
ชัยชนะที่ทั้งแฟนบอลและสโมสรเฝ้ารอมาอย่างยาวนานสิ้นสุดลงอย่างยิ่งใหญ่! ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ระเบิดฟอร์มโหดไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี
หลังจบเกมดังกล่าว กุนซือชาวสแปนิชวัย 55 ปีถึงกับเปิดใจด้วยความปลาบปลื้มว่า การพาเปแอสเชขึ้นสู่บัลลังก์ยุโรปได้สำเร็จ คือภารกิจที่เขาตั้งเป้าไว้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่รั้วปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ และในที่สุด ความฝันนั้นก็กลายเป็นจริง พร้อมประกาศศักดาของ ยอดทีมจากฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ
เกมนี้ เปแอสเชโชว์ความโหดตั้งแต่นาทีแรก โดยได้ประตูนำเร็วจาก อัชราฟ ฮาคิมี ในนาทีที่ 12 จากนั้นดาวรุ่งอย่าง เดซีเร ดูเอ ก็ระเบิดฟอร์มกดสองประตูในนาทีที่ 20 และ 63 พาเกมไหลลื่นต่อเนื่อง ก่อนที่ ควิชา ควารัตสเคเลีย จะยิงย้ำชัยในนาทีที่ 73 และปิดท้ายด้วยประตูที่ห้าจากตัวสำรอง เซนนี มายูลู ในนาทีที่ 86 ทำให้ เปแอสเชเอาชนะอินเตอร์แบบขาดลอย ชนิดที่ไม่เปิดโอกาสให้ “งูใหญ่” ได้หายใจ
นอกจากจะเป็นการคว้าแชมป์ UCL ครั้งแรก ในประวัติศาสตร์สโมสรแล้ว เปแอสเชยังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการคว้า ทริปเปิลแชมป์ ในฤดูกาลเดียว ไล่ตั้งแต่ ลีก เอิง, คูป เดอ ฟร้องซ์ และปิดท้ายด้วยแชมป์ยุโรประดับสูงสุด พร้อมด้วย โทรเฟ เดส์ ชองปิยองส์ ที่เป็นของแถมอีกหนึ่งใบ
เอ็นรีเก้ กล่าวหลังเกมด้วยความภูมิใจว่า “ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาทำงานที่นี่ ผมพูดเสมอว่าผมอยากพาทีมนี้คว้าแชมป์ใหญ่ และหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดคือ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เปแอสเชไม่เคยคว้าได้มาก่อน วันนี้เราทำได้ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผมมีความสุขที่สามารถทำให้แฟนบอลของเรามีความสุขไปกับเรา”
เขายังกล่าวชมลูกทีมโดยเฉพาะ อุสมาน เดมเบเล่ ว่า “เราเตรียมตัวสำหรับเกมนี้มาอย่างดี เรารู้ว่าต้องเล่นในจังหวะที่เร็วและกดดันสูง เดมเบเล่โชว์ฟอร์มมหาโหด ไล่เพรสซิ่งกองหลังและผู้รักษาประตูของอินเตอร์ทั้งเกม เขาไม่ยอมปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งเกมเลย นี่คือตัวอย่างของทีมเวิร์กและหัวใจนักสู้ที่แท้จริง”
การพาแชมป์ UCL กลับปารีสในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นจุดเปลี่ยนของสโมสรเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำว่า แนวทางการสร้างทีมของเปแอสเชภายใต้เอ็นรีเก้ กำลังเดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง การผสมผสานระหว่างพลังหนุ่ม ดาวรุ่งฝีเท้าจัดจ้าน และนักเตะมากประสบการณ์ ทำให้พวกเขาไม่เพียงแค่แชมป์ แต่พร้อมจะสร้างจักรวาลใหม่ในฟุตบอลยุโรปในอีกหลายปีข้างหน้า
ติดตามข่าวเดือดระดับยุโรป อัปเดตทุกแชมป์ทุกถ้วยก่อนใครแบบจัดเต็มได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา