900 ไม่พอเลี้ยงฝัน! “บิ๊กพิมล” เดินหน้าดันขึ้นเบี้ยเลี้ยงทีมชาติ–เงินอัดฉีดซีเกมส์ให้ทันยุคค่าครองชีพโหด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพรวมผลงานซีเกมส์ครั้งที่ 33 ของทัพไทย

วันที่ 24 ธ.ค. 68 วงการกีฬาไทยขยับอีกครั้ง เมื่อ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกมาพูดชัดถึงทั้ง “ผลงาน” และ “คุณภาพชีวิต” ของทัพนักกีฬา หลังจบศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ผ่านไปด้วยรอยยิ้มและเหรียญรางวัลมากมาย ผลการแข่งขันโดยภาพรวมถือว่าน่าชื่นใจเป็นพิเศษ เพราะจาก 50 ชนิดกีฬาที่ไทยส่งลงสนาม มีถึง 40 ชนิดที่นักกีฬาไทยยกระดับผลงานขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด เก็บเหรียญทองได้มากกว่าซีเกมส์ครั้งก่อน สะท้อนว่าโครงสร้างการเตรียมทีมนั้นเริ่มเดินมาถูกทาง แต่ในมุมของสิทธิประโยชน์นักกีฬา ยังมี “การบ้านก้อนใหญ่” ให้ผู้มีอำนาจต้องเร่งเคลียร์

ค่าครองชีพพุ่ง แต่เบี้ยเลี้ยงทีมชาติยังย่ำอยู่กับที่

จุดที่ “บิ๊กพิมล” หยิบขึ้นมาพูดตรงๆ คือเรื่อง เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ทีมชาติที่ใช้อัตราเดิมมานานกว่า 15 ปี นักกีฬาทีมชาติไทยต้องฝึกซ้อมหนักทุกวันแต่ได้เบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ 900 บาท แถม 900 บาทนี้ยังไม่ได้เข้ากระเป๋าเต็มๆ เพราะถูกหักค่าที่พักไป 300 บาท และยังต้องกันส่วนหนึ่งไปใช้เป็นค่าอาหารในชีวิตประจำวัน ขณะที่ราคาข้าวของตลอด 15 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ค่ากับข้าว ค่าเดินทาง ค่าใช้สอยทั่วไปพุ่งสวนกับรายรับที่นิ่งสนิท ผลคือ นักกีฬาจำนวนไม่น้อยต้อง “กัดฟัน” เลือกความฝันมากกว่าความสบายในชีวิตประจำวัน นี่คือภาพจริงที่อยู่เบื้องหลังเหรียญรางวัลทุกเหรียญ

ในฐานะประธานโอลิมปิคไทย ผศ.พิมล จึงย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐต้องกลับมาทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะสำหรับ นักกีฬาทีมชาติไทย เบี้ยเลี้ยงระหว่างฝึกซ้อมคือเส้นเลือดใหญ่ของชีวิต ไม่ใช่เงินพิเศษที่ได้เล่นๆ แล้วจบไปวันๆ

แผนดันขึ้นเบี้ยเลี้ยงและเงินอัดฉีดซีเกมส์

จากเสียงสะท้อนหน้างาน “บิ๊กพิมล” เตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ให้เห็นชอบการขึ้นเบี้ยเลี้ยงจาก 900 บาทต่อวัน เป็น 1,200 บาทต่อวัน แม้จะยังไม่ใช่ตัวเลขในฝัน แต่ก็ถือเป็นการขยับครั้งสำคัญ ที่สะท้อนว่าประเทศมองเห็นภาระและความเสียสละของนักกีฬามากขึ้น อีกด้านหนึ่งคือเรื่อง เงินอัดฉีด ที่ยังคงใช้อัตราเดิมมานานเมื่อเทียบกับรายการใหญ่ระดับเอเชียนเกมส์

ในประเด็นนี้ ผศ.พิมล ระบุชัดผ่านคำให้สัมภาษณ์ โดยเนื้อหาดังเดิมระบุว่า

“นอกจากเรื่องเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมแล้ว สิ่งที่ผมยังทำค้างไว้ก็คือ การขอเพิ่มเงินรางวัลอัดฉีดนักกีฬาซีเกมส์ ที่เห็นว่าอัตราเดิมนั้น เป็นราคาที่คงที่มานาน และเป็นอัตราเงินอัดฉีดที่เมื่อเทียบกับ เอเชี่ยนเกมส์ ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อย จึงอยากให้มีการปรับเพิ่มขึ้นมาจากเหรียญทองละ 3 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท เหรียญเงินจาก 1.5 แสนบาท เป็น 3 แสนบาท และ เหรียญทองแดงจาก 7.5 หมื่นบาท เป็น 1.5 แสนบาท

เพราะเมื่อนักกีฬาเขาต้องสละเวลามาฝึกซ้อมและทำผลงานเพื่อประเทศชาติ พวกเขาต้องได้รับการดูแลที่ดีและมีเกียรติมีศักดิ์ศรี มีเบี้ยเลี้ยงและเงินรางวัลที่เหมาะสม สมควรที่จะได้รับตามสภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน” ผศ.พิมล กล่าว

คำพูดนี้สะท้อนภาพชัดว่า เรื่องรางวัลไม่ใช่แค่เรื่อง “ตัวเลข” แต่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรี ความภูมิใจ และภาพลักษณ์ของชาติในสายตานักกีฬาด้วย

ซีเกมส์กับคุณภาพชีวิตระยะยาวของนักกีฬาไทย

ในมุมมองระยะยาว การลงทุนกับนักกีฬาไม่ใช่แค่การหวังเหรียญทองในทัวร์นาเมนต์เดียว แต่คือการสร้างระบบอาชีพที่มั่นคงให้คนรุ่นใหม่กล้าก้าวเข้าสู่เส้นทางกีฬาอย่างเต็มตัว ถ้าเบี้ยเลี้ยงและเงินรางวัลยังไม่สอดคล้องกับ ค่าครองชีพ ปัจจุบัน นักกีฬาหลายคนอาจต้องตัดใจหันไปเอาดีกับงานประจำหรืออาชีพอื่นที่มั่นคงกว่า ทั้งที่ความสามารถระดับพวกเขา สามารถพัฒนาขึ้นไปลุยระดับเอเชียหรือโลกได้ด้วยซ้ำ

ซีเกมส์จึงไม่ใช่แค่เวทีวัดศักยภาพของชาติในอาเซียน แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนว่า ประเทศให้คุณค่ากับคนทำงานหนักในสนามแค่ไหน หากระบบสนับสนุนดีพอ ตั้งแต่เบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมไปจนถึงเงินอัดฉีดเมื่อประสบความสำเร็จ โอกาสที่ไทยจะสร้างฮีโร่หน้าใหม่อย่างต่อเนื่องย่อมมีมากขึ้น และที่สำคัญคือทำให้คนรุ่นหลังเชื่อว่า “เป็นนักกีฬาอาชีพแล้วอยู่ได้จริง”

มุมมอง บ้านกีฬา ต่อการบ้านของผู้มีอำนาจ

จากสิ่งที่ “บิ๊กพิมล” กำลังผลักดัน บ้านกีฬา มองว่านี่คือจังหวะสำคัญที่รัฐบาลใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้โอกาสนี้วางมาตรฐานใหม่ให้กับการดูแลนักกีฬาไทย ไม่ใช่เพียงตอบแทนความสำเร็จในระยะสั้น แต่ต้องสร้างโครงสร้างระยะยาวที่ชัดเจน โปร่งใส และยั่งยืน เพื่อให้ทุกเหงื่อหยดที่ตกลงบนสนามซ้อมและสนามแข่งไม่สูญเปล่า

ท้ายที่สุด เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเลขบนกระดาษอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับความรู้สึกว่า “ประเทศเห็นค่าพวกเขาจริงหรือไม่” ถ้าเราต้องการเห็นธงไตรรงค์โบกสะบัดบนยอดเสาไปอีกหลายยุคหลายสมัย ก็ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดันให้การปรับเบี้ยเลี้ยงและเงินรางวัลของนักกีฬาเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม แฟนกีฬาไทยติดตามเสียงสะท้อนเหล่านี้ต่อไปได้ และร่วมลุ้นให้การบ้านชุดนี้ของผู้มีอำนาจถูกแก้แบบไม่ครึ่งๆกลางๆ

แฟนกีฬาที่อยากตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการกีฬาไทย ทั้งในสนามและนอกสนาม อย่าลืมติดตามความคม ชัด จัดเต็มได้ที่ บ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา