บ้านผลบอล สรุปหลังเกม อาร์เซนอล ถล่ม เรอัล มาดริด 3-0 ตุนความได้เปรียบก่อนเกมเลกสอง UCL 2025

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 ระหว่าง อาร์เซนอล 3-0 เรอัล มาดริด วันนี้ 9/4/68 – บ้านกีฬา

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2025 รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก กลายเป็นค่ำคืนอันน่าจดจำของแฟน อาร์เซนอล เมื่อทัพปืนใหญ่ระเบิดฟอร์มโหด เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ไล่อัดมหาอำนาจลูกหนังอย่าง เรอัล มาดริด ไปแบบสุดมันส์ 3-0 โดยเฉพาะฟอร์มอันสุดยอดของ เดแคลน ไรซ์ ที่โชว์คลาสระดับโลกทั้งรุกและรับ จนได้รับตำแหน่ง Man of the Match แบบไร้ข้อกังขา บ้านกีฬา ขอพาไปเจาะลึกเกมนี้กันแบบละเอียด พร้อมแทรกคำว่า ผลบอลสด อย่างแนบเนียนเพื่อแฟนบอลที่ติดตามทุกจังหวะ

ครึ่งแรก

ของเกมถือเป็นการชิงจังหวะกันอย่างเข้มข้น ทั้งสองทีมต่างพยายามหาพื้นที่ทำเกมรุก แต่แนวรับของทั้งอาร์เซนอลและมาดริดต่างก็มีสมาธิสูง ไม่มีโอกาสจะแจ้งมากนัก ฝั่งปืนใหญ่แม้จะครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังเจาะแนวรับโลส บลังโกสไม่เข้า ส่วนเรอัล มาดริดเองก็พยายามใช้ความเร็วของวินิซิอุส และโรดรีโก้เล่นงานริมเส้น แต่ยังไม่เฉียบคมพอ จบ 45 นาทีแรกแบบไร้สกอร์ ทำให้แฟนบอลที่ติดตาม ผลบอลสด ทั่วโลกต่างจับตาไปที่ครึ่งหลังว่าจะมีการเปลี่ยนเกมหรือไม่

ครึ่งหลัง

ก็ระเบิดความมันส์แบบไม่ให้ตั้งตัว นาที 58 เดแคลน ไรซ์ ยิงประตูสุดเฉียบให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 จากนั้นอีก 12 นาทีต่อมา เขาก็โชว์ความเหนือชั้น ยิงประตูที่สองของตัวเองในนาที 70 จากการประสานงานสุดเนียนกับบูกาโย่ ซาก้า ส่งอาร์เซนอลหนีเป็น 2-0 และอีกเพียง 5 นาทีถัดมา ไมเคิล เมริโน่ ก็จัดการตอกฝาโลงใส่ราชันชุดขาวเป็น 3-0 จากจังหวะต่อบอลทะลุแนวรับมาดริดอย่างงดงาม เกมยิ่งเละเทะสำหรับทีมเยือนเมื่อเอดูอาร์โด้ คามาวินก้า ไปโดนใบแดงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+4 ยิ่งตอกย้ำความเหนือชั้นของทีมจากลอนดอน

รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

อาร์เซนอล (4-3-3) ผู้รักษาประตู: ดาบิด รายา
กองหลัง: ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลียม ซาลิบา, ยาคุบ คีวีออร์, ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี
กองกลาง: โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์, มิเกล เมริโน่
กองหน้า: บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด (กัปตัน), กาเบรียล มาร์ติเนลลี

ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง ลีอันโดร ทรอสซาร์ด (แทน ซาก้า น.74)
คีแรน เทียร์นี่ย์ (แทน ไรซ์ น.80)
เบน ไวท์ (แทน ทิมเบอร์ น.90+1)

เรอัล มาดริด (4-4-2)
ผู้รักษาประตู: ติโบต์ กูร์ตัวส์
กองหลัง: ดาวิด อลาบา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
กองกลาง: ลูก้า โมดริช (กัปตัน), เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า, โรดรีโก้, มาร์โก อเซนซิโอ
กองหน้า: วินิซิอุส จูเนียร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้

ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง
ลูคัส บาซเกซ (แทน โมดริช น.71)
ฟราน การ์เซีย (แทน อลาบา น.79)
บราฮิม ดิอาซ (แทน โรดรีโก้ น.85)

วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเกมนี้ วิเคราะห์บอล แผนการเล่นจะเห็นได้ชัดว่า มิเกล อาร์เตต้า ใช้ระบบ 4-3-3 ที่เน้นการครองบอลและดันแบ็กเติมสูง โดยเฉพาะฝั่งของทิมเบอร์และมาร์ติเนลลีที่ประสานกันได้อย่างลงตัว การขึ้นเกมของอาร์เซนอลเน้นการสอดแทรกจากกลางสนาม โดยมี เดแคลน ไรซ์ เป็นหัวใจในทุกจังหวะ ทั้งในเกมรุกและเกมรับ

ฝั่งเรอัล มาดริด ใช้ระบบ 4-4-2 ที่ดูอึดอัดตั้งแต่เริ่ม เพราะไม่สามารถแย่งพื้นที่แดนกลางได้เลย การรับบอลของวินิซิอุสและเอ็มบัปเป้ถูกบีบจนหมดพื้นที่เล่น เมื่อเจอกับแนวรับดุดันของซาลิบาและคีวีออร์ รวมถึงความแข็งแกร่งของรายาในกรอบเขตโทษ การรับของมาดริดยังคงพึ่งพาการยืนตำแหน่งมากกว่าการไล่เพรส ทำให้พอเกมเปิดหน้าแลก พวกเขากลายเป็นรองแบบชัดเจน

สถิติการแข่งขัน

อาร์เซนอลเป็นฝ่ายที่ครองเกมได้ดีกว่าเล็กน้อยด้วยการครองบอล 54% พร้อมโอกาสยิงมากถึง 12 ครั้ง และเข้ากรอบถึง 11 หน แสดงถึงความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ขณะที่เรอัล มาดริดยิงได้ 9 ครั้ง แต่ตรงกรอบเพียง 3 หนเท่านั้น การผ่านบอลของทั้งสองทีมสูสีกัน โดยอาร์เซนอลจ่ายบอล 490 ครั้งด้วยความแม่นยำ 89% ส่วนมาดริดจ่าย 435 ครั้ง ความแม่นยำอยู่ที่ 86% ทีมเยือนทำฟาวล์มากกว่า 9 ครั้ง และต้องเสียใบแดงให้คามาวินก้าในช่วงท้ายเกม ขณะที่เจ้าบ้านฟาวล์ 8 ครั้ง และมีใบเหลืองใบเดียวจากโธมัส ปาร์เตย์

เหตุการณ์สำคัญ

⚽ 58′ เดแคลน ไรซ์ ยิงให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0
⚽ 70′ เดแคลน ไรซ์ ซัดเบิ้ลนำห่างเป็น 2-0
⚽ 75′ มิเกล เมริโน่ ยิงปิดกล่อง 3-0
🟨 54′ โธมัส ปาร์เตย์ ทำฟาวล์ ได้รับใบเหลือง
🟨 68′ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า ทำฟาวล์ ได้ใบเหลือง
🔴 90+4′ เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า โดนใบแดง จากจังหวะมีปากเสียง
🔁 71′ ลูคัส บาซเกซ แทน ลูก้า โมดริช
🔁 74′ ลีอันโดร ทรอสซาร์ด แทน บูกาโย่ ซาก้า
🔁 79′ ฟราน การ์เซีย แทน ดาวิด อลาบา
🔁 80′ คีแรน เทียร์นี่ย์ แทน เดแคลน ไรซ์
🔁 85′ บราฮิม ดิอาซ แทน โรดรีโก้
🔁 90+1′ เบน ไวท์ แทน ยูร์เรียน ทิมเบอร์

Player of the Match

เดแคลน ไรซ์ คือนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้แบบไร้ข้อกังขา เขายิง 2 ประตูสำคัญ พลิกสถานการณ์ให้ทีมขึ้นนำ และยังเป็นแกนกลางที่เชื่อมเกมทั้งรุกและรับได้อย่างยอดเยี่ยม ได้คะแนน 8.7 จาก SofaScore พร้อมคำยกย่องว่าเป็นผู้นำเกมตัวจริงเสียงจริงของทีมปืนใหญ่

สถานการณ์ในตารางคะแนน

จากชัยชนะ 3-0 ในนัดแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศ อาร์เซนอล กุมความได้เปรียบมหาศาลก่อนออกไปเยือนในเกมเลกสองที่ซานติอาโก เบร์นาเบว ขณะที่ เรอัล มาดริด ต้องกลับไปแก้ตัวให้ได้และยิงให้ได้อย่างน้อย 3 ประตูเพื่อหวังต่อชีวิตในศึกยุโรปครั้งนี้ ความพ่ายแพ้แบบเละเทะในนัดนี้ทำให้สถานการณ์ของราชันชุดขาวตกอยู่ในความกดดันอย่างหนัก

การแข่งขันนัดถัดไป

หลังจากเปิดบ้านถล่มเรอัล มาดริดไป 3-0 ในนัดแรกของรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 โปรแกรม ตารางบอล นัดถัดไปของทั้งสองทีมยังคงเข้มข้นต่อเนื่อง โดยฝั่ง อาร์เซนอล จะกลับไปลุยศึกพรีเมียร์ลีกด้วยการเปิดบ้านพบ เบรนท์ฟอร์ด ในวันที่ 12 เมษายน เวลา 23:30 น. ก่อนจะยกพลบุกซานติอาโก เบร์นาเบวเจอกับ เรอัล มาดริด ในนัดที่สองของรอบนี้วันที่ 17 เมษายน เวลา 02:00 น.

ขณะที่ทางด้านราชันชุดขาวจะลงเล่นเกมลา ลีกา พบกับ อลาเบส ในวันที่ 13 เมษายน เวลา 21:15 น. ซึ่งทั้งสองนัดถือเป็นบททดสอบสภาพร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริงก่อนกลับมาลุ้นเข้ารอบต่อไปในเวทียุโรปกลางสัปดาห์หน้า ติดตาม ตารางบอล และความเคลื่อนไหวของทีมแบบเรียลไทม์ได้ทาง บ้านกีฬา

ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา

คอบอลตัวจริงห้ามพลาดทุกการเคลื่อนไหวของเกมยุโรปและลีกดังทั่วโลกกับ บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวสารและรายงานผลการแข่งขันที่แม่นยำ สดใหม่ และลึกครบทุกมิติ ทั้งสถิติ ตัวจริง และทีเด็ดวิเคราะห์ก่อนเกม ครบจบในที่เดียว

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา