
จาก : ผลบอลสด ไทยลีก ระหว่าง สุโขทัย เอฟซี 0-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันนี้ 24/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก BYD SEALION 6 ลีกหนึ่ง ฤดูกาล 2025/26 นัดตกค้าง ที่ทะเลหลวง สเตเดียม “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี เปิดบ้านรับจ่าฝูง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมนี้แฟนบอลเช็ก ผลบอลสด กันแน่นทุกช่อง เพราะคือแมตช์ชี้ชะตาแชมป์เลกแรกของลีกสูงสุดเมืองไทย ผลสุดท้ายเป็นฝ่ายทีมเยือนที่แม้จะเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ยังแกร่งพอบุกชนะ 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญกลับบ้านแบบโคตรหืด
⏱️ ครึ่งแรก เกมอึดอัดก่อนกลายเป็นดราม่าใบแดง
ช่วงต้นเกม สุโขทัยวางหมากมาแบบรัดกุม เน้นเกมรับเต็มตัว ใช้หลัง 5 คนถอยต่ำปิดพื้นที่ แล้วปล่อยให้ บุรีรัมย์ ต่อบอลคุมจังหวะไปตามสไตล์ ทีมเยือนจึงครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังหาโอกาสจบแบบจะแจ้งไม่ได้ เพราะแนวรับค้างคาวไฟยืนโซนกันเหนียวแน่นไม่หลุดง่ายๆ
นาที 35 จุดเปลี่ยนใหญ่ของเกมก็มาถึง เมื่อกิลเยร์เม่ บิสโซลี่ ไปผลักและแกว่งแขนใส่ ศฤงคาร พรมสุภะ ในจังหวะปะทะ ผู้ตัดสินเช็กเหตุการณ์แล้วควักใบแดงโดยตรงทันที ส่งให้บุรีรัมย์เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทำเอาเกมรุกของทีมเยือนสะดุดไปพักใหญ่ ขณะที่เจ้าถิ่นเริ่มได้ใจขยับบุกมากขึ้น ทว่าในรายละเอียดจังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ หมดครึ่งแรกสกอร์ยังนิ่งอยู่ที่ 0-0 เกมเปิดกว้างสำหรับทุกอย่าง
🔥 ครึ่งหลัง ปราสาทสายฟ้าคนเดียวก็พอ
ครึ่งหลัง มาร์ค แจ็คสัน แก้เกมทันที ส่ง ธีราทร บุญมาทัน ลงมาเติมเกมรุกทางซ้าย เพิ่มมิติการขึ้นบอลให้บุรีรัมย์ แม้จะตัวน้อยกว่า แต่ทีมเยือนกลับยิ่งครองบอลได้มากขึ้นและดันไลน์สูงกดสุโขทัยให้อยู่ในแดนตัวเอง
นาที 61 บ้านกีฬาเห็นชัดว่าเป็นช็อตคุณภาพของจ่าฝูง เมื่อ ศศลักษณ์ ไหประโคน เติมขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ โรเบิร์ต ซูลจ์ สอดมาซัดจ่อๆ ไม่พลาด ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเยือกเย็น กลายเป็นประตูนำ 1-0 ของบุรีรัมย์ และคือประตูเดียวของเกมนี้
หลังเสียประตู สุโขทัยพยายามเปลี่ยนเกมส่งแนวรุกสำรองอย่าง ภราดร พัฒน์พล และเอลิอาส ลงมาลุยหวังทวงสกอร์ แต่กลับเจอเกมรับของบุรีรัมย์ที่จัดระเบียบดีมาก ไม่เปิดพื้นที่ให้เจ้าบ้านสร้างโอกาสอันตรายได้แบบจังๆ จบ 90 นาที “ปราสาทสายฟ้า” ที่เล่น 10 คนยาวตั้งแต่ครึ่งแรก ยังกัดฟันคว้าชัย 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 40 คะแนน รั้งจ่าฝูงต่อแบบสุดโหด

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🟠 สุโขทัย เอฟซี
แผน 5-3-2 เน้นเกมรับแน่นแล้วสวนกลับเร็ว
- ผู้รักษาประตู
- กิตติพันธ์ แสนสุข (GK) – 6.2
- กองหลัง
- ชัยพล อดทน – 6.4
- ศฤงคาร พรมสุภะ – 6.3
- เคลาดิโอ ราฟาเอล – 7.3 (เด่นสุดในแผงหลัง อ่านจังหวะแก้ไขหลายครั้ง)
- สุรวิช โลกาวิทย์ – 6.6
- ธิติ ทุมพร – 6.7
- กองกลาง
- ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ (กัปตัน) – 6.4
- โรเมอู มาร์ตินส์ – 6.7
- มาเธซินโญ่ – 6.4
- กองหน้า / ตัวรุก
- จอห์น บาจโจ้ – 6.9 (พยายามลากเลื้อยสร้างสีสัน)
- รัชนาท อรัญญไพโรจน์ – 6.6
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- อภิชาติ เด็นมัน ลงแทน สุรวิช โลกาวิทย์ นาที 61 – 6.2
- ภราดร พัฒน์พล ลงแทน ชัยพล อดทน นาที 72 – 6.9
- เอลิอาส ลงแทน รัชนาท อรัญญไพโรจน์ นาที 72 – 6.3
- ศิโรจน์ ฉัตรทอง ลงแทน ธิติ ทุมพร นาที 84 – 6.5
- กิลโด อาราโย่ ลงแทน มาเธซินโญ่ นาที 84 – 6.4
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
สุภสิน หนูพิชัย, ภัทรพล สุขสากล, สราวุธ กันลยาณบัณฑิต, เอย์โตะ อิชิโมโตะ, ลูร์ซาน เธียมรัตน์, อธิราช จันทรโภ, นาลู จานด์เค
🔵 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แผน 4-2-3-1 ต่อบอลคุมจังหวะ เน้นแพสซิ่งและเพรสซิ่งดุดัน
- ผู้รักษาประตู
- นีล เอเธอร์ริดจ์ (GK) – 6.7
- กองหลัง
- ศศลักษณ์ ไหประโคน – 7.6 (แอสซิสต์ประตูชัยและวิ่งขึ้นลงไม่มีหมด)
- เคนเน็ต ดูกอล – 7.3
- โกรัน เคาซิช – 6.8
- นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (กัปตัน) – 7.0
- กองกลางตัวรับ
- ปีเตอร์ ซูลจ์ – 7.0
- มยอง-ซอก โก – 7.5
- ตัวรุกสามคนด้านหลังหน้าเป้า
- ธนกฤต โชติเมืองปัก – 6.3
- โรเบิร์ต ซูลจ์ – 7.6 (ฮีโร่ของทีมในวันนี้)
- ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา – 6.3
- กองหน้าตัวเป้า
- กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ – 5.1 (โดนใบแดงนาที 35 ทำให้เกมเปลี่ยน)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ธีราทร บุญมาทัน ลงแทน ธนกฤต โชติเมืองปัก นาที 46 – 7.2
- พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ลงแทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นาที 73 – 6.5
- ชินภัทร์ ลีเอาะ ลงแทน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม นาที 90 – 6.7
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้
ชัชชาติ บุตรพรม, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, รัตนากร ใหม่คามิ
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ถ้ามองในมุมแท็กติก เกมนี้คือบทเรียนของทั้งสองทีมแบบเต็มๆ บ้านกีฬาอยาก วิเคราะห์บอล ให้เห็นภาพชัดๆ ว่า สุโขทัย เลือกเล่น 5-3-2 เน้นตั้งรับลึก ใช้แนวรับ 3 เซ็นเตอร์บวกวิงแบ็ก 2 ข้าง ปิดช่องครอสจากด้านข้างของบุรีรัมย์ ทำให้ช่วงก่อนใบแดง ทีมเยือนแม้จะครองบอลได้มาก แต่ต้องต่อบอลวนไปวนมาอยู่หน้าเขตโทษ หาไลน์ยิงยาก
ช่วงหลังเหลือ 10 คน บุรีรัมย์ปรับมาเพลย์เซฟในเกมรับ แต่ไม่ได้ถอยต่ำมาก ใช้วิธีบีบเพรสบริเวณกลางสนามให้สุโขทัยต่อบอลลำบาก เมื่อแย่งบอลได้ก็รีบเปลี่ยนเป็นเกมรุกทันที อาศัยประสบการณ์ของแดนกลางอย่าง ปีเตอร์ ซูลจ์ กับ โกรัน เคาซิช คุมจังหวะ และปล่อยให้แบ็กสองฝั่งโดยเฉพาะ ศศลักษณ์ เติมสูงเป็นตัวสร้างเพลย์
เกมรับของบุรีรัมย์ต้องชมเป็นพิเศษ แม้จะเล่นน้อยกว่าหนึ่งคนเกือบชั่วโมง แต่ไลน์กองหลังยืนกันนิ่งมาก ปิดช่องด้านในได้ดี ไม่เปิดพื้นที่หลังแบ็กให้สุโขทัยแทงทะลุช่องง่ายๆ ในกรอบเขตโทษแทบไม่โดนยิงแบบจ่อๆ เลยตลอดทั้งเกม ยิ่งเมื่อมี เคนเน็ต ดูกอล กับ เคาซิช ช่วยกันอ่านเกมกลางอากาศ บอลยาวของเจ้าบ้านจึงแทบหมดความน่ากลัว
ฝั่งสุโขทัย พอคู่แข่งเหลือ 10 คนกลับขยับเกมบุกช้าเกินไป บอลสวนกลับไม่คม การขึ้นเกมด้านข้างมีบ้างแต่ไม่มีคนเติมเข้ากรอบเขตโทษมากพอ ทำให้จังหวะลุ้นกลายเป็นยิงไกลเสียส่วนใหญ่ เกมรับทำงานหนักแต่เกมรุกไม่สามารถปลดล็อกได้ นี่คือจุดที่บ้านกีฬาเห็นว่าทำให้ค้างคาวไฟต้องจบเกมมือเปล่าคาบ้านตัวเอง

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขในสนามบอกชัดว่าบุรีรัมย์แม้เหลือผู้เล่นน้อยกว่า แต่คุณภาพเกมยังเหนือกว่าพอสมควร ครองบอลมากถึง 67% ขณะที่สุโขทัยมีแค่ 33% เท่านั้น ทีมเยือนยิงทั้งหมด 11 ครั้ง ตรงกรอบเพียงพอจะกดดันแนวรับเจ้าถิ่นตลอด ส่วนสุโขทัยยิงได้เพียง 4 ครั้ง และแทบไม่มีลูกไหนที่ทำให้ นีล เอเธอร์ริดจ์ ต้องออกแรงเซฟยากๆ เลย
ลูกเตะมุมก็ชัดเจนเช่นกัน บุรีรัมย์ได้ถึง 10 ครั้ง เทียบกับสุโขทัยแค่ 1 ครั้ง สะท้อนว่าทีมเยือนบุกเป็นระลอกและปักหลักเล่นในแดนคู่แข่ง ส่วนเรื่องฟาวล์ สุโขทัยทำไป 15 ครั้ง มากกว่าบุรีรัมย์ที่ทำเพียง 6 ครั้ง แปลว่าจำเป็นต้องตัดเกมบ่อยเพราะโดนบุกใส่ ขณะเดียวกันจำนวนใบเหลืองของเจ้าถิ่นก็สูงกว่า
ด้านจำนวนจ่ายบอล บุรีรัมย์ต่อบอลสำเร็จถึง 526 ครั้ง มากกว่าสุโขทัยที่มีเพียง 272 ครั้ง นี่คือภาพรวมที่ยืนยันว่าจ่าฝูงคุมเกมไว้ในมือ แม้สกอร์จะเฉือนกันแค่ลูกเดียว แต่รูปเกมโดยรวมทีมเยือนทำได้เหนือกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 12 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ถูกทำฟาวล์ เป็นสัญญาณแรกว่าเกมเริ่มเดือดตั้งแต่ต้น
- 🟥 นาที 35 กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ มีจังหวะผลักและแกว่งแขนใส่ ศฤงคาร พรมสุภะ ผู้ตัดสินแจกใบแดงโดยตรงให้กองหน้าบุรีรัมย์
- 🟨 นาที 35 ศฤงคาร พรมสุภะ โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงหลังเหตุใบแดง
- 🟨 นาที 45+1 ธิติ ทุมพร ทำฟาวล์หนักในช่วงทดเวลาครึ่งแรก รับใบเหลืองไปอีกคน
- 🔁 นาที 46 บุรีรัมย์เปลี่ยนเอา ธีราทร บุญมาทัน ลงแทน ธนกฤต โชติเมืองปัก เพื่อเพิ่มมิติริมเส้น
- 🟨 นาที 53 สุรวิช โลกาวิทย์ ทำฟาวล์หนักกลางสนาม รับใบเหลือง
- 🔁 นาที 61 สุโขทัยส่ง อภิชาติ เด็นมัน ลงแทน สุรวิช โลกาวิทย์ เปลี่ยนรูปแบบเกมริมเส้น
- ⚽ นาที 61 ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดให้ โรเบิร์ต ซูลจ์ ยิงเต็มข้อเป็นประตูนำ 1-0 ให้บุรีรัมย์
- 🔁 นาที 72 สุโขทัยเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ภราดร พัฒน์พล แทน ชัยพล อดทน และ เอลิอาส แทน รัชนาท อรัญญไพโรจน์ เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 นาที 73 บุรีรัมย์ส่ง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล แทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ปรับแดนกลางให้แน่นขึ้น
- 🔁 นาที 84 สุโขทัยขยับอีกรอบ ส่ง ศิโรจน์ ฉัตรทอง และ กิลโด อาราโย่ ลงแทน ธิติ ทุมพร กับ มาเธซินโญ่ เติมความสดแดนหน้า
- 🔁 นาที 90 บุรีรัมย์เปลี่ยน ชินภัทร์ ลีเอาะ ลงแทน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เพื่อปิดเกมรับท้ายเกม
- 🟨 นาที 90+ ชินภัทร์ ลีเอาะ รับใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์
- 🟨 นาที 90+4 ภราดร พัฒน์พล โดนใบเหลืองจากจังหวะไล่บอลหนักในช่วงท้ายเกม
🌟 Player of the Match – โรเบิร์ต ซูลจ์ ฮีโร่ตัวจริงของจ่าฝูง
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อย่างไม่ต้องสงสัยคือ โรเบิร์ต ซูลจ์ ตัวรุกออสเตรียของบุรีรัมย์ ที่นอกจากจะซัดประตูชัยนาที 61 แบบคมกริบแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นหัวใจเกมรุกคอยเชื่อมบอลระหว่างแดนกลางกับแนวรุกตลอดทั้งเกม การหาพื้นที่ การวิ่งสอดเข้าเขตโทษ และการเก็บบอลพักให้เพื่อนลุ้นจังหวะสอง ล้วนทำได้ยอดเยี่ยม จนแนวรับสุโขทัยตามตัวไม่ติด
แม้ทีมจะเหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ซูลจ์ยังยืนเล่นด้วยวินัย ไม่วิ่งพร่ำเพรื่อ เลือกใช้พลังในจังหวะสำคัญ ทำให้ทุกครั้งที่บอลไปถึงเจ้าตัว แฟนบอลรู้สึกได้เลยว่าอาจเกิดอะไรขึ้นได้เสมอ ประตูเดียวของเกมนี้จึงไม่ใช่แค่สกอร์ แต่มันคือลายเซ็นของแข้งต่างชาติระดับหัวแถวไทยลีกที่แบกทีมจ่าฝูงไว้เต็มบ่า

📌 สถานการณ์บนตารางคะแนน BYD SEALION 6 ลีกหนึ่ง
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงเตะครบ 15 นัด เก็บไปแล้ว 40 คะแนน จากผลงานชนะ 13 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 38 เสีย 15 ลูก ผลต่างประตูได้เสีย +23 นั่งตำแหน่งจ่าฝูงแบบสง่างาม ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ราชบุรี เอฟซี ที่มี 29 คะแนน ถึง 11 แต้ม พร้อมการันตีแชมป์เลกแรกของฤดูกาลแบบสุดจัด
ด้าน สุโขทัย เอฟซี ยังหยุดอยู่ที่ 18 คะแนน จาก 15 นัด สถิติชนะ 4 เสมอ 6 แพ้ 5 ยิงได้ 13 เสีย 14 ผลต่าง -1 รั้งอันดับ 8 ของตาราง ยังถือว่าอยู่กลางตารางค่อนบน แต่ถ้าอยากลุ้นพื้นที่บนๆ มากกว่านี้ ต้องเร่งจูนเกมรุกให้คมกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหลายเกมรูปเล่นไม่ได้แย่ ทว่าการจบสกอร์ยังไม่เฉียบพอจะเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู
📅 ตารางบอล BYD SEALION 6 ลีกหนึ่ง นัดถัดไป
มองไปที่ โปรแกรมบอล ต่อจากนี้ สุโขทัย เอฟซี มีภารกิจหนักต่อเนื่องในลีก เมื่อจะต้องออกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ที่แพท สเตเดียม วันที่ 10 มกราคม 2569 ซึ่งเป็นเกมที่แนวรับจะโดนทดสอบอีกครั้งจากแนวรุกจัดจ้านของเจ้าบ้าน ขณะเดียวกันก่อนถึงนัดนั้น ค้างคาวไฟยังต้องลงเตะฟุตบอลถ้วยกับ คัสตอมส์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยแลนด์ ลีกคัพ วันที่ 28 ธันวาคมด้วย
ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง BYD SEALION 6 ลีกหนึ่ง เตรียมออกไปเยือน พีที ประจวบ เอฟซี วันที่ 4 มกราคม 2569 เกมนี้แฟนบอลเฝ้ารอดูว่าพวกเขาจะยังรักษาฟอร์มร้อนแรงและสถิติชนะต่อเนื่องได้อีกหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีคิวบอลถ้วยบุกเยือน นนทบุรี ยูไนเต็ด ในไทยแลนด์ ลีกคัพ วันที่ 27 ธันวาคม ที่โค้ชต้องโรเตชันบางตำแหน่งเพื่อรักษาสภาพร่างกายตัวหลักไว้สู้ในลีกให้ยาวที่สุด
📣 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากอัปเดตสกอร์สดแบบวินาทีต่อวินาที เช็กฟอร์มจ่าฝูงและทุกทีมในไทยลีก รวมถึงตามเชียร์สุโขทัยว่าจะกลับมาคืนฟอร์มได้เมื่อไหร่ บ้านกีฬา ขอย้ำเลยว่าห้ามพลาด ติดตาม บ้านผลบอล ผลการแข่งขันสดๆ พร้อมบทวิเคราะห์จัดเต็ม ข่าวก่อนเกม-หลังเกม และอัปเดตตารางคะแนนครบถ้วนได้ทุกวันที่ บ้านกีฬา ที่เดียวจบสำหรับคอบอลไทยตัวจริง

