🏟️ สถานการณ์บังคับให้ขยับ: มาดริดอยากกลับมาทวงบัลลังก์ ต้องกล้า “เติมของ” กลางฤดูกาล
ถ้า เรอัล มาดริด หวังเร่งเครื่องให้ทันทั้งการไล่ล่าจ่าฝูงใน ลาลีกา และการเอาตัวรอดใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงครึ่งหลังของซีซั่น “ตลาดเดือนมกราคม” อาจไม่ใช่หน้าต่างที่มองข้ามได้อีกต่อไป แม้ภาพจำของทีมชุดขาวจะไม่ค่อยขยับหนักในช่วงหน้าหนาว แต่เมื่อผลงานในสนามเริ่มสะดุด บวกกับอาการเจ็บที่เล่นงานแกนหลักเป็นระยะ ความกดดันในเมืองหลวงสเปนก็เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์
ฤดูกาลก่อน (2024/25) จบแบบไม่มีโทรฟี่ใหญ่ ทำให้ซัมเมอร์ที่ผ่านมา มาดริดเดินหน้าปรับทัพด้วยการดึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดีน ฮุยเซ่น, อัลบาโร่ การ์เรราส และฟรังโก้ มาสตันตูโอโน เข้าสู่เบร์นาเบว แต่ครึ่งซีซั่นแรกของยุค ชาบี อลอนโซ่ ยังไม่ง่าย—ตามหลังบาร์เซโลน่า 4 แต้มในลีก แถมเจอความพ่ายแพ้ในเวทียุโรปต่อ ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนเสียงเรียกร้องเรื่อง เสริมทัพ ดังขึ้นเรื่อยๆ
🚑 จุดแตกหักของฟอร์ม: เจ็บเยอะ+เกมไร้ชีวิต ทำให้ปัญหาชัดกว่าที่คิด
ปัญหาหลักของมาดริดในเวลานี้ไม่ใช่ “ชื่อชั้น” แต่คือความต่อเนื่อง เมื่อขุมกำลังเจ็บสลับกันจนการจัดทีมไม่นิ่ง เกมรับหลุดง่ายขึ้น และเกมคุมจังหวะกลางสนามก็ไม่แน่นเหมือนยุคที่มีตัวคุมเกมระดับตำนานอยู่
สองโซนที่ถูกมองว่า “ต้องแก้ทันที” คือ
- แนวรับตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กที่ขาดคนหมุนเวียน
- แดนกลางเชิงลึกที่ยังไม่มีคนคุมจังหวะแทนโครส-โมดริชได้จริง
🧱 เป้าหมายแรก: เพิ่มตัวเลือก เซ็นเตอร์แบ็ก ก่อนหลังบ้านพังยับ
สถานการณ์ของมาดริดคล้ายเดจาวูกับปีก่อน—ต้องการเซ็นเตอร์แบ็กแบบเร่งด่วน เพราะ เอแดร์ มิลิเตา บาดเจ็บหนักจากเอ็นกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังขาซ้าย (เกิดวันที่ 7 ธ.ค.) และคาดว่าจะพักยาวถึงเดือนเมษายน
ด้าน ดาบิด อลาบา ก็เจ็บๆ หายๆ จนแทบไม่ฟิตต่อเนื่อง ได้ลงเล่นภายใต้อลอนโซ่เพียง 145 นาทีเท่านั้น ขณะที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ก็มีปัญหาความฟิตไม่ต่างกัน—แข้งวัย 32 ปีพลาดลงสนามเกินสองเดือนช่วงต้นฤดูกาล 2025/26 จากอาการเจ็บแฮมสตริง หลังจากเพิ่งกลับมาจากการผ่าตัดเข่าไม่นาน
ผลคือมาดริดเหลือเซ็นเตอร์แบ็กซีเนียร์ให้ใช้งานจริงๆ แทบจะมีแค่ ฮุยเซ่น กับราอูล อาเซนซิโอ และอลอนโซ่ต้องเลี่ยงการใช้งาน “ตัวแก้ขัด” อย่าง โอเรเลียง ชูอาเมนี่ กับการ์เรราส ไปยืนเซ็นเตอร์บ่อยๆ ด้วยการเพิ่มความลึกให้แผงหลัง
🎯 รายชื่อที่จับตา: ใครคือคำตอบในตลาดหน้าหนาว?
1) อิบราฮิม่า โกนาเต้ (ลิเวอร์พูล) – เคยนำขบวน แต่เหมือนถอยออกจากเรดาร์
ช่วงต้นฤดูกาล โกนาเต้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะตามรอยอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาใส่ชุดขาว แต่รายงานระบุว่ามาดริด “ถอนตัว” จากการล่าลายเซ็นกองหลังฝรั่งเศสไปแล้ว ท่ามกลางความกังวลเรื่องฟอร์มที่ดรอปลง
2) มาร์ค เกฮี (คริสตัล พาเลซ) – โปรไฟล์ตรงสเปก เกมนิ่ง เล่นได้หลายบทบาท
ชื่อของเกฮีถูกมองว่าเข้ากับภาพทีมมาดริดที่อาจต้องโบกมือลา รือดิเกอร์ และอลาบา เมื่อจบฤดูกาล ความนิ่ง ความยืดหยุ่น และความแข็งแกร่งเชิงกายภาพ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ “ใช่” ในเชิงโครงสร้างทีม แต่ถ้าจะเอาให้ได้ตั้งแต่มกราคม อาจต้องยอมจ่ายหนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่สโมสรพยายามหลีกเลี่ยงในช่วงหลัง
3) ดาโยต์ อูปาเมกาโน (บาเยิร์น) – ทางเลือกพรีเมียม แต่ค่าตัวไม่ใจดี
อูปาเมกาโนเป็นอีกชื่อที่ถูกโยงเข้ามา หากต้องการความพร้อมแบบทันทีทันใด แต่ภาพรวมก็ยังติดเรื่อง “ราคา” เช่นเดียวกัน ทำให้ดีลลักษณะนี้มีโอกาสเป็นจริงมากกว่าในช่วงซัมเมอร์
4) อุสมาน ดิโอม็องเด (สปอร์ติ้ง ลิสบอน) – ตัวเลือกคุ้มค่า จ่ายไม่หนัก แถมได้ความดุดัน
ถ้าต้องเลือกแนวทาง “คุ้มและทันใช้” ดิโอม็องเดถูกมองเป็นคำตอบที่เข้าทาง ด้วยสปีดจัด สไตล์เล่นดุดัน และลูกกลางอากาศที่แข็งโป๊ก แข้งวัย 22 ปีมีแพ็กเกจความเป็นกองหลังสายฟิสิคัลที่ช่วยชดเชยจุดที่ฮุยเซ่นยังต้องพัฒนา และที่สำคัญมีข่าวว่าราคาอยู่ราว 25 ล้านยูโร—เป็นตัวเลขที่ฟังแล้ว “มีสิทธิ์เกิดขึ้นจริง” มากกว่าเป้าหมายพรีเมียมคนอื่น
🧠 ปัญหาที่สอง: มาดริดยังขาด มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะ ที่สั่งเกมได้จากแดนลึก
การเสีย โทนี่ โครส และลูก้า โมดริช ในสองฤดูกาลติดกัน คือการเสีย “รีโมตคอนโทรล” ของทีมไปแบบชัดเจน และที่น่าหนักใจคือ มาดริดยังไม่ได้เซ็นกองกลางทีมชุดใหญ่คนใหม่เลย นับตั้งแต่ปี 2023 ที่ได้ อาร์ดา กูแลร์ กับจู๊ด เบลลิงแฮม
แม้อลอนโซ่พยายามจัดระบบให้ลงตัว แต่กูแลร์ไม่ใช่คนที่เด่นในบทบาทยืนลึกแบบคุมจังหวะ ส่วนเบลลิงแฮมก็ไม่ใช่ทายาทโครสในเชิงการคุมเกม ขณะที่ชูอาเมนี่กับเอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า แม้จะเด่นเกมรับและพละกำลัง แต่ไม่ใช่ “จอมวางหมาก” ที่คอยบงการจังหวะ เปลี่ยนสปีดเกม หรือแทงทะลุไลน์จากพื้นที่ลึกได้เป็นธรรมชาติ
สรุปง่ายๆ: มาดริดยังไม่มีคนที่ “คุมเกมจากกลางสนาม” แบบที่ทำให้ทีมเล่นนิ่งเมื่อกดดันหนักๆ และนี่กลายเป็นภารกิจลำดับถัดจากการแก้เกมรับ
🎯 เป้าหมายแดนกลาง: ใครพอจะมาเติมสมองของทีม?
1) โรดรี (แมนฯ ซิตี้) – ดีลในฝัน แต่ความเสี่ยงจากอาการเจ็บทำให้ยาก
ช่วงซัมเมอร์ โรดรีถูกมองเป็นความฝันของมาดริด ด้วยวิสัยทัศน์ ความฉลาด และความสมดุลเกมรับ-เกมรุก (แถมเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2024) แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บช่วงหลังทำให้ชื่อของเขาถูกเลื่อนลำดับความสำคัญลง
2) อดัม วอร์ตัน (คริสตัล พาเลซ) – จ่ายหนักแลกคุณภาพ แต่ค่าตัวคือกำแพง
วอร์ตันถูกดันขึ้นมาเป็นตัวเลือกเด่น ด้วยสไตล์ตั้งจังหวะเกมและจ่ายบอลพัฒนาเกมที่สามารถเปลี่ยนหน้าเกมให้มาดริดดูมี “จังหวะของตัวเอง” มากขึ้น ทว่าค่าตัวที่ถูกคาดการณ์ระดับ 100 ล้านปอนด์ คืออุปสรรคก้อนโตที่ทำให้ดีลนี้ไม่ง่ายในทางปฏิบัติ
3) อังเจโล่ ชติลเลอร์ (สตุ๊ตการ์ท) – โปรไฟล์สายคุมเกมที่เคยเข้าตา
ชติลเลอร์ยังคงเป็นตัวเลือกในลิสต์ หลังเคยถูกโยงกับมาดริดมาแล้ว และผลงานซีซั่น 2024/25 ก็โดดเด่นในเชิงตัวเลข—เป็นคนที่ทำสถิติการจ่ายบอล, จ่ายบอลพัฒนาเกม และแอสซิสต์มากสุดในทีมของตัวเอง นี่คือสาย “คุมจังหวะ+สร้างสรรค์จากลึก” ที่มาดริดกำลังตามหา
4) นิโก้ ปาซ (โคโม่) – ตัวเลือกที่น่ากลัวที่สุด เพราะคุ้มและรีเทิร์นง่าย
ถ้าจะมีชื่อที่ “ชนะทุกคน” ในแง่ความคุ้มค่า นั่นคือ นิโก้ ปาซ อดีตเด็กปั้นมาดริดที่กำลังฟอร์มแรงกับโคโม่ เขายกระดับทั้งการทำเกม การเลี้ยง การจบสกอร์ จนกลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตา และที่ทำให้ดีลนี้น่าสนใจสุดๆ คือมาดริดมีเงื่อนไขซื้อกลับเพียง 9 ล้านยูโร นี่คือดีลแบบ “รู้จักกันดี + ราคาเป็นมิตร + โอกาสสำเร็จสูง” ที่สโมสรชอบที่สุด
📌 ภาพรวมแผนมกราคม 2026: ถ้าจะซื้อจริง ต้องซื้อให้ “แก้จุดตาย” ไม่ใช่ซื้อเอาหล่อ
มาดริดเคยไม่ค่อยขยับในตลาดหน้าหนาวเพราะเชื่อในโครงสร้างทีมและรอช่วงซัมเมอร์ แต่ฟุตบอลยุคนี้โปรแกรมถี่และความเสี่ยงอาการเจ็บสูงขึ้นทุกปี ทีมที่ล่าแชมป์ยาวๆ ต้องมีขุมกำลังพอหมุน และต้องมีตัวคุมเกมที่ทำให้ทีม “นิ่ง” ในวันที่เกมไม่เป็นใจ การเสริมเฉพาะตำแหน่งที่จำเป็นจริงจึงเป็นกลยุทธ์ที่ทั้งประหยัดและได้ผล—โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลือกอย่างดิโอม็องเดหรือปาซที่ราคาสมเหตุสมผล
🏁 บทสรุปที่แฟนมาดริดต้องฟัง: เสริมให้ตรงจุด แล้วค่อยไปท้าชนทุกถ้วย
ถ้ามาดริดอยาก “เอาจริง” กับการไล่ล่าแชมป์ครึ่งหลังของฤดูกาล การเพิ่มกองหลังตัวกลางอีกหนึ่งราย และเติมกองกลางยืนลึกที่คุมจังหวะได้ คือสองสวิตช์สำคัญที่จะทำให้ทีมของชาบี อลอนโซ่กลับมาโหดแบบที่ชื่อชั้นควรเป็น มกราคมนี้จึงไม่ใช่แค่ตลาดซื้อขาย—แต่มันคือทางเลือกว่าจะ “ยอมปล่อยให้ฤดูกาลไหลไป” หรือ “ผลักมันกลับเข้าร่องแชมป์” ให้ได้
ติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศเข้มข้นๆ ประเด็นเดือด และความเคลื่อนไหวตลาดนักเตะได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
