ปิดตำนาน Chris Rea อาลัยตำนานบลูส์ผู้รักรถ ชีวิตที่ขับฝ่ามรสุมจนเป็นเพลงคลาสสิก

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ข่าวเศร้าปลายปีที่แฟนเพลงสายร็อก-บลูส์ทั่วโลกไม่อยากเชื่อ… Chris Rea นักร้อง-นักแต่งเพลง-มือกีตาร์สไลด์ผู้มี “เสียงห้าวกรวด” เป็นเอกลักษณ์ เจ้าของเพลงระดับอมตะอย่าง The Road to Hell, Auberge, On the Beach และเพลงคริสต์มาสที่วนกลับมาฮิตทุกปี Driving Home for Christmas เสียชีวิตในวัย 74 ปี หลังป่วยช่วงสั้น ๆ ตามการยืนยันจากครอบครัว

และถ้าจะสรุปชีวิตศิลปินคนนี้ให้เข้ากับคาแรกเตอร์ “บ้านกีฬา” แบบชัด ๆ ก็ต้องบอกว่า… เขาเหมือนนักแข่งสายอึดที่ไม่เน้นแสงแฟลช แต่ชนะใจคนดูด้วย ระยะทาง “ขับไป-เขียนไป” จนสร้างซาวด์แทร็กให้คนทั้งโลก

เส้นทางของ Chris Rea จากเมืองอุตสาหกรรมสู่ตำนานดนตรี

Chris Rea หรือชื่อเต็ม Christopher Anton Rea เกิดปี 1951 ที่เมือง Middlesbrough ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ครอบครัวเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นจากธุรกิจไอศกรีมและคาเฟ่ของพ่อชื่อ Camillo Rea เขาโตมากับการทำงานช่วยร้าน ตั้งแต่ล้างโต๊ะไปจนถึงช่วยงานโรงงานไอศกรีม ก่อนชีวิตจะเลี้ยวเข้าสายดนตรีแบบจริงจัง

จุดเดือดของเรื่องคือ Chris Rea ไม่ได้เป็น “เด็กดนตรีที่ถูกปั้น” แต่เป็นคนที่มาเจอกีตาร์ในช่วงวัยยี่สิบ ๆ และหลงใหลเสียง slide guitar (บอตเทิลเน็ค) จนกลายเป็นลายเซ็นในทุกยุคทุกอัลบั้ม

“เสียงห้าว + สไลด์กีตาร์” สูตรที่ทำให้เพลงของเขาไม่เคยตกยุค

สิ่งที่ทำให้ชื่อ chris rea อยู่ยาว ไม่ใช่แค่เพราะเขามีเพลงดัง แต่เพราะเขามี “โทนเสียง” ที่ฟังครั้งเดียวจำได้ทันที—เสียงห้าวแบบคนผ่านร้อนผ่านหนาว ผสมกับกีตาร์สไลด์ที่ลากโน้ตเหมือนล้อรถไถลผ่านถนนเปียก ๆ

นี่คือเหตุผลที่เพลงของเขาถูกเอาไปเปิดในหลายจังหวะชีวิต:

  • ขับรถกลางคืนแล้วอยากได้เพลงที่ “พาใจกลับบ้าน”
  • วันที่เหนื่อยกับงานแล้วอยากได้ดนตรีที่ “ปลอบแบบไม่ต้องพูดเยอะ”
  • คนที่ชอบบลูส์/ร็อกคลาสสิกและอยากได้เสียงกีตาร์ที่มีคาแรกเตอร์

Road to Hell, Auberge และความสำเร็จที่ “ขึ้นชาร์ตแบบไม่ต้องอวย”

ตลอดอาชีพ Chris Rea ออกอัลบั้มสตูดิโอจำนวนมาก (รายงานหนึ่งระบุ 25 อัลบั้มสตูดิโอ) และมี 2 อัลบั้มที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มสหราชอาณาจักร ได้แก่ The Road to Hell (1989) และ Auberge (1991)

พูดง่าย ๆ คือ เขาไม่ได้ดังเพราะกระแส แต่ดังเพราะ “งานมันถึง” และฐานแฟนเพลงยุโรปแน่นแบบเหนียว ๆ ตามที่หลายสำนักสรุปไว้

Driving Home for Christmas เพลงที่เกิดจาก “รถติด-หิมะตก-หัวใจอยากกลับบ้าน”

ถ้ามีเพลงไหนที่ทำให้คนรุ่นใหม่เพิ่งมารู้จักเขาในทุกเดือนธันวาคม ก็คือ Driving Home for Christmas ซึ่งเบื้องหลังไม่ได้เกิดจากความตั้งใจจะทำเพลงเทศกาล แต่เกิดจากโมเมนต์ชีวิตล้วน ๆ

ข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ที่ถูกอ้างในหลายแหล่งระบุว่า เขาเริ่มได้ไอเดียเพลงนี้ตั้งแต่ปี 1978 ตอนกำลังจะกลับจากลอนดอนไป Middlesbrough โดย ภรรยาขับ Austin Mini มารับ เพราะบริษัทไม่ออกค่าเดินทาง รถติดหนัก หิมะตก และภาพคนขับรถคนอื่น ๆ ที่ดูเหนื่อยล้า กลายเป็นชนวนให้ทำนองและไอเดีย “ขับรถกลับบ้านช่วงคริสต์มาส” โผล่ขึ้นมาแบบฉับพลัน

นี่แหละเสน่ห์ของเขา: เอาความธรรมดาให้กลายเป็นเพลงที่ “อมตะทุกปี”

รถไม่ใช่พร็อพ แต่คือแรงบันดาลใจหลักของทั้งชีวิต

Chris Rea ถูกพูดถึงเสมอว่าเป็นคนรักรถจริงจังระดับ “สายลึก” และความหลงใหลเรื่องการขับ การเดินทาง และถนน ถูกแปลงเป็นภาษาดนตรีจนกลายเป็นธีมเด่นในหลายเพลงและหลายอัลบั้ม

นอกจากสะสม/ขับรถคลาสสิก เขายังเกี่ยวข้องกับมอเตอร์สปอร์ตหลายมุม—ตั้งแต่สนใจรถแข่ง ไปจนถึงมีช่วงที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศในวงการ F1 ตามที่บันทึกไว้ในประวัติและรายงานข่าว

ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ: สู้โรคหนักแล้วยังกลับมาทำเพลง

อีกด้านที่ทำให้แฟนเพลงเคารพ Chris Rea คือเขาผ่านปัญหาสุขภาพหนัก ๆ หลายช่วง โดยข่าวระบุว่าเขาเคยเจ็บป่วยรุนแรงรวมถึง มะเร็งตับอ่อน และต่อมามี ภาวะหลอดเลือดสมอง (stroke) แต่ยังคงทำงานเพลงต่อเนื่องในแบบที่เขาเชื่อและถนัด

มันเป็นภาพของศิลปินที่ “ไม่ปล่อยให้ชีวิตจอด” ต่อให้ร่างกายบอกให้พัก เขาก็ยังหาทางขับเคลื่อนตัวเองด้วยเสียงดนตรี

Chris Rea กับโลกภาพยนตร์ และความฝันอีกเลนที่เขาไปถึง

หลายคนอาจรู้จักเขาแค่ในฐานะนักร้อง แต่จริง ๆ เขายังมีงานด้านภาพยนตร์ด้วย เช่น โปรเจกต์ La Passione ที่เขาเขียน/อำนวยการสร้าง และทำดนตรีประกอบด้วย

สำหรับแฟน ๆ นี่คืออีกมุมที่ตอกย้ำว่า Chris Rea ไม่ได้เป็นแค่นักร้องทำเพลงฮิต แต่เป็น “นักเล่าเรื่อง” ที่เล่าได้ทั้งผ่านโน้ตและผ่านภาพ

เชื่อมโยงแบบบ้านกีฬา: Middlesbrough, ฟุตบอล และเพลง “Let’s Dance” เวอร์ชันพิเศษ

บ้านเกิดของเขาคือ Middlesbrough และมีเรื่องเล่าที่แฟนบอลชอบมากคือเพลง “Let’s Dance” ที่มีเวอร์ชันเกี่ยวข้องกับสโมสรบ้านเกิด โดยข้อมูลระบุว่าในปี 1997 มีการทำเวอร์ชันพิเศษให้ Middlesbrough F.C. พร้อมเนื้อร้องใหม่จากนักแสดงตลก Bob Mortimer

นี่มันฟีลเดียวกับนักเตะบ้าน ๆ ที่กลับไปช่วยทีมเมืองเกิด—แต่เวอร์ชันของ Chris Rea คือช่วยด้วย “เสียงเพลง”

เพลย์ลิสต์เริ่มต้นสำหรับมือใหม่ อยากเข้าวงการ Chris Rea ต้องเริ่มตรงไหน

ถ้าเพิ่งรู้จักชื่อ chris rea แล้วอยากเริ่มแบบอินเร็ว แนะนำไล่ฟังด้วยโหมดนี้:

  • โหมดขับรถกลางคืน: The Road to HellAuberge
  • โหมดพักใจริมทะเล/วันเหงา ๆ: On the Beach
  • โหมดเทศกาลปลายปี: Driving Home for Christmas
    แล้วค่อยย้อนกลับไปฟังอัลบั้มตามยุค เพื่อจะเห็นพัฒนาการของ “เสียงห้าว” ที่ยิ่งแก่ยิ่งขลัง

ทำไมชื่อ Chris Rea จะยังถูกค้นหาไปอีกนาน

เพราะเพลงของเขาไม่ได้ผูกกับแฟชั่น แต่มันผูกกับ “ประสบการณ์มนุษย์” แบบสากล: การเดินทาง การกลับบ้าน ความเหงา ความหวัง การเริ่มต้นใหม่ และถนนที่พาเราไปเจออะไรบางอย่างระหว่างทาง

ต่อให้ศิลปินจากไปแล้ว แต่เสียงสไลด์กีตาร์ของเขายังเหมือนไฟหน้ารถในคืนมืด—ส่องนำทางคนฟังได้เสมอ

สรุป

Chris Rea คือศิลปินที่พิสูจน์ว่า “ความรักรถและการเดินทาง” ไม่ได้จบแค่บนท้องถนน แต่มันถูกแปลงเป็นบทเพลงที่อยู่กับคนทั้งโลกได้ยาวนาน ตั้งแต่อัลบั้มขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ไปจนถึงเพลงคริสต์มาสที่กลับมาฮิตซ้ำทุกปี และแม้วันนี้เขาจะจากไปในวัย 74 ปี แต่ตำนาน “นักเล่าเรื่องบนถนน” คนนี้จะยังไม่หายจากเพลย์ลิสต์ของผู้คน

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา