
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดแผนใหญ่เต็มสูบด้วยยุทธศาสตร์ใหม่ “จากต้นกล้า สู่ชบาแก้ว” ภายใต้ความร่วมมือของโครงการระดับทวีป “AFC–UEFA Women’s Football Programme” มุ่งหน้าอย่างชัดเจนสู่เป้าหมาย “Road to Brazil 2027” หวังพา ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ทวงคืนเกียรติยศบนเวที ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศบราซิล
การแถลงข่าวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการลูกหนังหญิงไทย โดยจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดตัวแผนยุทธศาสตร์พัฒนาฟุตบอลหญิงภายใต้วิสัยทัศน์ “From Grassroots to Greatness – จากต้นกล้า สู่ชบาแก้ว” โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างระบบพัฒนาฟุตบอลหญิงที่เข้มแข็งจากรากฐานเยาวชน สู่เวทีโลกในระยะยาว
แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยตรงจาก AFC และ UEFA ซึ่งได้คัดเลือกประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 5 ประเทศนำร่องในเอเชียที่เข้าร่วมโครงการนี้ ร่วมกับ ไต้หวัน, เวียดนาม, อุซเบกิสถาน และ เลบานอน ซึ่งล้วนเป็นชาติที่มีศักยภาพในวงการฟุตบอลหญิงอย่างน่าจับตามอง
ภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นอย่างคึกคัก มีบุคคลสำคัญจากวงการลูกหนังโลกและเอเชียเข้าร่วมอย่างคับคั่ง นำโดย การันต์ มีร์ชานดานี ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาประเทศสมาชิกของฟีฟ่า และ ไซมอน โทเซลลี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคฟุตบอลหญิงของฟีฟ่า พร้อมด้วย ฟูโตชิ อิเคดะ กุนซือใหญ่แห่งทัพ “ชบาแก้ว” ที่ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแผนการทำงานระยะยาวอย่างเต็มที่
ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เน้นย้ำว่า “แม้ฟุตบอลหญิงจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าฟุตบอลชาย แต่สำหรับ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ แล้ว นี่คือภารกิจสำคัญที่ต้องผลักดันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ยุทธศาสตร์ฉบับนี้จะเป็นรากฐานสำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับฟุตบอลหญิงไทย”
ความพิเศษของวันนี้ยังอยู่ที่วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ถือเป็นวาระครบรอบ 10 ปีแห่งชัยชนะประวัติศาสตร์ของทัพชบาแก้ว ที่สามารถเฉือนชนะ ไอวอรีโคสต์ 3-2 ในศึก ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2015 ที่แคนาดา ซึ่งเป็นเกมที่ปลุกพลังศรัทธาและศักดิ์ศรีของฟุตบอลหญิงไทยจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแรงผลักดันมาจนถึงปัจจุบัน โดยภายหลังยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในปี 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศสอีกครั้ง
แผนยุทธศาสตร์ “จากต้นกล้า สู่ชบาแก้ว” นี้จะดำเนินในช่วงปี 2568–2572 โดยเน้นพัฒนาฟุตบอลหญิงในทุกระดับ ตั้งแต่เยาวชน สโมสร ไปจนถึงทีมชาติ พร้อมพัฒนาบุคลากรอย่างรอบด้าน เพื่อวางรากฐานให้แข็งแกร่งและต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในระดับสากล เป้าหมายสูงสุดคือการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 ที่ประเทศบราซิล ให้ได้อีกครั้ง
นอกจากแผนเชิงโครงสร้างแล้ว ทีมชาติไทยหญิงก็เตรียมพร้อมในเชิงปฏิบัติ โดยมีโปรแกรมเดินทางไปเก็บตัวที่ อัลไพน์ ฟุตบอล แคมป์ เทรนนิ่ง จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เพื่อเตรียมสภาพความพร้อมทั้งร่างกายและแท็กติก ก่อนลงสนามในศึก ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2026 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช โดยจะพบกับ ติมอร์ เลสเต (26 มิ.ย.), อิรัก (29 มิ.ย.), มองโกเลีย (2 ก.ค.) และ อินเดีย (5 ก.ค.) ซึ่งทีมที่คว้าแชมป์กลุ่มจะได้สิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศออสเตรเลียในปี 2569 เพื่อลุ้นโควต้า 6+2 ทีมจากเอเชียไปเวทีระดับโลก
บ้านกีฬา ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่านี่คือหมุดหมายครั้งใหม่ของฟุตบอลหญิงไทยที่ไม่ใช่แค่คำพูดบนเวที แต่คือภารกิจระดับชาติที่กำลังถูกปลุกพลังอย่างเข้มข้น และหากยุทธศาสตร์นี้ถูกผลักดันอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นชบาแก้วกลับมาโลดแล่นบนเวทีฟุตบอลโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอย่างสง่างามอีกครั้ง
อย่าพลาดทุกความเคลื่อนไหวของฟุตบอลหญิงไทยและ ผลบอลสด ติดตามได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา