ภาพรวมดีลใหม่ของเบาม์กับเอาก์สบวร์ก
เอาก์สบวร์ก ตัดสินใจเดินหน้าเลือกความ “เสถียร” มากกว่าการเสี่ยงทดลอง หลังประกาศยืนยันให้ มานูเอล เบาม์ กุนซือขัดตาทัพที่เข้ามารับงานเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ยึดเก้าอี้เฮดโค้ชต่อไปจนจบฤดูกาล 2025/26 อย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าโค้ชคนนี้ยังมีของ และสามารถพาทีมหนีโซนล่างของตาราง บุนเดสลีกา ได้หากได้รับเวลาสร้างงานต่อเนื่อง
การประกาศครั้งนี้ไม่ใช่แค่การต่ออายุสัญญาชั่วคราว แต่คือการส่งสัญญาณให้ทั้งห้องแต่งตัวและแฟนบอลรู้ว่า สโมสรเลือกเดินหน้ากับแนวทางเดิมที่เริ่มเห็นผลในระยะสั้น และหวังยกระดับไปสู่ความมั่นคงในระยะยาวมากขึ้น
เส้นทางคุ้นเคยของมานูเอล เบาม์กับเอาก์สบวร์ก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มานูเอล เบาม์ เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือใหญ่ของทีม เขาเคยคุม เอาก์สบวร์ก ระหว่างปี 2016–2019 ก่อนจะขยับไปทำงานด้านโครงสร้างเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเยาวชนของสโมสรอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นคนกันเองของสโมสร รู้จักดีทั้งระบบอคาเดมี สไตล์ฟุตบอลของทีม และบรรยากาศในเมือง
หลังจากสโมสรแยกทางกับ ซานโดร วากเนอร์ เมื่อต้นเดือนธันวาคม บอร์ดบริหารเลือกดึงเบาม์กลับมารับบท “กุนซือขัดตาทัพ” ทันที เพราะมั่นใจในความเข้าใจทีม และเชื่อว่าเขาจะสามารถประคองสถานการณ์ในลีกที่กดดันสุด ๆ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาปรับจูนมากนัก
ฟอร์มช่วงคุมทีมขัดตาทัพ: เกมรับแน่น ชนะเลเวอร์คูเซ่นจุดความหวัง
ตั้งแต่เบาม์รับงานขัดตาทัพ เขาพาทีมเก็บได้ 4 คะแนนจาก 3 นัด และที่น่าจับตาที่สุดคือ การเสียเพียงประตูเดียวตลอดสามเกม เกมรับที่เคยรั่วกลับแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเตะแดนหลังเริ่มเล่นอย่างมีวินัย ระยะห่างในแนวรับและแดนกลางถูกอัดให้กระชับขึ้น ทำให้คู่แข่งเจาะยากขึ้นเยอะ
ผลการแข่งขันที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนคือแมตช์เดย์ 13 ที่ เอาก์สบวร์ก เปิดบ้านอัด ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ใส่ทีมแกร่งที่ลุ้นพื้นที่ยุโรปได้แบบไม่เกรงใจใคร ชัยชนะเกมนี้ไม่ใช่แค่ 3 แต้มธรรมดา แต่ทำให้บอร์ดบริหารเห็นภาพชัดว่าทีมกำลังเดินมาถูกทาง ทั้งเรื่องแท็กติกในสนาม และบรรยากาศในห้องแต่งตัวที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เสียงจากบอร์ดบริหาร: ความเชื่อมั่นเต็มร้อยในเบาม์
เบนนี เวเบอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรออกมายืนยันชัดเจนว่าการมอบบังเหียนให้เบาม์ไม่ใช่การตัดสินใจแบบชั่วคราว แต่เป็นการลงทุนเชื่อใจคนที่เข้าใจดีเอ็นเอของทีมอย่างแท้จริง
“ผลงานของทีมภายใต้การคุมทัพของมานูเอล เบาม์ ทำให้เรามีความเชื่อว่าฤดูกาลนี้ยังสามารถประสบความสำเร็จได้ มานูเอลยังเข้ากับปรัชญาของสโมสรที่ต้องการพัฒนาทีมให้ก้าวไปข้างหน้า และเปิดโอกาสให้แข้งดาวรุ่งได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาเคยพิสูจน์มาแล้วในอดีตว่าเขาทำได้จริง”
คำพูดนี้สะท้อนตรง ๆ ว่าเอาก์สบวร์กไม่ได้มองเบาม์แค่ในมุม “ดับไฟเฉพาะหน้า” แต่มองว่าเขาคือคนที่จะช่วยต่อยอดทีม ทั้งด้านผลงานในลีกและการปั้นแข้งรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นกระดูกสันหลังในอนาคต
มุมมองของมานูเอล เบาม์: รับงานท้าทาย แต่ยังไม่ลืมบทบาทเดิม
เบาม์เองก็ยอมรับว่าการกลับมาคุมทีมชุดใหญ่คือความท้าทายที่เขาอยากพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังไม่ทิ้งหัวใจของงานด้านพัฒนาเยาวชนที่เขารัก
“ผมสนุกกับการทำงานร่วมกับทีมชุดนี้มาก ดังนั้นผมดีใจที่ได้อยู่ในตำแหน่งเฮดโค้ชของเอาก์สบวร์กต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสำหรับผมคือในอนาคตผมอยากกลับไปทำหน้าที่เดิมของผมด้วยเช่นกัน ระหว่างนี้เราจะใช้ช่วงพักหนีหนาวที่มีอยู่อันสั้นนี้ให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ”
แสดงให้เห็นชัดว่า เบาม์ไม่ได้มองงานเฮดโค้ชเป็นเพียงเวทีโชว์เดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบพัฒนาทั้งสโมสร เขาพร้อมใช้ช่วงพักหนีหนาววางแท็กติก ปรับสมดุลทีม และต่อยอดฟอร์มดีที่เริ่มสร้างขึ้นมาแล้ว
สถานการณ์บนตารางคะแนนและโปรแกรมเปิดครึ่งฤดูกาลหลัง
แม้ฟอร์มจะดีขึ้น แต่ความจริงในตารางคะแนนยังโหดร้าย เอาก์สบวร์ก เข้าสู่ช่วงพักหนีหนาวด้วยการรั้งอันดับ 15 ของลีก อยู่ใกล้โซนหนีตกชั้นแบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว ช่องว่างคะแนนกับทีมท้ายตารางยังไม่ได้ทิ้งห่างมากพอให้เล่นแบบสบายใจ
เกมแรกของปีใหม่จะเป็นบททดสอบสำคัญ เมื่อพวกเขาต้องบุกเยือนโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในแมตช์เดย์ 16 วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (CET) ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่งเสมอ หากเก็บแต้มกลับมาได้ จะช่วยเสริมความมั่นใจให้ทีมและกุนซืออย่างมหาศาล
มุมมองระยะยาว: เสถียรภาพโค้ชกลางฤดูกาลสำคัญแค่ไหนในบุนเดสลีกา
ในภาพใหญ่ของ บุนเดสลีกา การเปลี่ยนโค้ชกลางฤดูกาลมีทั้งทีมที่พุ่งกลับขึ้นมาทันที และทีมที่ยิ่งเป๋กว่าเดิม หลายสโมสรเริ่มหันมาให้โอกาสโค้ชที่รู้จักทีมดีอยู่แล้ว มากกว่าการดึงชื่อใหญ่จากข้างนอกเข้ามาเสี่ยง เพราะต้องใช้เวลาเรียนรู้สภาพทีมและลีก การที่ เอาก์สบวร์ก เลือกเบาม์ซึ่งเข้าใจระบบอคาเดมี แฟนบอล และวัฒนธรรมสโมสร อาจกลายเป็นหมากสำคัญในภารกิจหนีโซนท้ายตาราง
สำหรับแฟนบอลไทยที่ติดตาม ข่าวบอลวันนี้ การจับตาทีมกลาง–ล่างของลีกใหญ่อย่างบุนเดสลีกา น่าสนใจไม่แพ้ทีมลุ้นแชมป์ เพราะนี่คือเวทีที่โชว์ให้เห็นชัด ๆ ว่า “โค้ชเก่งจริง” ต้องพาทีมรอดจากความกดดันได้ท่ามกลางทรัพยากรที่จำกัด และการจัดการห้องแต่งตัวยุคใหม่ก็สำคัญไม่แพ้แท็กติกในสนาม
สรุปมุมมองจากบ้านกีฬา
ภาพรวมแล้ว การมอบสัญญาคุมทีมจนจบซีซั่นให้ มานูเอล เบาม์ คือการตัดสินใจที่กล้าหาญแต่มีหลักคิดชัดเจนของเอาก์สบวร์ก พวกเขาไม่ได้เลือกโค้ชจากชื่อ แต่เลือกคนที่ “ใช่” สำหรับสโมสรในตอนนี้ ทั้งในแง่แท็กติก เกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น และแนวทางปั้นนักเตะวัยหนุ่มให้กลายเป็นกำลังหลักในระยะยาว
ครึ่งฤดูกาลหลังจะเป็นเวทีพิสูจน์ว่า เบาม์จะยกระดับทีมจากโซนท้ายตารางขึ้นสู่พื้นที่ปลอดภัยได้แค่ไหน และเกมเยือนมึนเช่นกลัดบัคในเดือนมกราคมนี่แหละ จะเป็นบททดสอบแรกที่บอกได้ชัดว่าทิศทางใหม่ของเอาก์สบวร์ก เดินมาถูกทางจริงหรือไม่
แฟนบอลที่อยากติดตามทั้งข่าวลึกใน บุนเดสลีกา, ความเคลื่อนไหวของโค้ช และเรื่องราวเด็ด ๆ จากโลกลูกหนัง อย่าลืมตามอ่านอัปเดตมันส์ ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

