ภาพรวมแรงกิ้งล่าสุดของทีมชาติไทย
อัปเดตภาพรวมจากการประกาศ ฟีฟ่าแรงกิ้ง ประจำเดือนธันวาคม 2025 โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ทำให้แฟนบอลไทยต้องหันมามองอันดับของ ทีมชาติไทย กันอีกรอบ เมื่อทัพ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวอังกฤษ แอนโธนี ฮัดสัน หล่นลงมา 1 อันดับ จากเดิมที่รั้งอันดับ 95 กลายเป็นอันดับ 96 ของโลก มีคะแนนสะสม 1,243.27 แต้ม แต่ยังถือว่ายืนระยะในโซนที่น่าพอใจ หากมองภาพรวมทั้งปีและฟอร์มการเล่นในรายการอย่างเป็นทางการที่ผ่านมา
แม้ตัวเลขจะขยับลงเล็กน้อย แต่อันดับนี้ถือเป็นผลสะสมจากผลงานตลอดทั้งปี 2025 ของทัพช้างศึก ทั้งเกมอุ่นเครื่องและทัวร์นาเมนต์ระดับทวีป ที่ช่วยสร้างเครดิตให้กับฟุตบอลทีมชาติไทยในสายตาเอเชียและระดับโลก
ช้างศึกเบอร์หนึ่งอาเซียน – ท็อป 16 เอเชียยังเหนียวแน่น
จุดที่แฟนบอลไทยยังพอยิ้มได้ คืออันดับในภูมิภาค ทัพ ช้างศึก ยังคงครองสถานะทีมเบอร์หนึ่งของอาเซียนไว้ได้เหมือนเดิม และเมื่อขยับไปดูภาพใหญ่ในทวีปเอเชีย ทีมชาติไทยยังยืนที่อันดับ 16 ของเอเชียต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าศักยภาพยังอยู่ในกลุ่มทีมที่มีลุ้นในเวทีระดับทวีป หากพัฒนาฟอร์มให้สม่ำเสมอมากกว่านี้
ที่สำคัญ ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไทยไม่มีโปรแกรมลงสนามอย่างเป็นทางการเลย ทำให้คะแนนไม่ขยับขึ้น ขณะที่บางชาติได้ลงเตะในทัวร์นาเมนต์สำคัญและโกยแต้มเพิ่มไป
ทำไมไทยหล่น 1 อันดับ ทั้งที่ไม่ได้ลงแข่ง?
สาเหตุหลักที่ทำให้อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งของไทยหล่นลงมา 1 ขั้น ไม่ได้มาจากผลงานที่แย่ลงในเดือนล่าสุด แต่เกิดจากการที่ ทีมชาติปาเลสไตน์ ลงเล่นในศึก ฟีฟ่า อาหรับ คัพ 2025 แล้วทำผลงานได้ดี สามารถเก็บคะแนนสะสมเพิ่มจนแซงขึ้นไปอยู่เหนือไทยในแรงกิ้งรวม
พูดง่ายๆ คือ ไทยไม่ได้เสียคะแนนจากผลงานโดยตรง แต่คู่แข่งรอบๆ อันดับข้างหน้าทำผลงานดีในทัวร์นาเมนต์ที่มีคะแนนสะสมสูงกว่า ทำให้เราโดนเบียดลงมารั้งที่ 96 ของโลก ปิดฉากปี 2025 ด้วยตัวเลขที่อาจดูไม่หวือหวา แต่ก็ยังอยู่ในโซนที่ “เอาเรื่อง” หากเทียบกับทรัพยากรและโครงสร้างบอลภายในประเทศ
คู่แข่งอาเซียนขยับแรง เวียดนามไต่อันดับขึ้นมา
ฝั่งคู่แข่งสำคัญในอาเซียนอย่าง ทีมชาติเวียดนาม ก็มีการขยับในแรงกิ้งรอบนี้เช่นกัน โดย “ทัพดาวทอง” กระโดดขึ้นมา 3 อันดับ จากเดิมที่ 110 ของโลก ขยับมาอยู่ที่ 107 ของโลก กลายเป็นทีมเบอร์สองของอาเซียน ไล่หลังไทยมาด้วยระยะห่างที่ไม่มากนัก
หากมองในแง่การแข่งขันระดับอาเซียน นี่คือสัญญาณเตือนว่าทีมรอบๆ ตัวเราก็กำลังเร่งพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ถ้าไทยชะลอหรือฟอร์มตกเมื่อไหร่ มีโอกาสถูกแซงได้ทันทีในอนาคตอันใกล้
ด้านภาพรวมระดับทวีป ทีมอันดับหนึ่งของเอเชียยังคงเป็น ทีมชาติญี่ปุ่น ที่รักษามาตรฐานสุดโหดไว้ได้ต่อเนื่อง ยึดอันดับ 18 ของโลกอย่างเหนียวแน่น แสดงให้เห็นว่าระบบและโครงสร้างฟุตบอลญี่ปุ่นยังเดินหน้าต่อไปแบบไร้สะดุด เป็นหนึ่งในโมเดลที่หลายชาติในเอเชีย รวมถึงไทย มองเป็นตัวอย่างในการพัฒนา
โปรแกรมคัดเอเชียนคัพ 2027 นัดชี้ชะตาของทัพช้างศึก
เป้าหมายถัดไปของฟุตบอลทีมชาติไทยไม่ได้อยู่แค่บนกระดาษในแรงกิ้ง แต่จะถูกพิสูจน์ในสนามจริงอีกครั้งในศึก เอเชียนคัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดสุดท้าย กลุ่ม ดี โดยทัพช้างศึกมีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ในวันที่ 31 มีนาคม 2569 (ค.ศ. 2026)
เกมนี้สำคัญสุดๆ เพราะเป็นแมตช์ที่มีผลโดยตรงต่อการลุ้นผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ระดับทวีป การเก็บชัยชนะในบ้านไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรี แต่ยังหมายถึงแต้มสะสมในแรงกิ้งที่จะช่วยดันอันดับของไทยให้ขยับสูงขึ้นไปอีก หากควบคุมผลงานในเกมอย่างเป็นทางการได้ดีต่อเนื่อง
แฟนบอลไทยจึงจับตาเป็นพิเศษว่า แอนโธนี ฮัดสัน จะเตรียมทีมอย่างไร ทั้งในแง่ของตัวผู้เล่น แท็กติก และการจัดการโปรแกรมอุ่นเครื่อง ก่อนถึงวันชี้ชะตาปลายเดือนมีนาคมปีหน้า
ฟีฟ่าแรงกิ้งสำคัญยังไงกับอนาคตทีมชาติไทย?
สำหรับแฟนบอลบางคน อาจมองว่า “แรงกิ้ง” เป็นแค่ตัวเลข แต่ในความจริง อันดับฟีฟ่าส่งผลเป็นรูปธรรมกับ ฟุตบอลทีมชาติ อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโถจับสลากในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ การหลีกเลี่ยงเจอทีมแกร่งตั้งแต่รอบแรก ไปจนถึงภาพลักษณ์ของชาติในสายตาสโมสรและนักเตะลูกครึ่งที่อาจตัดสินใจมาเล่นให้ทีมชาติไทย
การรักษาอันดับให้อยู่ในช่วงท็อประดับอาเซียนและขยับเข้าใกล้ท็อปของเอเชีย จึงไม่ใช่เรื่องของศักดิ์ศรีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างฐานให้ทีมชาติไทยมีทางเลือกและโอกาสที่ดีกว่าในการเดินหน้าสู่เป้าหมายระยะยาว ทั้งในระดับทวีปและระดับโลก
แฟนบอลไทยเตรียมเชียร์ให้สนั่นกับภารกิจปีหน้า
แม้ปี 2025 จะปิดฉากด้วยอันดับ 96 ของโลก แต่เส้นทางของช้างศึกยังอีกยาวไกล ปี 2026–2027 จะเป็นช่วงเวลาชี้ชะตาสำคัญ ทั้งในศึกคัดเอเชียนคัพและทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ที่รออยู่ข้างหน้า แฟนบอลไทยทั่วประเทศจึงมีบทบาทสำคัญในการหนุนหลังทีม ไม่ว่าจะเชียร์ผ่านหน้าจอหรือในสนามจริง
บ้านกีฬา ขอชวนคอบอลชาวไทยจับตาทุกความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยแบบเกาะติด ติดตามข่าวอัปเดตแรงกิ้ง โปรแกรมแข่ง และบรรยากาศก่อน–หลังเกมในแบบเข้มข้นดุดันสไตล์นักข่าวกีฬาตัวจริงได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา แล้วมาเชียร์ไปพร้อมกันว่าช้างศึกจะพาอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งของไทยทะยานสูงได้แค่ไหนในปีหน้า
