“ผู้ว่าก้อง” หนุนเอกชนชิงลิขสิทธิ์ถ่ายสดบอลโลก รัฐพร้อมลุยหากทีมชาติไทยได้ไปเวิลด์คัพ!

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

สถานการณ์ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก กำลังเป็นประเด็นร้อนที่แฟนบอลไทยให้ความสนใจอย่างล้นหลาม หลังจากที่ กสทช. ตัดสินใจ ถอดฟุตบอลโลกออกจากกฎ Must Have อย่างเป็นทางการ โดยล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนแนวทางใหม่ที่เปิดโอกาสให้ ภาคเอกชน ก้าวเข้ามาเป็นผู้ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสด พร้อมย้ำว่าหาก ทีมชาติไทย ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันเวิลด์คัพเมื่อใด รัฐบาลพร้อมลุยเต็มที่เพื่อให้คนไทยได้ดูฟรี

ประกาศสำคัญฉบับนี้ถูกเผยแพร่ผ่าน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 โดยระบุว่า ฟุตบอลโลกจะถูกถอดออกจากรายการกีฬาในกลุ่ม “Must Have” หรือกีฬาที่ประชาชนไทยจะต้องได้รับชมผ่านการถ่ายทอดสดฟรี ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่สะเทือนทั้งวงการกีฬาและธุรกิจสื่อ

ดร.ก้องศักด ได้ให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกนั้นมีมูลค่าทางการตลาดที่สูงมาก การเปิดทางให้ กลไกตลาด และภาคเอกชนเป็นผู้เข้ามาจัดซื้อลิขสิทธิ์จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสม เพราะจะช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐ และเป็นการเปิดเกมการแข่งขันเชิงธุรกิจที่เป็นธรรม

“ฟุตบอลโลกถือเป็นทรัพย์สินทางการกีฬาที่มีมูลค่ามหาศาล รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการตามความเหมาะสม ส่วนภาครัฐจะเข้ามามีบทบาทเมื่อเกิดเหตุการณ์พิเศษ เช่น กรณีที่ ทีมชาติไทย ได้ไปแข่งขันรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก นั่นคือจุดที่ภาครัฐจะต้องเข้ามาสนับสนุนให้ประชาชนได้ดูฟรีอย่างแน่นอน” — ดร.ก้องศักด กล่าว

แต่เมื่อถูกถามถึงโอกาสที่คนไทยจะได้รับชมฟุตบอลโลกในอนาคตแบบถ่ายทอดสดฟรีหรือไม่ ท่านผู้ว่ากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนไทยจะได้ดูฟุตบอลโลกหรือไม่หลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ฟุตบอลโลกจะถูกถอดออกจากกฎ Must Have แต่ กีฬาระดับนานาชาติที่มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขัน 6 รายการหลัก ยังคงอยู่ในข่ายที่ภาครัฐต้องรับผิดชอบถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้ชมฟรี ได้แก่:

  1. การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน (ซีเกมส์)
  2. การแข่งขันกีฬาคนพิการอาเซียน (อาเซียนพาราเกมส์)
  3. การแข่งขันกีฬาระดับทวีปเอเชีย (เอเชียนเกมส์)
  4. การแข่งขันกีฬาคนพิการระดับทวีป (เอเชียนพาราเกมส์)
  5. โอลิมปิกเกมส์
  6. พาราลิมปิกเกมส์

ทั้ง 6 รายการนี้ยังคงอยู่ภายใต้การคุ้มครองตามกฎ Must Have เวอร์ชันปรับปรุงล่าสุด ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นไป โดยเน้นความสำคัญที่ นักกีฬาไทยมีส่วนร่วม และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่ประชาชนในการสนับสนุนกีฬาไทยอย่างยั่งยืน

บทสรุปจากกรณีนี้ชัดเจนว่า นับจากนี้ ฟุตบอลโลก จะไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐอีกต่อไปหากทีมชาติไทยไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ความหวังจึงอยู่ที่ เอกชน ว่าจะกล้าลงทุนซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดให้คนไทยดูหรือไม่ ขณะเดียวกันแฟนบอลไทยต้องลุ้นกันยาวๆ ว่าในอนาคตอันใกล้ “ช้างศึก” จะสามารถก้าวไปถึงเวทีเวิลด์คัพได้หรือเปล่า เพราะหากไปถึงตรงนั้น รัฐบาลก็พร้อมลุยทันที!

ติดตามทุกความเคลื่อนไหววงการกีฬาไทยและนโยบายสำคัญก่อนใครได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา