เส้นทางจากความโดดเดี่ยวสู่แสงไฟรายการใหญ่
เมื่อศึก สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ปี 2026 เปิดม่าน ชื่อที่แฟนสนุกเกอร์ทั่วโลกต้องจับตามองจากฝั่งจีนคือ เซียว กัวตง นักสอยคิวที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่เงียบๆ หลังฉาก แต่วันนี้ไต่ขึ้นมาติดท็อป 16 ของโลก พร้อมยืนกลางสปอตไลท์ด้วยความมั่นใจเต็มใบหน้า และความรู้สึกว่า “ผมคือส่วนหนึ่งของเวทีนี้จริงๆ”
ตลอดสองปีที่ผ่านมา ฟอร์มของเซียวพุ่งขึ้นแบบไม่ใช่แค่ฟลุค แต่เป็นผลจากการบ่มเพาะฝีมือยาวนานกว่าทศวรรษ จนกลายเป็นหนึ่งในหัวขบวนของ สนุกเกอร์จีน เดินตามรอยรุ่นใหญ่อย่าง ติง จุนฮุย และแชมป์โลกอย่าง จ้าว ซินตง อย่างสง่างาม
“สิ่งสำคัญที่สุดคือการพัฒนาความแข็งแกร่งโดยรวมของผมต่อไป นั่นคือสิ่งที่ผมจะมุ่งเน้น” เขากล่าว ประโยคสั้นๆ แต่สะท้อนตัวตนของชายที่นิ่ง สุขุม อ่อนน้อม แต่ข้างในเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนไม่เคยดับ
จุดเริ่มจากฉงชิง เด็ก 5 ขวบที่หลงรักโต๊ะเขียว
เซียวเกิดปี 1987 ที่นครฉงชิง เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมืองที่ชีวิตหมุนเร็วและการแข่งขันสูงตั้งแต่ระดับถนน เขาจับคิวครั้งแรกตอนอายุเพียง 5 ขวบ โตมากับโต๊ะสนุกเกอร์ในสโมสรเล็กๆ จนเริ่มรู้ตัวว่า นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่มันคือเส้นทางชีวิต
เมื่ออายุ 12 ปี ด้วยแรงสนับสนุนของครอบครัว เขาตัดสินใจชัดเจนว่าจะเอาดีบนเส้นทางนักสอยคิวแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่เด็กเล่นโต๊ะในร้าน เขาซ้อมหนักจนกลายเป็นดาวเด่นระดับเยาวชน ก่อนจะก้าวเข้าสู่ทัวร์อาชีพในปี 2007 และตัดสินใจย้ายไปสหราชอาณาจักร ประเทศที่เป็นเหมือน “เมกกะของสนุกเกอร์โลก” เพื่อไล่ล่าความฝันให้สุดทาง
เขาได้ฝึกกับเทรนเนอร์ระดับตำนานอย่าง เทอร์รี กริฟฟิธส์ อยู่ในกลุ่มนักสนุกเกอร์จีนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของติง จุนฮุย แต่เบื้องหลังภาพเท่ๆ ของนักกีฬาอาชีพ ความจริงกลับโหดหินกว่านั้นมาก
“มันยากมากในช่วงเริ่มต้น” เขาย้อนความทรงจำ “อยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่มีสปอนเซอร์ ผมต้องกระตุ้นตัวเองเพื่อให้ก้าวต่อไป ชีวิตในสหราชอาณาจักรไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด ทุกอย่างไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับอาหารการกินที่แตกต่างกันนั้นเป็นความท้าทายอย่างมาก”
คนอื่นมีทีมงาน มีครอบครัวบินไปเชียร์ มีสปอนเซอร์หนุนหลัง แต่เซียวต้องใช้หัวใจและความอดทนแบกทุกอย่างไว้คนเดียว นี่คือช่วงเวลา “สอบจิตใจ” ของจริง
จากพระรองเรื้อรัง สู่คืนปลดล็อกที่หวู่ฮั่น
หลายปีในทัวร์โลก เซียววนเวียนอยู่กับคำว่า “เกือบ” เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศบ้าง รอบรองชนะเลิศบ้าง ปี 2017 เขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศรายการจัดอันดับครั้งแรกในชีวิตที่ Shoot Out เล่นได้ดี แต่พลาดช่วงสำคัญ ทิ้งความรู้สึกคาใจเหมือนนักเตะที่ยังไม่เคยได้ชูถ้วย
เขาขึ้นชื่อเรื่องความคล่องแคล่ว เกมรุกจัดจ้าน มีระเบียบวินัยสูง และท่าทีที่ถ่อมตัวจนแฟนสนุกเกอร์หลายคนแอบเชียร์อยู่เงียบๆ แต่ถ้วยแชมป์ก็ยังไม่ยอมมาเข้าตู้ของเขาเสียที
แล้วในที่สุด จุดเปลี่ยนก็มาถึงปี 2024 บนผืนแผ่นดินเกิดที่เมืองหวู่ฮั่น เซียวเข้าแข่งจากรอบคัดเลือกแบบโนเนม แต่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการด้วยการโค่นชื่อใหญ่ระดับแชมป์โลกอย่าง ไครัน วิลสัน ตามด้วย แบร์รี ฮอว์กินส์ และ ฌอน เมอร์ฟี ก่อนจะปิดงานด้วยการชนะเพื่อนร่วมชาติอย่าง ซี เจียฮุย ในรอบชิงชนะเลิศ
เขาคว้าแชมป์รายการจัดอันดับครั้งแรกของชีวิตต่อหน้ากองเชียร์เจ้าบ้าน เสียงโห่ร้องในฮอลล์วันนั้นไม่ใช่แค่ยินดีกับการได้แชมป์ แต่มันคือเสียงปรบมือให้กับการเดินทาง 17 ปีของชายคนหนึ่งที่ไม่เคยย่อท้อ
ชัยชนะในหวู่ฮั่นจึงไม่ใช่แค่ถ้วยใบแรก แต่มันคือ “หลักฐาน” ว่าเขาอยู่ในระดับท็อปของโลกอย่างแท้จริง
ฤดูกาลพลิกชีวิต สู่ท็อปโฟร์นักสอยคิวจีน
หากแชมป์แรกคือการปลดล็อก ฤดูกาล 2024-25 คือปีที่เซียว “เปลี่ยนเกียร์” ขึ้นสู่แถวหน้าจริงๆ จากความมั่นใจในหวู่ฮั่น เขาลุยต่อในศึกชิงแชมป์นานาชาติที่หนานจิง และไต่ไปถึงรอบรองชนะเลิศแบบเนียนๆ
จากนั้นเป็นการเปิดตัวสุดเดือดในรายการแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยนส์ เขาล้ม รอนนี่ โอซัลลิแวน, มาร์ค เซลบี้ และมาร์ค อัลเลน สามยอดฝีมือระดับตำนาน ก่อนจะไปสะดุดพ่าย มาร์ค วิลเลียมส์ ในรอบชิง แต่แค่นั้นก็เพียงพอให้ชื่อของเขาติดโผ “ตัวเต็งลับ” ทันที
ฟอร์มดีไม่มีตก เขาทำผลงานเข้ารอบรองชนะเลิศในรายการสกอตติชโอเพ่น และเยอรมันมาสเตอร์ส ตอกย้ำว่าไม่ได้มาแค่ครั้งเดียวแล้วหายไป
แม้ในศึกชิงแชมป์โลก เขาจะพ่ายให้กับ จอห์น ฮิกกินส์ แบบเฉือนกันในเฟรมตัดสินในรอบสอง แต่นั่นก็กลายเป็นจุดจบฤดูกาลที่สวยงาม เพราะเขาขยับอันดับโลกขึ้นไปอยู่ที่ 13 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในชีวิตจนถึงตอนนั้น
เข้าสู่ฤดูกาล 2025-26 เซียวยังรักษาโมเมนตัมต่อเนื่อง เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในรายการเซี่ยงไฮ้มาสเตอร์ส ก่อนตัดสินใจไม่ลงแข่งในรายการซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส เพื่อไปทำหน้าที่ทีมชาติในกีฬาโลกปี 2025 และตอบแทนธงชาติจีนด้วยเหรียญทองในประเภทสนุกเกอร์ชาย
จากนั้นเขากลับมาที่หวู่ฮั่นในฐานะแชมป์เก่า พร้อมความกดดันเต็มบ่า แต่กลับยิ่งเล่นยิ่งนิ่ง และสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ด้วยชัยชนะสุดระทึก 10-9 เหนือ แกรี่ วิลสัน ในรอบชิงชนะเลิศ
ชัยชนะครั้งที่สองในบ้านเกิดไม่เพียงแค่เพิ่มถ้วยรางวัล แต่ยังดันเขาขึ้นไปยึดอันดับโลกที่ 8 กลายเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตัวจริงของวงการ สนุกเกอร์โลก
เมื่อมองย้อนกลับไปตลอด 12 เดือนที่เปลี่ยนชีวิต เซียวยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายเหมือนเดิมว่า
“ประการแรก มันมาจากการทำงานหนักมาหลายปี ประการที่สอง การเปลี่ยนแปลงในความคิดของผม และประการที่สาม การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนๆ ผมได้เรียนรู้ที่จะไม่มองเสียงรบกวนภายนอกเป็นสิ่งรบกวน แต่เป็นแรงจูงใจให้ทำได้ดีขึ้น”
ครอบครัว การแต่งงาน และวุฒิภาวะทางใจ
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่เปลี่ยนเซียวจากนักสอยคิวเงียบๆ ให้กลายเป็นผู้นำในสนาม คือชีวิตนอกโต๊ะ เขาแต่งงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ในการเติบโตของตัวเอง
“การแต่งงานทำให้ผมมีความรับผิดชอบ” เขากล่าวอย่างครุ่นคิด “การเป็นสามีเป็นความท้าทายใหม่ ผมเคยอยู่คนเดียว เดินทางคนเดียว ตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมออกจากบ้านตอนอายุ 12 ขวบ ดังนั้นผมจึงชินกับการอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้ ทุกการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับคนสองคน เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ภรรยาของผมทำงานในประเทศจีน ส่วนผมเล่นในสหราชอาณาจักรบ่อยๆ ดังนั้นเราจึงต้องอยู่ห่างกันเป็นเวลานาน ความสัมพันธ์ทางไกลแบบนี้อาจยากลำบาก แต่เธอให้การสนับสนุนและความเข้าใจที่ดีเยี่ยมแก่ผม”
สำหรับคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในยุโรปแบบโดดเดี่ยว การมีครอบครัวทำให้เขามี “จุดยืน” ที่มั่นคงขึ้น
“คุณจะก้าวหน้าในอาชีพการงานได้ก็ต่อเมื่อครอบครัวของคุณมีความสุข” เขากล่าวเสริม “นั่นเป็นแรงจูงใจให้ผม สภาพจิตใจของผมขณะเล่นสงบและมั่นคงมากขึ้น ผมรู้สึกเข้มแข็งขึ้นจากภายใน”
นี่คืออีกด้านหนึ่งของนักกีฬาอาชีพที่แฟนกีฬามักมองไม่เห็นบนหน้าจอ แต่มีผลต่อฟอร์มในสนามอย่างมหาศาล
แง่มุมจากเส้นทางเซียว กัวตง ที่แฟนกีฬาเก็บไปใช้ได้
เส้นทางของ เซียว กัวตง ไม่ได้มีค่าเฉพาะในฐานะเรื่องเล่าของนักสนุกเกอร์คนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็น “ตำราใช้จริง” สำหรับคนทำงานและนักกีฬาเยาวชนหลายคนได้อย่างดี
เขาพิสูจน์ว่า
- การไม่มีสปอนเซอร์ ไม่ได้แปลว่าไม่มีโอกาส ถ้ามีวินัยและกล้าตัดสินใจ
- การย้ายไปต่างประเทศเพียงลำพัง แม้จะเจอวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ต่างกันสุดขั้ว แต่ถ้าผ่านช่วงตั้งหลักไปได้ จะกลายเป็นภูมิต้านทานชั้นดี
- การจัดสมดุลระหว่างอาชีพและครอบครัว ช่วยให้สภาพจิตใจนิ่งขึ้น ซึ่งสำคัญมากในกีฬาเดี่ยวที่ตัดสินกันด้วยเม็ดเหงื่อและสมาธิทุกช็อตอย่างสนุกเกอร์
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนสนุกเกอร์ หรือคนที่กำลังวิ่งไล่ตามความฝันของตัวเอง เรื่องของเซียวคือเครื่อง нагเตือนว่า “ความพยายามยาวๆ” มักไม่ทรยศคนลงมือจริง
ก้าวต่อไปบนโต๊ะเขียวของมังกรซ่อนเล็บ
สำหรับเป้าหมายข้างหน้า เซียวไม่ได้ปิดบังความทะเยอทะยานของตัวเองเลย
“การคว้าแชมป์เป็นเป้าหมายของนักสอยคิวทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลก การแข่งขันชิงแชมป์สหราชอาณาจักร หรือรายการอื่นๆ”
วันนี้เขาไม่ได้เป็นแค่ตัวแทนนักสนุกเกอร์จีนที่ยืนเคียงข้างรุ่นพี่อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของยุคใหม่ที่พร้อมท้าทายบัลลังก์ของเหล่าตำนานบนเวทีโลก
และสำหรับแฟนกีฬาในไทยที่ติดตามเรื่องราวนี้ผ่าน บ้านกีฬา ชายจากฉงชิงคนนี้ คือภาพสะท้อนชัดเจนของคำว่า “ไม่ยอมแพ้” ในแบบที่จับต้องได้ เห็นได้จากทุกเฟรมที่เขายืนหน้าโต๊ะ ไม่หันหนีจากความกดดัน มีแต่จะเดินไปหามันด้วยใบหน้าสงบนิ่งเหมือนเดิม
ใครที่อยากตามลุ้นเส้นทางของเซียวต่อจากนี้ รวมถึงข่าวเด็ดจากโต๊ะสนุกเกอร์และกีฬาโลกทุกมุม อย่าลืมติดตามทุกความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา

