ภาพรวมคดี: เหตุปะทะบนถนน กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญในเสี้ยววินาที
คดีนี้ถูกพูดถึงหนัก เพราะเริ่มจาก “ปัญหาขับรถปาดหน้า/แย่งช่องทาง” ก่อนลุกลามเป็นเหตุรุนแรงบนทางพิเศษศรีรัชย่านประชาชื่น ช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค. 2568 ส่งผลให้ชายวัย 34 ปีเสียชีวิตในรถต่อหน้าแฟนสาว กลายเป็นประเด็นใหญ่ทั้งเรื่องความปลอดภัยบนทางด่วน วินัยการขับขี่ และการบังคับใช้กฎหมายอาวุธปืนในที่สาธารณะ
ไทม์ไลน์ “ก่อน-ระหว่าง-หลัง” เหตุการณ์ (ตามข้อมูลสื่อและตำรวจรายงาน)
เพื่อให้เห็นภาพชัด บ้านกีฬาเรียบเรียงไทม์ไลน์จากรายงานข่าวหลัก ๆ ที่ตรงกันในสาระสำคัญดังนี้
- ก่อนเกิดเหตุ (คืน 22 ต่อ 23 ธ.ค. 2568)
รถเก๋งของผู้เสียชีวิต (มากับแฟนสาว) ใช้ทางด่วนศรีรัชฝั่งขาเข้า และเกิดปัญหากับรถตู้สีขาวจากเหตุขับปาดหน้า/แย่งช่องทางเข้าด่านประชาชื่น - บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางประชาชื่น
รถทั้งสองคันเข้าคนละช่อง ก่อนที่รถตู้จะจ่ายเงินแล้วชะลอ/รอด้านหน้าในระยะถัดไปตามที่สื่อรายงาน - เวลาประมาณ 04.20 น. (จุดเกิดเหตุหลังด่าน)
มีรายงานว่า รถตู้ขับประกบก่อนเกิดการใช้อาวุธปืนยิงใส่รถคู่กรณีรวม 3 นัด ส่งผลให้คนขับรถเก๋งเสียชีวิต และผู้ก่อเหตุหลบหนี - เช้าวันที่ 24 ธ.ค. 2568
ตำรวจ สน.ประชาชื่น และชุดสืบสวนระดมไล่ตรวจกล้องวงจรปิด สอบปากคำพยาน โดยเฉพาะผู้โดยสารที่อยู่ในรถผู้เสียชีวิตเพื่อประกอบสำนวน - ช่วงเย็น 24 ธ.ค. 2568
พบรถตู้ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนเข้าสู่กระบวนการตรวจพิสูจน์หลักฐาน
“กาน แทททู” คือใคร ทำไมถูกจับตา
ในรายงานข่าว ผู้ต้องสงสัย/ผู้ถูกกล่าวหาถูกระบุชื่อว่า “นายสงกรานต์ (กาน)” อายุ 37 ปี และถูกเรียกในโลกออนไลน์ว่า “กาน เวลไฟร์” หรือ “กาน แทททู” โดยบางสื่อระบุว่าเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงในแวดวงธุรกิจรถยนต์/รถมือสองในพื้นที่ชลบุรี (ข้อเท็จจริงส่วนประวัติอาชีพยังควรยึดตามข้อมูลที่หน่วยงานรัฐยืนยันเป็นหลัก)
อีกประเด็นที่ทำให้คดีถูกจับตา คือรายงานว่าพบ “หมายจับค้างเก่า” ในคดีพยายามฆ่าเมื่อปี 2567 ติดตัวอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นข้อมูลที่สื่อหลายแห่งหยิบมารายงานต่อเนื่อง
สถานะคดีล่าสุด: ศาลออกหมายจับ พร้อมข้อหาหนักหลายกระทง
ความคืบหน้าสำคัญคือวันที่ 24 ธ.ค. 2568 มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ยื่นขอหมายจับต่อศาลอาญา และศาลอนุมัติหมายจับ “นายสงกรานต์” โดยมีข้อหาหลักเกี่ยวกับ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา/พยายามฆ่า” และข้อหาเกี่ยวกับการมี-พกพาอาวุธปืน รวมถึงการยิงปืนในที่สาธารณะตามที่สื่อรายงานตรงนี้ต้องย้ำตามหลักกฎหมายว่า “หมายจับ” คือขั้นตอนเพื่อควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยังไม่ใช่คำตัดสินว่ามีความผิดจนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุด
ประเด็น “เส้นทางหลบหนี” ที่ถูกพูดถึง: รถตู้ถูกทิ้ง-มีการใช้แท็กซี่ต่อ
อีกมุมที่สังคมสนใจคือข่าวการติดตามเส้นทางหลังเกิดเหตุ โดยมีการรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยทิ้งรถตู้ไว้ในต่างจังหวัด และมีการใช้รถแท็กซี่เดินทางต่อ อีกทั้งมีประเด็น “บทสนทนาในรถ” ที่ทำให้คนขับแท็กซี่เอะใจและเก็บข้อมูลไว้เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน (รายละเอียดเชิงลึกอยู่ในรายงานข่าว)
ทำไมคดีนี้ “ใหญ่กว่าคดีอาชญากรรมคดีหนึ่ง”
คดีนี้สะท้อน 3 เรื่องใหญ่ที่เกิดซ้ำในสังคม แต่เราไม่ควรปล่อยให้ชินชา
- “Road Rage” หรืออารมณ์เดือดบนถนน: จากแค่หงุดหงิด กลายเป็นการตัดสินใจที่ทำลายหลายชีวิต
- ความเสี่ยงของอาวุธปืนในพื้นที่สาธารณะ: เมื่ออาวุธอยู่ในมือคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ความเสียหายเกิดในวินาทีเดียว
- ความปลอดภัยบนทางด่วน/ด่านทางพิเศษ: จุดที่รถชะลอ รถเบียด รถตัดหน้า เกิดแรงกระแทกอารมณ์ง่ายกว่าปกติ
วิธีเอาตัวรอดเมื่อเจอสถานการณ์ “รถตามประกบ-ขับจี้-หาเรื่อง” (ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน)
บ้านกีฬาอยากให้ส่วนนี้เป็นประโยชน์กับทุกคน เพราะถนนไม่มีรีเพลย์
- อย่าตอบโต้ด้วยอารมณ์: ไม่ชะลอไปเถียง ไม่ลดกระจกท้าทาย ไม่ขับปาดกลับ
- เพิ่มระยะห่างและเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย: เน้น “ตัดวงจรปะทะ” ไม่ใช่ “เอาคืน”
- มุ่งหน้าไปพื้นที่ปลอดภัย: ด่านทางด่วน จุดบริการตำรวจ ปั๊มน้ำมันใหญ่ จุดที่มีคนและกล้อง
- หากรู้สึกไม่ปลอดภัยจริง ๆ ให้โทร 191 หรือ 1599 (ตำรวจทางหลวง) ทันที พร้อมบอกตำแหน่ง/ทิศทาง/จุดสังเกต
- ติดกล้องหน้ารถ: ช่วยบันทึกเหตุ ลดการเถียงกันแบบ “พูดลอย ๆ” และเป็นหลักฐานในชั้นสอบสวนได้
บทสรุป: “หัวร้อน” ไม่ใช่เรื่องเท่—มันคือความพังที่ลากยาวถึงศาล
คดี “กาน แทททู/วัยรุ่นพันล้าน” ไม่ควรถูกเล่าแบบฉาบฉวยหรือสนุกปาก เพราะปลายทางของความเดือดบนถนนคือความสูญเสียจริง และกฎหมายจริง ทุกครั้งที่เรายั้งมือ ยั้งคันเร่ง ยั้งอารมณ์ได้ เราอาจกำลังช่วยชีวิตใครบางคน—รวมถึงชีวิตตัวเองด้วย
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา
