“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ผันตัวลุยสภา! ลง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลำดับที่ 48 เขย่าวงการกีฬาและการเมืองไทย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เสียงฮือฮาจากโต๊ะสนุกเกอร์สู่สภาผู้แทนฯ

วงการกีฬาไทยสะเทือนทั้งวงการ เมื่อ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือ วัฒนา ภู่โอบอ้อม ตำนานคิวทองขวัญใจชาวไทย อดีตมืออันดับ 3 ของโลก ตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบ สส.บัญชีรายชื่อ ในนาม พรรครวมไทยสร้างชาติ การขยับตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข่าวดังในวงการสนุกเกอร์ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนบทบาทของนักกีฬาระดับตำนาน ที่อยากนำประสบการณ์จากสนามแข่งขันมาช่วยขับเคลื่อนประเทศในสนามการเมือง

ในสายตาแฟนกีฬา “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ไม่ได้เป็นแค่ไอดอลยุค 90–2000 ที่ทำให้คนไทยนั่งลุ้นหน้าจอทีวีจนดึก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความพยายาม ความมีวินัย และการต่อสู้กับแรงกดดันบนเวทีโลก การหันมาจับบทบาทนักการเมือง จึงถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจใหญ่ในชีวิต ที่เจ้าตัวตั้งใจใช้ชื่อเสียงและประสบการณ์ตรงมาทำงานเพื่อสังคมในระดับนโยบาย

ลำดับ 48 ปาร์ตี้ลิสต์ หนึ่งก้าวสำคัญบนถนนการเมือง

รายชื่อของ วัฒนา ภู่โอบอ้อม ถูกวางไว้ในลำดับที่ 48 ของบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาก้าวเข้าสู่ “สนามเลือกตั้ง” อย่างเป็นทางการ หลังจากโลดแล่นบนเวทีสนุกเกอร์อาชีพ สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยมานานหลายสิบปี

แม้ลำดับที่ 48 จะไม่ได้อยู่หัวแถวของบัญชีรายชื่อ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตามอง เพราะสะท้อนว่า พรรคการเมืองเองก็เห็นถึงศักยภาพของอดีตนักกีฬาที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่น มีภาพลักษณ์มืออาชีพ และรู้จักความกดดันของการ “ถูกจับตา” ตลอดเวลา เหมือนเวลาลงแข่งในรายการใหญ่ระดับโลก

กติกาเลือกตั้ง 2569 และบทบาทของพรรครวมไทยสร้างชาติ

สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2569 ที่กำหนดจัดขึ้นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เปิดรับสมัครผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อระหว่างวันที่ 28–31 ธันวาคม 2568 โดยพรรครวมไทยสร้างชาติได้หมายเลขพรรคแบบบัญชีรายชื่อ คือ เบอร์ 6 ซึ่งหมายเลขพรรคก็จะถูกใช้ในการรณรงค์หาเสียง และกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ให้ประชาชนจดจำในช่วงเลือกตั้ง

การมีชื่อของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” อยู่ในบัญชีรายชื่อ จึงไม่ใช่เพียงสีสัน แต่ยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับภาพลักษณ์ของพรรคในมิติด้านกีฬา เยาวชน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ผ่านบุคคลที่คนไทยคุ้นหน้าและไว้วางใจมานาน

สนุกเกอร์ไทยขยับสู่การเมือง “บิ๊ก สระบุรี” ก็มา

ไม่ใช่แค่ต๋องคนเดียวที่ลุกจากโต๊ะสนุกเกอร์มาสู่สนามเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ วงการสนุกเกอร์ไทยก็มีความเคลื่อนไหวให้พูดถึงแล้ว เมื่อ “บิ๊ก สระบุรี” อรรถสิทธิ์ มหิทธิ อดีตแชมป์โลกสนุกเกอร์สมัครเล่น ปี 2007 ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 3 จังหวัดสระบุรี ในนามพรรคประชาชน

การที่อดีตนักสนุกเกอร์ระดับโลกและระดับแชมป์สมัครเล่นตัดสินใจก้าวลงมาสู่สนามการเมืองพร้อมกันในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้หลายคนจับตาเป็นพิเศษ ว่าเสียงจากคนกีฬาและคนสายสันทนาการจะถูกดันขึ้นมาอยู่ในระดับนโยบายมากน้อยแค่ไหน ทั้งในเรื่องการพัฒนาวงการกีฬา การดูแลนักกีฬาอาชีพ และการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาในอนาคต

แฟนกีฬามองอย่างไรกับ “ต๋อง” ในบทบาทนักการเมือง

ในมุมแฟนกีฬา หลายคนมองว่าคนอย่าง วัฒนา ภู่โอบอ้อม ผ่านศึกใหญ่บนเวทีโลกมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง รู้จักทั้งคำว่าชนะ ขึ้นสู่จุดสูงสุด และคำว่าพลาดในจังหวะสำคัญ การมาลองสนามใหม่อย่างการเมืองจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขารู้ดีว่าการถูกวิจารณ์ การโดนกดดัน และการต้องตัดสินใจภายใต้สายตาของสังคม เป็นเรื่องที่คุ้นชินมานาน

อีกด้านหนึ่ง ก็มีเสียงตั้งคำถามตามสไตล์แฟนกีฬาและแฟนการเมืองว่า นักกีฬาที่ผันตัวมาเล่นการเมืองจะสามารถปรับตัวเข้ากับเกม “เชิงนโยบาย” ได้เร็วแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือชื่อของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” สามารถดึงให้คนทั่วไป โดยเฉพาะแฟนกีฬา หันมาสนใจการเมืองมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคักกว่าเดิม

นักกีฬากับเวทีการเมือง แนวโน้มที่น่าจับตาในอนาคต

เมื่อมองในภาพกว้าง การที่อดีตนักกีฬาชื่อดังเดินเข้าสู่การเมือง ไม่ใช่เรื่องใหม่ในระดับสากล หลายประเทศเคยมีอดีตนักกีฬาเป็นทั้งสมาชิกสภา รัฐมนตรี หรือแม้แต่ผู้นำประเทศ จุดร่วมที่เห็นชัดคือ คนกลุ่มนี้มักมาพร้อมภาพลักษณ์ “นักสู้” ที่มีวินัย รู้แพ้รู้ชนะ และเข้าใจการวางแผนระยะยาว เหมือนการเตรียมตัวแข่งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่

สำหรับไทยเอง แนวโน้มที่อดีตนักกีฬาเริ่มมีบทบาทมากขึ้นบนเวทีการเมือง อาจส่งผลดีต่อการผลักดันนโยบายด้านกีฬา เด็กและเยาวชน การใช้กีฬาเป็นเครื่องมือสร้างสุขภาพและลดปัญหาสังคม รวมถึงการยกระดับลีกอาชีพต่าง ๆ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว หากคนที่เคยลงแข่งจริง เข้ามาร่วมออกแบบระบบด้วย ย่อมทำให้เสียงของคนกีฬา “ดังขึ้น” ในเชิงนโยบาย

แฟนกีฬาเตรียมลุ้นทั้งในสภาและในสนามไปพร้อมกันกับบ้านกีฬา

เส้นทางจากนักสอยคิวระดับโลกสู่ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” คืออีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่แฟนกีฬาชาวไทยต้องจับตาดู ทั้งในมุมของบทบาทใหม่บนถนนการเมือง และในมุมของอนาคตวงการกีฬาไทย ที่อาจได้ตัวแทนจาก “คนกีฬา” เข้าไปผลักดันในสภามากขึ้น

แฟนกีฬาและคอกีฬาไทยที่อยากตามทุกจังหวะของข่าวใหญ่แบบนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของทั้งวงการกีฬาและข่าวการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคนกีฬาได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา เราจะตามเก็บทุกประเด็นร้อน ทุกเรื่องน่าสนใจ มาเล่าให้คุณฟังแบบเข้มข้น ดุดัน และเข้าใจง่ายเหมือนเดิม

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา