
ฟีฟ่า ออกบทความชื่นชม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด หลังจากที่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ ได้ผลักดันให้มีการ อัปเกรดระบบ VAR (Video Assistant Referee) สู่เทคโนโลยี Crosshair 3D ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาการตัดสินในฟุตบอลไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ FIFA Forward
ประเทศไทยเป็นชาติแรกในอาเซียน ที่นำ VAR มาใช้ในฟุตบอลลีกอาชีพตั้งแต่ปี 2020 และจนถึงปัจจุบัน หลังผ่านไป 5 ปี ฟุตบอลไทยยังคงเป็นหนึ่งในลีกชั้นนำของเอเชียที่พัฒนาระบบนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเป็น VAR Crosshair 3D ที่จะช่วยให้การตัดสินมี ความแม่นยำ โปร่งใส และลดข้อผิดพลาด ได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลไทยมีมาตรฐานเทียบเท่าลีกชั้นนำของโลก
VAR Crosshair 3D คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?
ระบบ Crosshair 3D เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยในการ ปรับและเทียบเส้นล้ำหน้าอย่างแม่นยำ ก่อนการแข่งขันทุกนัด โดยใช้ ภาพ 3 มิติ เพื่อช่วยกำหนดตำแหน่งของผู้เล่น และช่วงเวลาที่บอลเคลื่อนที่ไปได้อย่างละเอียดที่สุด ระบบนี้สามารถระบุเส้นล้ำหน้าของผู้เล่นแนวรับคนสุดท้ายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยลดข้อกังขาในการตัดสินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการฝึกอบรมผู้ตัดสินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ผู้ตัดสินไทยมีความเชี่ยวชาญ ในการใช้งานระบบ VAR Crosshair 3D ซึ่งจะถูกนำมาใช้จริงใน ฟุตบอลไทยลีก 1 ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2569 โดยมีงบประมาณ 16.45 ล้านบาท (488,774 ดอลลาร์สหรัฐฯ) จากโครงการ FIFA Forward 2.0
ฟีฟ่าชื่นชมไทย! เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีตัดสินฟุตบอลระดับสูง
ซานจีวาน บาลาซิงแกม ผู้อำนวยการฝ่ายชาติสมาชิก ภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียของ ฟีฟ่า ได้กล่าวถึงการพัฒนาของไทยลีกว่า
“ฟีฟ่าให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ ไทยลีก เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐานการตัดสินในลีกไทยจะอยู่ในระดับสูงสุด”
“สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นหนึ่งในสมาคมกลุ่มแรกของเอเชียที่นำ VAR มาใช้ และฟีฟ่ายินดีที่ได้มีส่วนร่วมในพัฒนาครั้งสำคัญนี้ การอัปเกรด Crosshair 3D จะทำให้ ฟุตบอลไทย มีความแม่นยำและเป็นธรรมมากขึ้น และเราจะยังคงสนับสนุนไทยลีกต่อไปผ่านโครงการพัฒนาต่างๆ ของฟีฟ่า”
นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังเคยมอบเงินช่วยเหลือในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อสนับสนุนการใช้ VAR ในไทยลีกตั้งแต่ปี 2020 และยังให้เงินทุนสำหรับการติดตั้ง ห้องปฏิบัติการวีดีโอส่วนกลาง (VAR Hub) ภายในอาคาร FA Thailand ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบ VAR ในไทย
มาดามแป้งย้ำ! VAR ใหม่ช่วยยกระดับฟุตบอลไทย
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงความสำคัญของ VAR Crosshair 3D ว่า
“เราภูมิใจที่ ไทยลีก เป็นลีกแรกในอาเซียนที่นำระบบ VAR Crosshair 3D มาใช้ การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การตัดสินมีความถูกต้องและโปร่งใสขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มมาตรฐานของลีก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสโมสร นักเตะ โค้ช หรือแฟนบอล”
“เราขอขอบคุณ ฟีฟ่า ที่ให้การสนับสนุนผ่านโครงการ FIFA Forward ซึ่งไม่เพียงช่วยเรื่องเทคโนโลยีในสนามเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาโครงสร้างฟุตบอลไทยในระยะยาว สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ และเราหวังว่าการอัปเกรด VAR Crosshair 3D จะช่วยทำให้ลีกของเรามีมาตรฐานทัดเทียมระดับสากล”
บทสรุป: VAR Crosshair 3D ก้าวสำคัญของฟุตบอลไทย
การอัปเกรด VAR Crosshair 3D ถือเป็น ก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย ที่จะช่วยให้การแข่งขันมีความเป็นธรรมและแม่นยำมากยิ่งขึ้น การที่ ฟีฟ่า ออกมายกย่อง ไทยลีก ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่มาตรฐานฟุตบอลระดับโลก
การนำเทคโนโลยี VAR ขั้นสูงมาใช้ในลีกไทย ถือเป็น เครื่องหมายแห่งความก้าวหน้า ที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ ฟุตบอลไทย และเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาไปสู่ลีกชั้นนำของเอเชียในอนาคต
ติดตามข่าวบอลไทยอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา