
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 ระหว่าง อาร์เซนอล 0-1 เปแอสเช วันนี้ 30/4/68 – บ้านกีฬา
ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 รอบรองชนะเลิศเลกแรกที่เพิ่งจบลงแบบดุเดือดที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือนด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูสุดเฉียบของ อุสมาน ดิมเบเล่ ตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกม ส่งผลให้สถานการณ์เข้าทาง PSG ก่อนจะกลับไปเล่นเลกสองที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์กลางสัปดาห์หน้า สำหรับแฟนบอลที่กำลังเช็ก ผลบอลสด คู่นี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกเกมที่เปลี่ยนรูปเกมกันตั้งแต่นาทีแรก
ครึ่งแรกเริ่มมาไม่ทันไร นาทีที่ 4 ปารีสก็มาได้ประตูขึ้นนำทันทีจากจังหวะที่ ควารัตสเคเลีย หลุดมาทางซ้ายแล้วจ่ายเข้ากลางให้ อุสมาน ดิมเบเล่ วิ่งมายิงด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งหนีมือ ดาบิด รายา เข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด ให้ PSG นำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นแม้อาร์เซนอลจะพยายามต่อบอลและขึ้นเกมทางริมเส้นทั้งสองฝั่ง โดยมี ซาก้า กับ มาร์ติเนลลี่ คอยปั่นป่วน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ นาทีที่ 50 ทีมเจ้าบ้านเกือบตีเสมอได้จาก มิเกล เมริโน่ ที่ซัดเข้าไป แต่ VAR ปฏิเสธเนื่องจากมีจังหวะฟาวล์ก่อนหน้า จบครึ่งแรก PSG บุกมานำอาร์เซนอล 1-0
ครึ่งหลังเกมเปิดแลกกันมากขึ้น อาร์เซนอลครองบอลได้มากขึ้นและพยายามเปิดเกมรุกใส่เต็มที่ ดีแคลน ไรซ์ คุมแดนกลางได้ดีและมีโอกาสส่องไกลแต่ยังไม่ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ที่โชว์ฟอร์มเหนียวแน่นเช่นเคย ทางด้าน PSG ใช้จังหวะโต้กลับเล่นงาน มีโอกาสได้ลุ้นจาก กอนซาโล่ รามอส และ ดานิโล่ ดูเอ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองแต่ไม่สามารถปิดบัญชีเพิ่มได้ สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม เปแอสเชรักษาสกอร์ไว้ได้และคว้าชัยไปก่อนในเกมเลกแรก
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
อาร์เซนอล (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: ดาบิด รายา
- กองหลัง: ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลียม ซาลิบา, ยาคุบ คิวิออร์, ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่
- กองกลาง: เดแคลน ไรซ์, มิเกล เมริโน่, มาร์ติน โอเดการ์ด (กัปตัน)
- แนวรุก: บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เลอันโดร ทรอสซาร์
เปลี่ยนตัว: เบน ไวท์ แทน ทิมเบอร์ (83’), เอธาน เอ็นวาเนรี แทน โอเดการ์ด (90+1’)
เปแอสเช (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: จานลุยจิ ดอนนารุมมา
- กองหลัง: อาชราฟ ฮาคิมี่, มาร์ควินญอส (กัปตัน), วิลเลียม ปาโช่, นูโน่ เมนเดส
- กองกลาง: ชูเอา เนเวส, วิตินญา, ฟาเบียน รุยซ์
- แนวรุก: ควารัตสเคเลีย, อุสมาน ดิมเบเล่, ดานิโล่ ดูเอ
เปลี่ยนตัว: แบรดลีย์ บาร์โคล่า แทน ดิมเบเล่ (70’), กอนซาโล่ รามอส แทน ดูเอ (76’), วาร์เรน ซาอีร์-อีแมรี่ แทน ชูเอา เนเวส (89’)
นักเตะโดดเด่น
- อาร์เซนอล: เดแคลน ไรซ์ (7.8), ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ (7.5), ดาบิด รายา (7.1)
- เปแอสเช: มาร์ควินญอส (8.0), ดอนนารุมมา (7.8), ชูเอา เนเวส (7.4)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
แผนการเล่นของทั้งสองทีมยึดระบบ 4-3-3 เหมือนกัน โดยฝั่ง อาร์เซนอล พยายามครองบอลผ่านมิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง ไรซ์ และ โอเดการ์ด สลับกับการโยนบอลออกริมเส้นให้ ซาก้า กับ มาร์ติเนลลี่ ทำเกมรุก แต่แดนหน้าไม่เฉียบพอ และการเชื่อมเกมขาดความแม่นยำ โดยเฉพาะทรอสซาร์ที่ถูกมาร์ควินญอสปิดเกมได้อยู่หมัด
ขณะที่ฝั่ง เปแอสเช เน้นสปีดเกมจากริมเส้น โดยให้ ควารัตสเคเลีย กับ ดิมเบเล่ ทำเกมโต้กลับ โดยมีวิตินญาและเนเวสคอยเชื่อมจังหวะตรงกลาง เกมรับแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะการวางตำแหน่งของมาร์ควินญอสซึ่งคุมเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยมตามสไตล์ของเขา การวิเคราะห์บอลเกมนี้ชัดเจนว่า เปแอสเชวางแท็กติกมารับแน่น รอโต้เฉียบ และได้ประตูเร็วทำให้เล่นตามแผนได้ตลอด 90 นาที
สถิติการแข่งขัน
เกมนี้อาร์เซนอลครองบอลได้ 47% ขณะที่เปแอสเชครองบอล 53% ตลอดทั้งเกม ทีมเยือนจ่ายบอลได้แม่นยำกว่าที่ 85% จากจำนวน 437 ครั้ง ส่วนอาร์เซนอลจ่ายได้ 389 ครั้ง คิดเป็นความแม่นยำ 83% ด้านโอกาสยิง อาร์เซนอลยิงรวม 10 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ส่วนเปแอสเชยิงมากกว่าที่ 11 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ทั้งสองทีมทำฟาวล์เท่ากันที่ 15 ครั้ง มีใบเหลืองฝั่งละ 2 ใบ เตะมุมอาร์เซนอลได้ 3 ครั้ง ขณะที่เปแอสเชได้แค่ 1 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 4’ เปแอสเชได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก อุสมาน ดิมเบเล่
🟨 10’ เลอันโดร ทรอสซาร์ โดนใบเหลือง
🟨 43’ บูกาโย่ ซาก้า มีปากเสียงจนโดนใบเหลือง
🟨 44’ อาชราฟ ฮาคิมี่ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
❌ 50’ มิเกล เมริโน่ ยิงเข้าแต่โดน VAR ปฏิเสธ
🔁 70’ เปแอสเชเปลี่ยน ดิมเบเล่ ออก ส่ง บาร์โคล่า
🔁 76’ เปแอสเชเปลี่ยน ดูเอ ออก ส่ง กอนซาโล่ รามอส
🔁 83’ อาร์เซนอลเปลี่ยน ทิมเบอร์ ออก ส่ง เบน ไวท์
🔁 89’ เปแอสเชเปลี่ยน ชูเอา เนเวส ออก ส่ง ซาอีร์-อีแมรี่
🔁 90+1’ อาร์เซนอลเปลี่ยน โอเดการ์ด ออก ส่ง เอธาน เอ็นวาเนรี
Player of the Match: มาร์ควินญอส (Paris Saint-Germain)
กัปตันเปแอสเชโชว์ฟอร์มได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยคะแนนสูงสุด 8.0 เขาคุมเกมรับแน่นหนา อ่านจังหวะอาร์เซนอลได้ขาด ช่วยบล็อกหลายจังหวะสำคัญ และยังเป็นผู้นำในสนามที่พาทีมเก็บคลีนชีตนอกบ้านได้สำเร็จ
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะของ PSG ในเกมนี้ทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบก่อนจะกลับไปเล่นเลกสองที่บ้านตัวเอง โดยอาร์เซนอลจะต้องเปิดเกมรุกเพื่อทวงประตูคืนให้ได้อย่างน้อยหนึ่งลูกเพื่อหวังต่อลมหายใจในศึก UCL ปีนี้ หากเปแอสเชยันเสมอได้ในเลกถัดไป พวกเขาจะเข้าสู่รอบชิงทันที
การแข่งขันนัดถัดไป
ตาม ตารางบอล นัดถัดไปของทั้งสองทีมยังคงดุเดือดต่อเนื่อง โดยอาร์เซนอลจะเปิดบ้านเจอกับบอร์นมัธในศึกพรีเมียร์ลีกวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 23:30 น. ขณะที่ PSG จะบุกเยือนสตราส์บูร์กในศึกลีกเอิงเวลา 22:00 น. ของวันเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับมาเจอกันอีกครั้งในเลกสองวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 02:00 น. ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์
ติดตามผลการแข่งขัน บ้านผลบอล แบบสด ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา เว็บไซต์เดียวที่รวมทุกเกมใหญ่ ครบทุกอารมณ์