แมลงริ้นฝอยทราย พาหะร้ายเงียบที่คนไทยต้องรู้จัก! เสี่ยงโรคลิชมาเนีย คร่าชีวิตแล้วในปีนี้

แม้จะตัวเล็กจิ๋วกว่า “ยุง” หลายเท่า แต่ แมลงริ้นฝอยทราย กลับกลายเป็นพาหะอันตรายที่ถูกกล่าวถึงอีกครั้งหลัง กรมควบคุมโรค ออกโรงเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังโรคลิชมาเนีย หลังจากพบผู้ป่วยเสียชีวิตในประเทศไทยแล้ว 2 รายในปี 2568 นี้! บ้านกีฬา ขอนำเสนอข้อมูลเจาะลึกแบบครบถ้วนในบทความนี้ เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักภัยเงียบจากแมลงตัวจิ๋ว และเตรียมตัวป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค ระบุว่า ได้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ ลิชมาเนีย (Leishmaniasis) ในกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยโรคนี้มี “ริ้นฝอยทราย” เป็นพาหะหลัก และที่น่ากังวลคือ ประเทศไทยเองมีประวัติการพบโรคนี้มานานแล้วตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 45 ราย และเสียชีวิตถึง 7 ราย โดยในปีนี้เพียงปีเดียวก็มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 รายจาก 2 รายที่พบว่าติดเชื้อ

🦟 แมลงริ้นฝอยทราย คืออะไร?

แมลงตัวเล็กที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยนี้ กลับมีบทบาทสำคัญในการแพร่เชื้อ ลิชมาเนีย สู่มนุษย์ ตัวของมันมีขนาดเล็กกว่ายุง 4-5 เท่า มีทั้งสีดำ ขาว และน้ำตาล ปีกตั้งเป็นรูปตัว V ลักษณะเหมือนปลายหอก มีขนปกคลุมทั่วตัว โดยเฉพาะตัวเมียจะออกหากินในช่วงพลบค่ำจนถึงกลางคืน และชอบกัดกินเลือดของทั้งคนและสัตว์ในบริเวณใกล้บ้าน เช่น คอกสัตว์ ใต้ถุนบ้าน หรือแม้กระทั่งตามโพรงไม้

🧫 โรคลิชมาเนีย คืออะไร?

โรคลิชมาเนีย หรือ Leishmaniasis เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากปรสิตโปรโตซัวชนิด Leishmania ซึ่งเข้าสู่ร่างกายมนุษย์จากการถูกแมลงริ้นฝอยทรายที่มีเชื้อกัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น เช่น ประเทศในเอเชียตะวันตก แอฟริกา และอเมริกาใต้ แต่ประเทศไทยเองก็มีการพบเชื้อนี้ในคนไทยและสัตว์เลี้ยง

🧪 ลักษณะอาการของโรคลิชมาเนีย แบ่งได้ 3 แบบหลัก

  1. ลิชมาเนียผิวหนัง (Cutaneous Leishmaniasis – CL)
    ลักษณะเด่นคือแผลบริเวณผิวหนัง มีตุ่มนูน แดง และเปลี่ยนเป็นแผลเปียกหรือแห้ง ขอบแผลชัดเจน อาจเป็นแผลเดี่ยวหรือหลายแผล รวมกันเป็นแผลใหญ่ หรือกระจายทั่วร่างกาย
  2. ลิชมาเนียที่เยื่อบุ (Mucocutaneous Leishmaniasis – MCL)
    มักมีแผลที่จมูก ปาก และลำคอ ส่งผลให้โครงหน้าผิดรูป มีไข้ อ่อนเพลีย ซีด น้ำหนักลด หากไม่ได้รับการรักษาอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
  3. ลิชมาเนียในอวัยวะภายใน (Visceral Leishmaniasis หรือ Kala-azar)
    เป็นชนิดรุนแรงที่สุด มีอาการไข้เรื้อรัง ผอมแห้ง ซีด ม้ามโต ตับโต เป็นอันตรายต่อชีวิต

🔬 การแพร่เชื้อและระยะฟักตัว

เชื้อลิชมาเนียจะเติบโตภายในแมลงริ้นฝอยทราย 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและชนิดของเชื้อ ริ้นฝอยทรายจะแพร่เชื้อได้ตั้งแต่การกัดครั้งที่ 2 เป็นต้นไป โดยเชื้อจะเข้าสู่เม็ดเลือดขาวในร่างกายและแพร่กระจายต่อไปอย่างรวดเร็ว

แม้จะได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว แต่บางรายอาจมีอาการทางผิวหนังกลับมาอีกภายหลัง เช่น ตุ่มนูนหรือปื้นด่าง ที่เรียกว่า Post Kala-azar Dermal Lesion (PKDL)

💊 แนวทางการรักษา

การรักษาขึ้นอยู่กับอาการของโรค มีทั้งยาทา ยากิน และยาฉีด ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากยาหลายชนิดมีผลข้างเคียงสูง การรักษาตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยลดโอกาสการลุกลามของเชื้อได้

🌳 แหล่งที่อยู่ของแมลงริ้นฝอยทราย

แหล่งเพาะพันธุ์ของริ้นฝอยทรายมักอยู่ในบริเวณชื้นแฉะและมีอินทรียวัตถุสูง เช่น กองใบไม้ กองขยะ กองฟืน คอกสัตว์ รูหนู โพรงไม้ หรือพื้นที่ใกล้แหล่งเกษตรกรรมและป่าไม้ ใครที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับพื้นที่เหล่านี้ ควรสวมเสื้อผ้ามิดชิดและทายากันยุงเมื่อออกไปทำงาน

🛡️ วิธีป้องกันแมลงริ้นฝอยทรายและโรคลิชมาเนีย

  • ทายากันยุงที่มี DEET หรือสารที่ป้องกันแมลง
  • สวมเสื้อผ้าปิดมิดชิด โดยเฉพาะเมื่อเข้าไปในป่าหรือพื้นที่ชื้น
  • ปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบบ้าน ไม่ให้มีวัสดุหมักหมม เช่น กองไม้ กองฟืน กองขยะ
  • ดูแลสัตว์เลี้ยงให้สะอาด ป้องกันไม่ให้ถูกกัด
  • นอนในมุ้ง และใช้มุ้งลวดที่มีรูขนาดเล็กมากเป็นพิเศษ

✍️ สรุปจากบ้านกีฬา

ภัยจาก แมลงริ้นฝอยทราย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การรู้ทันข้อมูลโรคลิชมาเนียตั้งแต่ต้นปี 2568 ช่วยให้เราป้องกันและเตรียมรับมือได้อย่างรอบคอบ อย่ารอให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม! หากคุณอาศัยหรือทำงานใกล้พื้นที่เสี่ยง บ้านกีฬา ขอแนะนำให้หมั่นสังเกตอาการ และป้องกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะแค่แมลงตัวเล็ก ๆ ก็เปลี่ยนชีวิตคุณได้

ติดตามข่าวสุขภาพ และบทความเพื่อความปลอดภัยใกล้ตัว ได้ที่ ข่าวกระแสมาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา