากบ้านเกิดสะท้อนให้เห็นว่าเขาต้องการตอบแทนพื้นที่ที่หล่อหลอมเขามาตั้งแต่เด็ก เหมือนนักกีฬาที่อยากพาทีมบ้านเกิดขึ้นลีกสูงสุด อรรถสิทธิ์รู้ดีว่าพื้นที่เหล่านี้ต้องการอะไร ทั้งเรื่องปากท้อง โครงสร้างพื้นฐาน และโอกาสของเยาวชน จึงตั้งใจใช้เวที สส. เป็นช่องทางผลักดันปัญหาเข้าสู่ระดับประเทศ
เคลียร์ชัด เรื่องงานพากย์สนุกเกอร์กับกฎหมายเลือกตั้ง
ในฐานะ ผู้บรรยายสนุกเกอร์ อรรถสิทธิ์ยอมรับตรงไปตรงมาว่า ต้องกลับไปศึกษากฎหมายเลือกตั้งอย่างละเอียด ว่าตนเองสามารถทำหน้าที่หน้าจอโทรทัศน์ควบคู่ไปกับการลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่
ด้วยความกังวลว่าจะกระทบหลักกฎหมายและความโปร่งใส เขาจึงเลือก “เซฟโซน” ด้วยการหยุดรับหน้าที่บรรยายไปแล้ว 2 รายการหลังสุด ได้แก่ ศึกชู้ตเอาต์ 2025 และรายการสกอตติชโอเพ่น 2025 เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาในภายหลัง การตัดสินใจหยุดพากย์ชั่วคราวแบบนี้สะท้อนว่าเขาไม่ต้องการใช้ความดังหรือหน้าจอทีวีเป็นเครื่องมือเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง
นักกีฬาในสภา อีกหนึ่งสีสันที่แฟนกีฬาไทยจับตา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็น อดีตนักกีฬาไทย ก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองมากขึ้น ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ จุดร่วมที่หลายคนมีเหมือนกันคือภาพลักษณ์ของ “นักสู้” ที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และเข้าใจวินัย ความพยายาม และการทำงานเป็นทีม
การที่คนจากวงการกีฬาอย่าง บิ๊ก สระบุรี ก้าวขึ้นมาขอเป็นตัวแทนประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคที่สังคมต้องการคนหลากหลายอาชีพเข้ามาช่วยออกแบบอนาคตประเทศ ยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ต้องการเสียงจากคนรู้จริงในชีวิตหน้างาน การมีตัวแทนที่เข้าใจทั้งเวทีแข่งขันและเวทีสังคม ย่อมกลายเป็นอีกหนึ่งสีสันที่น่าจับตาในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
แฟนสนุกเกอร์-แฟนบอล รอติดตามบทบาทใหม่ได้ที่ บ้านกีฬา
แม้บทบาทบนจอสนุกเกอร์จะต้องพักไว้ชั่วคราว แต่ชื่อของ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ หรือ “บิ๊ก สระบุรี” ยังอยู่ในความสนใจของแฟนกีฬาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเขาเปลี่ยนจากการจับคิวมา “จับไมค์” ในสภาฯ หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขต 3 สระบุรี
แฟนสนุกเกอร์และแฟนบอลที่อยากตามดูว่าดีกรีแชมป์โลกสมัครเล่นจะทำผลงานบนสนามการเมืองได้คมเหมือนบนโต๊ะสนุกเกอร์หรือไม่ รอเกาะติดความเคลื่อนไหวได้เลย และถ้าไม่อยากพลาดทั้งข่าวกีฬาเดือด ๆ และมุมมองใหม่ ๆ ของคนวงการกีฬาในเวทีการเมือง อย่าลืมติดตามทุกจังหวะข่าวเด็ดได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา

