
ประกันสังคม ปล่อยหมัดเด็ดรับเดือนเมษายน 2568 โอน “เงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท” งวดแรก เข้าบัญชีผู้ประกันตนทั่วประเทศอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้! การขยับเพิ่มเงินครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข่าวดีธรรมดา แต่มันคือจุดเปลี่ยนทางสังคม ที่สะท้อนความก้าวหน้าของนโยบายรัฐด้านสวัสดิการเด็กในประเทศไทย ที่มีคนได้ประโยชน์นับล้านชีวิต!
เงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท เริ่มโอนเมื่อไหร่? ใครได้สิทธิ?
วันที่ 30 เมษายน 2568 คือวันประวัติศาสตร์ที่ ผู้ประกันตน ภายใต้ มาตรา 33 และมาตรา 39 ได้รับ “เงินเด็กเล็ก” หรือเงินสงเคราะห์บุตร จำนวน 1,000 บาท/เดือน/คน เป็นครั้งแรก หลังคณะกรรมการประกันสังคมมีมติปรับเพิ่มจากเดิม 800 บาท ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยสามารถรับได้สูงสุดไม่เกิน 3 คนต่อครอบครัว เท่ากับว่าเงินเข้าครั้งเดียวจุก ๆ 3,000 บาท
เงื่อนไขครบ ได้แน่นอน! เช็กสิทธิด่วน
- ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ 39
- ชำระเงินสมทบครบ 12 เดือนภายในช่วง 36 เดือนล่าสุด
- บุตรต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย อายุแรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์
- รับสิทธิสูงสุด 3 คน ยกเว้นกรณีพิเศษอย่างผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย
เช็กตารางจ่ายเงินเด็ก 2568 เดือนต่อเดือน รับกันแบบต่อเนื่อง
- เงินสงเคราะห์บุตรที่เริ่มสิทธิในเดือนใด จะโอนเข้าบัญชีในเดือนถัดไปตามกำหนดของ สำนักงานประกันสังคม
ตัวอย่างเช่น: - สิทธิเดือนมกราคม → จ่าย 30 เมษายน
- สิทธิเดือนกุมภาพันธ์ → จ่าย 30 พฤษภาคม
- สิทธิเดือนมีนาคม → จ่าย 30 มิถุนายน
… ไปจนถึงสิทธิเดือนธันวาคม ที่จะโอนให้เดือนมีนาคมปีถัดไป
เปิดปฏิทินวันโอนเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2568
- เม.ย. 2568 : วันพุธที่ 30 เมษายน
- พ.ค. 2568 : วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม
- มิ.ย. 2568 : วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน
- ก.ค. 2568 : วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม
- …ไปจนถึง
- ธ.ค. 2568 : วันพุธที่ 31 ธันวาคม
ยื่นขอสิทธิเงินเด็กได้ที่ไหน? ง่ายนิดเดียว
- สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
- ระบบออนไลน์ e-Self Service บนเว็บไซต์ sso.go.th
เงินสงเคราะห์บุตร : ก้าวใหญ่ของสวัสดิการไทยท่ามกลางพายุการเมือง
การเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่ใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการผลักดัน ถือเป็นความเร็วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์นโยบายไทย หากย้อนกลับไป ปี 2542 เด็กไทยเคยได้รับเพียง 150 บาทต่อเดือน และต้องรอกว่า 26 ปีเต็มกว่าจะขยับเป็น 1,000 บาทในปี 2568 ความเปลี่ยนแปลงในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คือการยกระดับชีวิตเด็กไทยกว่า 1.2 ล้านคนทั่วประเทศ
คุณค่า 12,000 บาทต่อปีของเงินเด็ก ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือชีวิต
สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย เงินเดือนละ 1,000 บาทคือโอกาสของลูกที่จะได้กินนมดี ๆ ไม่ต้องอดอาหาร หรือช่วยค่านม ค่าเดินทางไปโรงเรียน
ครอบครัวระดับกลางอาจนำไปใช้พัฒนาเด็ก เช่น สมัครเรียนพิเศษ ออมเพื่อการศึกษา หรือซื้ออุปกรณ์เสริมทักษะ
แม้แต่ครอบครัวที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ เงินส่วนนี้ก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าบำบัด ค่าพาไปหาหมอ หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือเฉพาะทาง
เงิน 1,000 บาทในแต่ละครอบครัวอาจใช้แตกต่างกัน แต่ “เปลี่ยนชีวิต” ได้ทั้งหมด
เปรียบเทียบเวทีโลก: สวีเดน-ญี่ปุ่น ตัวอย่างที่ไทยควรมอง
ในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดน รัฐบาลสนับสนุนเงินเด็กแบบไม่มีเงื่อนไขรายได้ และเพิ่มตามจำนวนบุตร ส่วนญี่ปุ่นแม้จะมีอัตราเกิดต่ำ แต่ก็ให้เงินช่วยเด็กถึง 15,000 เยนต่อเดือน พร้อมส่งเสริมการออมเพื่อการศึกษา
ประเทศไทยอาจเพิ่งเริ่มต้น แต่การขยับเงินเป็น 1,000 บาท ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ
แนวโน้มอนาคต : สวัสดิการครอบคลุมตลอดชีวิต
ทีมประกันสังคมก้าวหน้ามีแผนผลักดันสวัสดิการถ้วนหน้า ไม่เพียงเฉพาะเด็ก แต่รวมถึงนโยบายลาครอบครัว การดูแลผู้สูงอายุ และระบบออมระยะยาว
สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นโครงสร้างสวัสดิการที่มั่นคง หากได้รับการสนับสนุนและสานต่ออย่างจริงจังจากภาครัฐ
ช่องทางสอบถามเพิ่มเติม
- เว็บไซต์ประกันสังคม: sso.go.th
- สายด่วน 1506 (ให้บริการ 24 ชั่วโมง ทุกวัน)
เม็ดเงิน 1,000 บาทที่โอนเข้าบัญชีวันนี้ อาจเป็นเพียงตัวเลขเล็ก ๆ ในสายตารัฐ แต่มันคือโอกาสยิ่งใหญ่สำหรับเด็กคนหนึ่งในบ้านหลังเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศไทย และนี่คือสัญญาณแห่งความหวังที่เราไม่ควรปล่อยให้ดับไปกลางทาง
ติดตามข่าวประกันสังคมและข่าวการค้นหาที่มาแรงได้ทุกวัน ที่ “บ้านกีฬา” – ศูนย์รวมข้อมูลที่คุณวางใจได้เสมอ