จาก : ผลบอลสด ลาลิกา ระหว่าง บียาร์เรอัล 0-2 บาร์เซโลน่า วันนี้ 21/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกใหญ่บนเวทีลาลีกาที่เอสตาดิโอ เด ลา เซรามีก้า จบลงด้วยชัยชนะของ บาร์เซโลน่า ที่บุกอัด บียาร์เรอัล 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญต่อหน้าแฟนเจ้าถิ่นแบบไร้ทางสู้ ผลงานในสนามสะท้อนชัดบนหน้าเว็บสายเช็กสกอร์และเช็ก ผลบอลสด ว่าเกมนี้คือการโชว์คลาสบอลของจ่าฝูงแบบเต็มขั้น
ประตูของทีมเยือนมาจากจุดโทษของราฟินญาตั้งแต่ต้นเกม ก่อนที่ลามีน ยามาล เจ้าหนูมหัศจรรย์จะบวกเพิ่มช่วงครึ่งหลัง ขณะที่เจ้าบ้านโดนใบแดงของเรนาโต้ เด ปัลมา เวยก้า ตั้งแต่นาที 39 ทำให้รูปเกมเทไปทางเดียวเกือบทั้ง 90 นาที
🔥 ครึ่งแรก: จุดโทษเร็ว+ใบแดง พังแผนเรือดำน้ำ
เริ่มเกม บียาร์เรอัลวางหมากเปิดหน้าแลก ใช้ความจัดจ้านริมเส้นของการ์โดนาและบูชาแนนคอยวิ่งกดฟูลแบ็กบาร์ซ่า แต่ยังหาโอกาสยิงแบบจะแจ้งไม่ได้ ก่อนที่ทีมเยือนจะลงโทษจากความผิดพลาดในเขตโทษของแนวรับเจ้าถิ่น นาที 12 บาร์ซ่าได้จุดโทษและราฟินญารับหน้าที่สังหาร ส่งบอลเสียบตาข่ายให้ทีมเยือนนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว
หลังเสียประตู บียาร์เรอัลพยายามเร่งจังหวะและดันไลน์สูง หวังใช้การต่อบอลของปาเรโฆคุมแดนกลาง แต่กลับโดนโต้กลับของแผงรุกบาร์ซ่าหลายระลอก จนเกมเริ่มหลวมและเสียฟาวล์บ่อย ความกดดันระเบิดในนาที 39 เมื่อเรนาโต้ เวยก้า เข้าบอลรุนแรงจนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เหลือเพียง 10 คนตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก ตรงนี้คือจุดหักเหชัดเจนที่ทำให้เรือดำน้ำจมตามสายตาแฟนๆ หน้าเว็บ บ้านผลบอล
🔁 ครึ่งหลัง: บาร์ซ่าคุมเกมเนียน ปิดบัญชีด้วยลูกยิงของยามาล
ครึ่งหลังฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค ปรับจังหวะทีมเน้นครองบอล ไม่เร่งบุกแบบบ้าคลั่ง แต่ลากจังหวะเคาะบอลไปมาให้เจ้าถิ่นวิ่งไล่จนหมดแรง การครองบอลของบาร์ซ่าพุ่งสูงแตะระดับสองในสามของสนาม ขณะที่บียาร์เรอัลต้องถอยลงมาตั้งโซนลึก
นาที 62 ฟลิคส่งมาร์คัส แรชฟอร์ด และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงมาสร้างความสดในแดนหน้า แค่หนึ่งนาทีให้หลัง เกมรุกก็แตกต่างทันที นาที 63 แฟรงกี้ เดอ ยอง แทงทะลุช่องสุดคมให้ลามีน ยามาล หลุดเข้าไปล็อกแล้วกดเต็มข้อ กลายเป็นประตู 2-0 ที่ปิดกล่องอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้นบาร์ซ่ายังครองบอลวนไปเรื่อยๆ ประคองเกมจนจบ 90 นาที พร้อมเก็บคลีนชีตแบบไม่ต้องลุ้นมากนัก แม้เจ้าบ้านจะพยายามตอบโต้จากลูกตั้งเตะและลูกยิงไกลแต่ก็ไม่ผ่านมือโฮอัน การ์เซียเลยสักครั้ง
📋 รายชื่อตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🟡 บียาร์เรอัล (ระบบ 4-4-2)
ผู้รักษาประตู
- ลีโอ จูเนียร์ (6.6) เซฟช่วยทีมหลายจังหวะ แม้สุดท้ายเก็บคลีนชีตไม่ได้
กองหลัง
- เปโดร นาบาร์โร (6.2) แบ็กซ้ายลงต่ำช่วยเกมรับ
- ราอูล มาริน (6.1) เซ็นเตอร์พยายามคุมพื้นที่หน้าเขตโทษ
- ซานติ โคเมซาญ่า (5.8) เจองานหนักรับมือเลวานดอฟสกี้และตอเรส
- ทาจอน บูชาแนน (6.7) เติมเกมรุกจัดจ้านแต่มีใบเหลืองท้ายเกม
กองกลาง
- เซร์กี การ์โดนา (7.0) ตัวริมเส้นที่อันตรายที่สุดของเจ้าถิ่น
- เรนาโต้ เด ปัลมา เวยก้า (5.3) ห้องเครื่องที่มาโดนใบแดง นาที 39 กลายเป็นจุดเปลี่ยน
- ดานี่ ปาเรโฆ (กัปตัน, 7.2) จอมทัพคุมจังหวะ ยืนคีย์แมนในแดนกลาง
- อัลเบร์โต โมเลโร (5.8) ขยับหาพื้นที่ได้ดีแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม
กองหน้า
- อเล็กซ์ เปเรซ (6.7) เคลื่อนที่หาช่องได้ดีในช่วงต้นเกม
- นิโกล่าส์ เปเป้ (6.8) พยายามใช้ความเร็วฉีกแนวรับบาร์ซ่า
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- จอร์จส์ มิคอูทาดเซ่ (7.0) แทน เปเรซ นาที 64 เติมชีวิตเกมรุกบียาร์เรอัล
- การ์ลอส มาซิอา (6.6) แทน ปาเรโฆ นาที 75
- ทานี โอลูวาเซยี (6.5) แทน เปเป้ นาที 75
ที่เหลืออย่าง อาร์เนา เตนาส, ฌอง อีฟส์ วาลู, อาเดรีย อัลติมิรา, มานอร์ โซโลมอน, อลาสซาน ดียัตต้า, เกราร์ด โมเรโน่ เป็นสำรองไม่ได้ลงสนาม
นักเตะบียาร์เรอัลที่โดดเด่นที่สุดในวันนี้คือ เซร์กี การ์โดนา ที่ยังสร้างปัญหาให้แนวรับบาร์ซ่าได้แม้ทีมจะเหลือคน
🔵 บาร์เซโลน่า (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- โฮอัน การ์เซีย (8.7) ยืนตระหง่านหน้าปากประตู เซฟสำคัญหลายครั้ง คีย์แมนพาทีมเก็บคลีนชีต
กองหลัง
- อเลฆานโดร บัลเด้ (6.4) เติมเกมรุกซ้ายแต่ยังไม่หวือหวา
- เฮอร์มัน กาเบรียล มาร์ติน (7.2) เซ็นเตอร์ดาวรุ่งคุมพื้นที่ได้ดี
- เปา กูบาร์ซี่ (7.0) เล่นนิ่งเกินวัย อ่านเกมแม่น
- ฌูลส์ กูนเด้ (7.6) ป้องกันเกมริมเส้นขวาเหนียวแน่น ก่อนถูกเปลี่ยนออกท้ายเกม
กองกลางตัวรับ
- แฟรงกี้ เดอ ยอง (กัปตัน, 8.3) กุญแจสำคัญของทีมวันนี้ ทั้งคุมเกมและจ่ายให้ยามาลยิงปิดกล่อง
- เอริค การ์เซีย (6.5) ช่วยซ้อนแนวรับและคุมโซนกลางต่ำ
กองกลางตัวรุก
- ราฟินญา (8.2) กดจุดโทษเปิดสกอร์ สร้างความวุ่นวายทางกราบขวา
- ลามีน ยามาล (8.6) ปีกดาวรุ่งที่สร้างความต่างทั้งการเลี้ยงและการจบสกอร์
- เฟร์มีน โลเปซ (6.5) ทำงานหนักเชื่อมเกมแดนกลางกับแดนหน้า
กองหน้า
- เฟร์ราน ตอร์เรส (6.6) เคลื่อนที่เปิดพื้นที่ให้เพื่อน ก่อนถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนาม
- มาร์คัส แรชฟอร์ด (6.5) แทน เฟร์มีน โลเปซ นาที 62 เพิ่มมิติการวิ่งทะลุช่อง
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (6.7) แทน เฟร์ราน ตอร์เรส นาที 62 ใช้ประสบการณ์ค้ำแนวรับเจ้าถิ่น
- มาร์ค แบร์นาล (6.8) แทน เอริค การ์เซีย นาที 66 ลงมาล็อกแดนกลาง
- มาร์ค คาซาโด (6.5) แทน กูนเด้ นาที 79 ปิดเกมฝั่งขวา
ส่วน มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น, วอยเชียค เชสนี่, ดรอ เฟร์นานเดซ, โทมาส มาร์เกส, รูนี่ย์ บาร์ดกี เป็นสำรองไม่ได้ลง
นักเตะเด่นฝั่งบาร์ซ่านอกจากการ์เซียคือ แฟรงกี้ เดอ ยอง กับ ลามีน ยามาล ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกตลอดทั้งคืน
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
รูปแบบการยืนระบบของทั้งสองทีมวันนี้ชัดเจนมาก บียาร์เรอัลมาในแผน 4-4-2 แบบดั้งเดิม เน้นความแน่นของสองแบนด์กลาง ปล่อยให้คู่กองหน้ากดดันเซ็นเตอร์บาร์ซ่า แต่พอโดนกระแทกด้วยประตูแรกเร็ว เกมก็จำเป็นต้องเปิดหน้าเดินเข้าใส่ ผลคือช่องว่างระหว่างไลน์กองกลางกับกองหลังเริ่มโผล่ให้บาร์ซ่าใช้เล่นงาน ลูกสวนกลับของทีมเยือนจึงมีพื้นที่ให้ปีกอย่างราฟินญาและยามาลดึงแบ็กเจ้าบ้านออกจากตำแหน่งอยู่ตลอด ซึ่งถ้าใครมองเกมแบบสาย วิเคราะห์บอล จะเห็นชัดว่าเรือดำน้ำเหลืองเสี่ยงดวงจนหลังบ้านเปราะเกินไป
ฝั่งบาร์เซโลน่าในระบบ 4-2-3-1 ใช้เดอ ยอง ยืนคู่เอริค การ์เซีย เป็นดาบสองคมทั้งรับและรุก เมื่อทีมครองบอล เดอ ยองจะดันขึ้นเป็นตัวจ่ายบอลทะลุไลน์กลาง ปล่อยให้ฟูลแบ็กทั้งสองข้างดันสูงสร้างความได้เปรียบด้านจำนวนคนในพื้นที่ริมเส้น ส่วนตอนเสียบอล ทั้งสองจะรีบหุบลงยืนหน้าเซ็นเตอร์ เปลี่ยนโครงสร้างเป็น 4-4-2 หรือ 4-4-1-1 ตามสถานการณ์ ทำให้เจ้าถิ่นเจาะช่องกลางแทบไม่ได้
ใบแดงของเวยก้าทำให้บียาร์เรอัลต้องถอยลงมาตั้งรับลึก 4-4-1 เน้นปิดพื้นที่เขตโทษ แต่การยืนโซนหลังต่ำแบบไม่มีดันเพรสหน้าเขตโทษ ทำให้บาร์ซ่ามีเวลาบรรจงหาจังหวะยิงหลายครั้ง ประตูที่สองของยามาลก็มาจากการต่อบอลทะลุแผงมิดฟิลด์ที่ไม่มีคนบีบเร็วพอ
โดยรวมเกมรับของบาร์ซ่าถือว่าสอบผ่าน เพราะแม้จะครองบอลสูงถึงเกือบสองเท่า แต่ยังรักษาระยะระหว่างไลน์ได้ดี ไม่เผลอปล่อยให้เจ้าถิ่นใช้โต้กลับเร็วง่ายๆ ส่งผลให้ทั้งเกมบียาร์เรอัลมีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมบอกเรื่องราวชัดเจน บาร์เซโลน่าครองบอลถึงราว 65% ต่อ 35% ของเจ้าบ้าน การจ่ายบอลของทีมเยือนพุ่งสูงกว่า 700 ครั้ง ความแม่นยำทะลุ 90% ขณะที่บียาร์เรอัลจ่ายบอลเพียงราว 190 ครั้ง ความแม่นยำต่ำกว่ามาก เกมจึงเหมือนฝ่ายหนึ่งคุมจังหวะอยู่ตลอด ส่วนอีกฝ่ายไล่ไล่และรอสวนกลับ
โอกาสยิงรวมบาร์ซ่ายิงมากกว่า โดยซัด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ส่วนเจ้าถิ่นได้ยิง 12 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 4 นั่นอธิบายว่าทำไมมือกาวอย่างโฮอัน การ์เซียจึงไม่ได้เจองานหนักชนิดถล่มประตู แต่ทุกจังหวะที่มาถึงก็ถูกจัดการอย่างมั่นใจ เกมฟาวล์เอง บียาร์เรอัลทำถึง 10 ครั้งมากกว่าบาร์ซ่า (6 ครั้ง) แถมมีใบเหลือง 1 และใบแดง 1 ต่างจากทีมเยือนที่โดนเหลืองแค่ใบเดียวทั้งเกม ด้านลูกเตะมุมก็สะท้อนความกดดันต่อเนื่องของบาร์ซ่า เมื่อทีมเยือนเหนือกว่าชัดเจนที่ 10 ลูกต่อ 5 ลูก
⏱️ เหตุการณ์สำคัญตลอด 90 นาที
- ⚽ นาที 12 บาร์เซโลน่าได้จุดโทษ ราฟินญารับหน้าที่ยิงไม่พลาด ทีมเยือนนำ 1-0
- 🟥 นาที 39 เรนาโต้ เด ปัลมา เวยก้า เข้าบอลรุนแรง โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม บียาร์เรอัลเหลือ 10 คน
- ⏱️ ช่วงทดเวลาครึ่งแรก เพิ่มเวลา 3 นาที แต่ไม่มีประตูเพิ่ม
- 🟨 นาที 58 เอริค การ์เซีย ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองให้บาร์ซ่า
- 🔁 นาที 62 ฟลิคเปลี่ยนสองคนรวด ส่งมาร์คัส แรชฟอร์ด แทน เฟร์มีน โลเปซ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แทน เฟร์ราน ตอร์เรส
- ⚽ นาที 63 แฟรงกี้ เดอ ยอง แทงทะลุช่องให้ลามีน ยามาล หลุดเข้าไปยิงเสียบเสา บาร์เซโลน่านำห่าง 2-0
- 🔁 นาที 64 จอร์จส์ มิคอูทาดเซ่ ลงแทน อเล็กซ์ เปเรซ เสริมคมให้บียาร์เรอัล
- 🔁 นาที 66 บาร์ซ่าส่งมาร์ค แบร์นาล ลงแทน เอริค การ์เซีย เพื่อเพิ่มความสดในแดนกลาง
- 🟨 นาที 73 ทาจอน บูชาแนน โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ริมเส้น
- 🔁 นาที 75 บียาร์เรอัลเปลี่ยนสองคน ส่งการ์ลอส มาซิอา แทน ดานี่ ปาเรโฆ และทานี โอลูวาเซยี แทน นิโกล่าส์ เปเป้
- 🔁 นาที 79 บาร์เซโลน่าส่งมาร์ค คาซาโด ลงแทน ฌูลส์ กูนเด้ เพื่อปิดเกมฝั่งขวา
- ⏱️ ช่วงทดเวลาครึ่งหลัง เพิ่มเวลา 4 นาที แต่สกอร์ยังคงเดิมที่ 2-0
⭐ Player of the Match: โฮอัน การ์เซีย มือกาวจ่าฝูงคนใหม่
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเกมนี้ตกเป็นของโฮอัน การ์เซีย นายด่านของบาร์เซโลน่าที่กวาดคะแนนสูงถึง 8.7 การยืนตำแหน่งนิ่ง เซฟลูกยิงไกลและลูกโหม่งสำคัญ ช่วยให้ทีมไม่ถูกบียาร์เรอัลตีเสมอในช่วงที่เกมยังเบียด ยังโชว์การออกมาอ่านจังหวะบอลยาวและตัดบอลครอสจากริมเส้นได้อย่างไร้ที่ติ
ในวันที่แนวรุกได้รับเครดิตจากสองประตู การ์เซียคือกำแพงเงียบๆ ที่ทำให้ชัยชนะ 2-0 ดูมั่นคงและไม่สั่นคลอน และยิ่งตอกย้ำว่าบาร์ซ่ากำลังมีตัวเลือกผู้รักษาประตูระดับสูงมากกว่าหนึ่งคนในทีมชุดนี้
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนลาลีกา
สามแต้มจากเกมนี้ทำให้ บาร์เซโลน่า ยึดจ่าฝูงลาลีกาอย่างสง่าผ่าเผย ด้วยผลงาน 18 นัด ชนะ 15 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 51 เสีย 20 เก็บ 46 คะแนน ทิ้งห่างเรอัล มาดริด ที่ตามมาอันดับ 2 อยู่ 4 แต้ม และนำแอตเลติโก มาดริด อันดับ 3 ถึง 9 แต้ม แม้คู่แข่งลุ้นแชมป์จะยังมีโอกาสไล่ แต่แรงกดดันตอนนี้โยนไปที่หลังของสองทีมเมืองหลวงเต็มๆ
ด้าน บียาร์เรอัล แม้จะแพ้ในบ้านแต่ยังรั้งอันดับ 4 มี 35 คะแนนจาก 16 นัด เสียเปรียบตรงที่ฟอร์มสะดุดและเพิ่งแพ้ในเกมล่าสุด ทำให้ถูกจ่าฝูงทิ้งห่างไปไกล อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนแข่งน้อยกว่าสองทีมเมืองมาดริด พวกเขายังมีโอกาสกลับมากดดันในพื้นที่ท็อปโฟร์ ถ้าเก็บชัยในเกมตกค้างได้
📅 ตารางบอลลาลีกานัดถัดไป
มองไปข้างหน้าใน ตารางบอล ลาลีกา โปรแกรมของทั้งสองทีมยังแน่นขนัด สำหรับบียาร์เรอัล มีคิวสำคัญต้องบุกเยือนเอลเช่ในต้นเดือนมกราคม ก่อนจะกลับมาเล่นในบ้านดวลอลาเบส เกมเหล่านี้สำคัญต่อการรักษาพื้นที่หัวตารางอย่างยิ่ง
ฝั่งบาร์เซโลน่า โปรแกรมในลีกนัดถัดไปคือการบุกเยือนเอสปันญ่อล ดาร์บี้กาตาลันที่เดือดทุกครั้ง ส่วนกลางสัปดาห์ยังมีภารกิจอื่นให้ต้องบริหารสภาพร่างกาย ทำให้การหมุนเวียนตัวผู้เล่นจะยิ่งเข้มข้นขึ้น แฟนบอลที่ชอบเช็ก โปรแกรมบอล ลาลีกาคงต้องจับตามองว่าฟลิคจะจัดชุดผสมหรือจัดเต็มในเกมต่อไป
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของลาลีกา วัดฟอร์มบาร์ซ่าต่อเนื่อง หรือเช็กว่าบียาร์เรอัลจะลุกขึ้นกลับมาได้เมื่อไหร่ แนะนำให้ตามอัปเดตสกอร์สด ไฮไลท์ และบทวิเคราะห์หลังเกมได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเกาะติดทุกแมตช์สำคัญ อัปเดตทั้ง บ้านผลบอล และบรรยากาศในสนามให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งเชียร์อยู่ข้างขอบหญ้า
