
เมื่อพูดถึงยุทธศาสตร์เสริมทัพของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในช่วงหลายฤดูกาลหลัง แฟนบอลไทยต่างคุ้นชินกับภาพการนำเข้าเซนเตอร์ฮาล์ฟรูปร่างสูงใหญ่ชนิด “ยืนเฉยๆ ลูกก็ไม่ผ่าน” และฤดูกาล 2025-26 ที่กำลังจะเปิดฉาก กลยุทธ์นั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อทัพ “เดอะ แรบบิต” เดินหน้าคว้าตัว มิลอส ดรินชิช กำแพงเหล็กสายเลือดมอนเตเนโกร มาเสริมแนวรับเต็มกำลัง ด้วยเป้าหมายคือการกลับมาทวงบัลลังก์ แชมป์ไทยลีก อีกครั้ง
มิลอส ดรินชิช ปราการหลังวัย 26 ปี เจ้าของความสูง 1.95 เมตร เป็นนักเตะรายล่าสุดที่ถูกบรรจุเข้าทัพกระต่ายแก้ว โดยมีการเปิดตัวผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของสโมสรอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลที่เชื่อมั่นว่าเขาคือจิ๊กซอว์สำคัญในการยกระดับแนวรับของทีมในซีซั่นใหม่
ย้อนกลับไปยังรากเหง้าของเจ้าตัว ดรินชิช เติบโตจากเมืองหลวงของมอนเตเนโกร และเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับ เอฟเค พอดโกริกา (FK Podgorica) สโมสรท้องถิ่น ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าจนก้าวสู่ทีมชาติในระดับเยาวชน ทั้งชุด U17 และ U19 ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่ง มั่นคง และเต็มไปด้วยวินัยทางเกมรับ จนถูกจับตามองจากหลายทีมในลีกบ้านเกิด
การแจ้งเกิดอย่างแท้จริงของดรินชิชเกิดขึ้นกับ เอฟเค อิสกรา ดานิโลฟกราด (FK Iskra Danilovgrad) ที่เขาก้าวขึ้นเป็นตัวหลักตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี พร้อมกับลงสนามให้ทีมถึง 160 นัดตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาล และยังเคยรับบทกัปตันทีมชาติชุด U21 ในศึกยูโร 2019 รอบคัดเลือก สะท้อนถึงความเป็นผู้นำและวุฒิภาวะเกินวัยของเขา
ฤดูกาล 2021-22 ดรินชิชย้ายไปร่วมทีม ซุตเยสกา นิกชิช (Sutjeska Niksic) สโมสรยักษ์ใหญ่ของมอนเตเนโกร ด้วยค่าตัว 350,000 ยูโร (ราว 13 ล้านบาท) และกลายเป็นหัวใจในแนวรับทันที พาทีมคว้าแชมป์ลีกด้วยสถิติแนวรับเหนียวแน่น เสียเพียง 29 ประตูจาก 36 เกม ซึ่งถือเป็นผลงานระดับท็อปของประเทศ
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลถัดมา แม้ทีมจะเก็บแต้มได้เท่ากับคู่แข่งอย่าง บูดูชโนสต์ ที่ 70 คะแนน แต่ต้องชวดแชมป์เพราะเสียเปรียบเฮดทูเฮด ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือการขาดหายไปของดรินชิชจากอาการบาดเจ็บยาว แสดงให้เห็นชัดว่าเขาคือหัวใจในแนวรับอย่างแท้จริง
การผจญภัยของแนวรับรายนี้ไม่ได้หยุดแค่ในบ้านเกิด เขาย้ายไปเล่นกับ ชัคตยอร์ โซลิกอร์ส ในลีกเบลารุสช่วงกลางซีซั่น 2022-23 แม้ไม่ได้ลงเล่นมากนักเพราะสภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อฟิตเต็มร้อย เขาเลือกมุ่งหน้าสู่อินเดียกับ เกรละ บลาสเตอร์ส เอฟซี (Kerala Blasters FC) ในซูเปอร์ลีกอินเดีย และกลายเป็นตัวหลักของทีมทันที พร้อมได้รับตำแหน่งรองกัปตันทีมแม้จะเพิ่งย้ายเข้าไปในซีซั่นแรก
ด้วยโปรไฟล์ที่แข็งแกร่ง ประสบการณ์ระดับนานาชาติ และจุดเด่นด้านรูปร่าง การอ่านเกม และความสามารถในการยืนเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายที่หาได้ยาก ทำให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่ลังเลที่จะดึงเขาเข้าสู่ถิ่นลีโอ สเตเดียม เพื่อเสริมแนวรับให้แกร่งขึ้นอีกขั้น
แนวทางการเสริมทัพของ “เดอะ แรบบิต” ในช่วง 5 ฤดูกาลหลัง ยังคงชัดเจนว่าต้องมีเซนเตอร์ฮาล์ฟไซส์ยักษ์ ไม่ว่าจะเป็น วิคตอร์ คาร์โดโซ่, อันเดรส ตูเนซ, เรนาโต้ เคลิช, เซย์ดีน เอ็นดิยาเย่, คริสเตียง โกมิส, มาร์โก บัลลินี่, ฮวัง มยอง-ฮยอน หรือแม้แต่นิกา ซานโดคัดเซ ทุกคนล้วนมีความสูงโดดเด่นเกิน 1.90 เมตรทั้งสิ้น และดรินชิชก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ฤดูกาล 2025-26 ที่กำลังจะมาถึงในกลางเดือนสิงหาคม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งเคยคว้า แชมป์ไทยลีก มาแล้วในฤดูกาล 2020-21 แสดงให้เห็นถึงความกระหายความสำเร็จอย่างแท้จริง การปิดดีลมิลอส ดรินชิชอย่างรวดเร็วคือการส่งสัญญาณว่า พวกเขาไม่ต้องการแค่ “ลุ้น” แต่ต้อง “ล่า” ถ้วยแชมป์อีกครั้ง
แฟนบอลไทยและแฟนกระต่ายแก้วคงตั้งคำถามเดียวกันตอนนี้ว่า “มิลอส ดรินชิช จะกลายเป็นปราการหลังที่ตอบโจทย์ และพาทีมไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลใหม่นี้ได้หรือไม่” คำตอบนั้น รอพิสูจน์ในสนามเท่านั้น
ติดตามข่าวอัปเดตวงการฟุตบอลไทยลีกก่อนใครได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา