จาก : ผลบอลสด อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 วัดฟอร์ด วันนี้ 26/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ที่คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยมจบลงแบบทำเอาแฟนเจ้าถิ่นนั่งเงียบทั้งสนาม เมื่อผลจากจอ ผลบอลสด ขึ้นเต็มตาว่า เลสเตอร์ แพ้คาบ้าน 1-2 ให้กับทีมฟอร์มแรงอย่างวัดฟอร์ด ทั้งที่ออกสตาร์ตได้สวยก่อนแท้ๆ เกมนี้ บ้านกีฬา ขอสรุปให้แบบละเอียดทุกช็อต ทุกจังหวะ เพราะมันมีทั้งความหวัง ความพลาด และความเฉียบคมให้เห็นครบใน 90 นาที
⏱️ ครึ่งแรกจิ้งจอกออกนำเร็วแต่ถูกลงโทษท้ายครึ่ง
เสียงเฮแรกของเกมมาไวตั้งแต่ นาที 7 เมื่อจอร์แดน เจมส์ สอดขึ้นมาจากแถวสองรับบอลจากจอร์แดน อายิว ก่อนซัดไม่จับส่งบอลตุงตาข่าย เลสเตอร์นำ 1-0 อย่างเฉียบคม ช่วงต้นเกมเจ้าบ้านเล่นมั่นใจ เซตบอลจากแนวรับขึ้นไปถึงสามตัวบนได้เรื่อยๆ แดนกลาง เจมส์ กับ โอลิเวอร์ สคิปป์ ช่วยกันไล่บีบจนวัดฟอร์ดต่อบอลลำบาก
แต่ด้านแตนก็ตอบโต้ได้น่ากลัว โดยเฉพาะคู่หูตรงกลาง อิมราน ลูซ่า กับ ฮาราลัมบอส คีปรีอานู ที่พยายามจ่ายทะลุช่องให้คู่หัวหอกเคลื่อนที่เล่นงานเซ็นเตอร์เลสเตอร์ นาที 19 ฟาตาวู อิสสะฮากู โดนจดชื่อจากจังหวะพุ่งเสียบแรงเกินเหตุ ทำให้จังหวะบีบเพรสของเจ้าบ้านเริ่มอืดลงเล็กน้อย
ท้ายครึ่งแรกความผิดพลาดทางสมาธิของเลสเตอร์ก็ลงโทษตัวเอง นาที 45+1 วัดฟอร์ดต่อบอลริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนออธมาน มามมา เติมมาเชื่อมแล้วไหลให้ ลูซ่า หลุดเข้าเขตโทษแปเสียบเสาสองแบบนิ่งๆ ตีเสมอ 1-1 ก่อนกลับเข้าห้องแต่งตัว ทำให้โมเมนตัมเกมพลิกจากจิ้งจอกที่เหมือนจะคุมอยู่ กลายเป็นแตนที่กำลังได้ใจเต็มๆ
🔁 ครึ่งหลังแตนบุกแหลก เลสเตอร์ถอยเองจนโดนแซง
ลงมาครึ่งหลัง เลสเตอร์ดันเกมไม่ต่อเนื่องเท่าช่วงต้น แถมเสียจังหวะกลางสนามเพราะต้องระวังใบเหลืองเพิ่ม สคิปป์กับมาวิดิดี้เริ่มเล่นยาก วัดฟอร์ดเลยดันไลน์สูง ขยับปีกทั้งสองฝั่งขึ้นไปปักคาแนวรับเจ้าบ้าน
นาที 48 ลูซ่าโดนใบเหลืองจากจังหวะเอาตัวบังบอลแล้วฟาวล์ แต่แทนที่เกมรุกจะดร็อป เจ้าตัวกลับเล่นอย่างมั่นใจยิ่งขึ้น นาที 61 คีปรีอานูโดนเหลืองจากการตัดเกมกลางสนาม แต่ก็ช่วยชะลอจังหวะสวนกลับเลสเตอร์ได้ดี
แล้วจุดเปลี่ยนใหญ่สุดของเกมก็มาในนาที 65 จากจังหวะลูกตั้งเตะที่แตนซ้อมมาอย่างดี บอลถูกโยนไปเสาไกลและถูกโหม่งชงกลับเข้าในให้ แม็ตธิว พอลล็อค โผล่ขึ้นมาโหม่งต่อมาถึง ลูซ่า ใช้ความนิ่งจับจังหวะเดียวแล้วยิงจ่อๆ ไม่พลาด วัดฟอร์ดแซงนำ 2-1 กลางความช็อกของแฟนจิ้งจอก
จากนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลสเตอร์พยายามแก้เกม ส่ง เจเรมี มองก้า กับ อารอน แรมซีย์ ลงมาเพิ่มมิติในแนวรุก ก่อนปิดท้ายด้วย ซิลโก โธมัส กับ ฮัมซ่า เชาดูรี ในนาที 87 แต่ก็เจาะกำแพงรับของทีมเยือนไม่เข้า ฝั่งวัดฟอร์ดเองเพิ่มความสดด้วย เนสทอรี อิรันคุนดา, มุสซ่า ซิสโซโก้ และวิเวลโด้ เซเมโด้ เพื่อปิดเกมแบบเน้นผล สุดท้ายเสียงนกหวีดยาวดังขึ้นพร้อมชัยชนะสุดสำคัญของแตน 2-1
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🦊 เลสเตอร์ ซิตี้: ผัง 4-2-3-1 เปิดเกมดีแต่ปิดไม่ลง
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: ยาคุบ สโตลาร์ชิค (คะแนน 6.1)
- แบ็กซ้าย: ลุค โธมัส (6.4)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: เบนจามิน เนลสัน (6.7), เซซาร์ โอโคลี (6.2)
- แบ็กขวา: ริคาร์โด เปเรย์รา กัปตันทีม (6.6)
- คู่มิดฟิลด์ตัวรับ: จอร์แดน เจมส์ (7.5) ผู้ยิงประตูขึ้นนำ, โอลิเวอร์ สคิปป์ (6.1)
- ตัวรุกสามคนด้านหลังหน้าเป้า: ฟาตาวู อิสสะฮากู (6.3), บ็อบบี้ รีด (6.5), สเตฟี่ มาวิดิดี้ (6.5)
- กองหน้าตัวเป้า: จอร์แดน อายิว (6.2)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เจเรมี มองก้า (6.3) แทน มาวิดิดี้ นาที 69
- อารอน แรมซีย์ (6.5) แทน บ็อบบี้ รีด นาที 75
- ซิลโก โธมัส (6.7) แทน เปเรย์รา นาที 87
- ฮัมซ่า เชาดูรี (6.8) แทน สคิปป์ นาที 87
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: อัสมีร์ เบโกวิช, วูต ฟาส, โอลาเบเด อาลูโก, หลุยส์ เพจ, จูลิอัน การ์รันซา
🐝 วัดฟอร์ด: 4-4-2 กัดไม่ปล่อยจนจิ้งจอกไปไม่เป็น
ผู้เล่นตัวจริง
- ผู้รักษาประตู: เอียน เซลวิก (6.2)
- แบ็กซ้าย: มาร์โก โบลา (6.4)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: มาร์คัส อัลลีน (6.9), แม็ตธิว พอลล็อค (7.9) ผู้โหม่งให้ลูซ่ายิงประตูชัย
- แบ็กขวา: เจเรมี งกาเกีย (7.6)
- กองกลางฝั่งซ้าย: ออธมาน มามมา (7.6) คนทำแอสซิสต์ตีเสมอ
- คู่กลาง: จอร์จี ชัคเวตัดเซ (6.5), ฮาราลัมบอส คีปรีอานู (6.8)
- กองกลางฝั่งขวา: ทอม อินซ์ (6.8)
- กองหน้าคู่: อิมราน ลูซ่า กัปตันทีม (8.4) ทำ 2 ประตูจาก 1 ยิงตรงและ 1 จุดเปลี่ยนเกม, ลูคัส เคียรัมการ์ด (6.5)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เนสทอรี อิรันคุนดา (6.8) แทน ทอม อินซ์ นาที 66
- มุสซ่า ซิสโซโก้ (6.7) แทน มามมา นาที 81
- วิเวลโด้ เซเมโด้ (6.5) แทน เคียรัมการ์ด นาที 81
- เจมส์ มอร์ริส ลงมาแทน ชัคเวตัดเซ นาที 90+1
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม: เนธาน แบ็กซ์เตอร์, เจเรมี เปทริส, เจมส์ อาบังควาห์, เควิน เคเบน เบียโคโล, นัมปาลิส เมนดี้
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
ถ้าวัดกันที่แผนบนกระดาน เลสเตอร์มาใน 4-2-3-1 ที่เน้นคุมบอลแดนกลางให้แน่นก่อนขึ้นเกมด้านข้าง อิสสะฮากูกับมาวิดิดี้คอยลากตัดเข้าในเพื่อเปิดพื้นที่ให้ฟูลแบ็กเติมซ้อน เมื่อเริ่มเกมแผนนี้ทำงานดีมาก โดยเฉพาะ เจมส์ ที่เล่นเป็นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ สอดขึ้นมายิงประตูนำทำให้รูปเกมช่วง 20 นาทีแรกเจ้าบ้านดูเหนือกว่า
แต่ปัญหาคือเมื่อโดนเพรสหนักขึ้น เลสเตอร์เริ่มพลาดจ่ายบอลตรงกลางง่ายเกินไป การขึ้นเกมช้า ทำให้สามตัวรุกด้านหลังอายิวขาดบอลใช้ประโยชน์ โครงสร้างเกมรับก็สับสนระหว่างจะดันไลน์สูงหรือถอยลึก ผลคือถูกวัดฟอร์ดหาช่องเจาะระหว่างไลน์ได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวะตีเสมอท้ายครึ่งแรกที่แนวรับปล่อยให้ลูซ่าเติมเข้าช่องระหว่างแบ็กกับเซ็นเตอร์แบบไม่มีตัวตาม
ฝั่งวัดฟอร์ด แผน 4-4-2 ถูกใช้แบบยืดหยุ่นมาก ปีกสองฝั่งถ่างกว้างคอยดึงฟูลแบ็กออกจากพื้นที่กลาง ส่วนคู่กลาง ลูซ่า – คีปรีอานู สลับกันขึ้นลง ทำให้การบีบแดนสองดุเดือดและสร้างความได้เปรียบตัวผู้เล่นบริเวณหน้ากรอบคู่แข่ง เมื่อเสียบอล เหลี่ยมยืนของแตนก็ชัดเจน ทุกคนถอยลงมาอยู่หลังเส้นบอลทันที กลายเป็นบล็อก 4-4-2 เต็มรูปแบบ เลสเตอร์เลยหาพื้นที่เจาะช่องว่างด้านในแทบไม่ได้
ในเชิงเกมรุก ลูซ่าคือทุกอย่างของทีมเยือน ทั้งการดร็อปลงมารับบอลลึก แปะออกปีก แล้วสอดขึ้นไปจบสกอร์เอง ประตู 2-1 มาจากการจัดตำแหน่งในเขตโทษที่ยอดเยี่ยม วิ่งหนีตัวประกบมารอรับโหม่งชงของพอลล็อคก่อนซัดไม่เหลือ เรียกได้ว่าถ้ายึดตามนิยามคำว่า “จอมทัพ” เกมนี้เขาทำครบทุกมิติสมกับการถูกยกให้เป็นหัวใจของแตนเหลืองจริงๆ และนี่คือภาพชัดๆ ของคำว่า วิเคราะห์บอล ที่ตัวเลขและจังหวะในสนามเล่าเรื่องแทนคำพูด
📊 สถิติการแข่งขันชี้แตนคมกว่าในจังหวะสำคัญ
ตัวเลขหลังเกมบอกชัดว่ารูปเกมไม่ห่างกันมาก เลสเตอร์ยิงรวม 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 เท่ากับวัดฟอร์ดที่กดไป 11 ครั้ง เข้ากรอบ 3 เช่นกัน การครองบอลแบ่งกันไปฝั่งละ 50% เป๊ะๆ สะท้อนว่าทั้งสองทีมผลัดกันครองเกมเป็นช่วงๆ
ด้านเกมรับ เลสเตอร์ทำฟาวล์ถึง 12 ครั้งและโดนใบเหลือง 3 ใบ ขณะที่วัดฟอร์ดฟาวล์ 7 ครั้ง โดนเหลือง 2 ใบ แสดงให้เห็นว่าเจ้าบ้านต้องตัดเกมบ่อยกว่าเพราะเสียจังหวะในแดนกลาง ส่วนจังหวะลูกนิ่ง วัดฟอร์ดได้เตะมุม 6 ครั้งมากกว่าเจ้าบ้านที่ได้ 5 ครั้ง และหนึ่งในนั้นก็กลายเป็นจังหวะต่อเนื่องที่นำไปสู่ประตูชัยของแตนในที่สุด ขณะที่ล้ำหน้า เลสเตอร์โดนจับ 2 ครั้ง วัดฟอร์ด 1 ครั้ง บ่งบอกว่าจิ้งจอกพยายามหนีแนวรับขึ้นไปเล่นหลังไลน์แต่ยังขาดความคมและจังหวะวิ่งที่ลงตัว
📌 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 7 เลสเตอร์ขึ้นนำ 1-0 จอร์แดน เจมส์ สอดมายิงจากจ่ายของจอร์แดน อายิว
- 🟨 นาที 19 ฟาตาวู อิสสะฮากู โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนักกลางสนาม
- 🟨 นาที 42 โอลิเวอร์ สคิปป์ รับใบเหลืองจากการตัดเกม
- ⚽ นาที 45+1 วัดฟอร์ดตีเสมอ 1-1 ออธมาน มามมา ไหลให้ อิมราน ลูซ่า ยิงเสียบเสา
- 🟨 นาที 48 ลูซ่า ไปฟาวล์โดนใบเหลือง แต่ยังเล่นต่อได้
- 🟨 นาที 61 ฮาราลัมบอส คีปรีอานู โดนจดชื่อจากจังหวะสกัดช้า
- 🟨 นาที 63 สเตฟี่ มาวิดิดี้ เข้าบอลหนักโดนใบเหลืองใบที่สามของเลสเตอร์ในเกมนี้
- ⚽ นาที 65 วัดฟอร์ดแซงนำ 2-1 จากลูกต่อเนื่องบอลโด่ง แม็ตธิว พอลล็อค โหม่งชงให้ ลูซ่า ซัดประตูที่สองของตัวเอง
- 🔁 นาที 66 วัดฟอร์ดส่ง เนสทอรี อิรันคุนดา แทน ทอม อินซ์ เติมความสดริมเส้น
- 🔁 นาที 69 เลสเตอร์เปลี่ยน เจเรมี มองก้า ลงแทน มาวิดิดี้ เพิ่มสปีดเกมรุก
- 🔁 นาที 75 อารอน แรมซีย์ ลงแทน บ็อบบี้ รีด เพื่อหาจังหวะคิลเลอร์พาส
- 🔁 นาที 81 แตนส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ แทน มามมา และ วิเวลโด้ เซเมโด้ แทน เคียรัมการ์ด เสริมเกมรับและโต้กลับ
- 🔁 นาที 87 เลสเตอร์เปลี่ยนพร้อมกันสองคน ส่ง ซิลโก โธมัส แทน เปเรย์รา และ ฮัมซ่า เชาดูรี แทน สคิปป์ เพื่อดันเกมท้ายๆ
- 🔁 นาที 90+1 วัดฟอร์ดส่ง เจมส์ มอร์ริส ลงแทน ชัคเวตัดเซ เพื่อช่วยล็อกผลการแข่งขัน
⭐ Player of the Match: อิมราน ลูซ่า จอมทัพแตนเหลือง
เกมนี้ไม่มีใครสมควรได้รางวัลมากกว่า ลูซ่า มิดฟิลด์กัปตันทีมของวัดฟอร์ดที่ทำทุกอย่างในสนาม ตั้งแต่เชื่อมเกมต่ำ จ่ายบอลคิลเลอร์พาส ไปจนถึงจบสกอร์เองแบบเฉียบคม 2 ประตูที่เขาทำคือภาพสะท้อนความเป็นผู้นำ ทั้งจังหวะตีเสมอก่อนหมดครึ่งแรกที่ช่วยดึงขวัญกลับมา และประตูชัยนาที 65 ที่นิ่งเกินวัยในสถานการณ์กดดัน
นอกจากสกอร์ ลูซ่ายังอ่านเกมได้ฉลาด รู้จังหวะถอยลงต่ำเพื่อรับบอล แล้วหมุนตัวเปลี่ยนแกนเกมจากซ้ายไปขวา ทำให้แผงมิดฟิลด์เลสเตอร์ต้องวิ่งตามบอลจนหอบ การยืนตำแหน่งในเขตโทษก็ยอดเยี่ยม วิ่งตัดไลน์เซ็นเตอร์เพื่อหาพื้นที่ว่างอยู่ตลอด ไม่แปลกที่คะแนนประเมินหลังเกมจะพุ่งถึง 8.4 สูงที่สุดในสนาม และพาแตนเก็บชัยเกมเยือนสุดล้ำค่า
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนอีเอฟแอลแชมเปียนชิป
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ วัดฟอร์ด เก็บเพิ่มเป็น 35 คะแนนจาก 23 นัด ขยับขึ้นอันดับ 8 ของตาราง หายใจรดต้นคอพื้นที่เพลย์ออฟเต็มๆ ตามหลังกลุ่มบนอย่างบริสตอล ซิตี้ และมิลล์วอลล์เพียงไม่กี่แต้ม เส้นทางลุ้นเลื่อนชั้นยังเปิดกว้างแบบ “เห็นแล้วคันเท้า” สำหรับแฟนแตนเหลือง
ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ เกาะอยู่แถวกลางตารางที่อันดับ 14 มี 31 คะแนน จากผลงานชนะ 8 เสมอ 7 แพ้ 8 ประตูได้ 32 เสีย 33 ผลต่างติดลบเล็กน้อย แสดงให้เห็นชัดว่าทีมยังหาความสม่ำเสมอไม่เจอ แพ้นัดนี้ทำให้ช่องว่างกับโซนเพลย์ออฟเริ่มห่างออกไปอีก หากไม่เร่งเครื่องในช่วงปีใหม่ ความฝันที่จะกลับพรีเมียร์ลีกแบบเร็วๆ อาจต้องเก็บไว้ลุ้นซีซันหน้าแทน
📅 ตารางบอลอีเอฟแอลแชมเปียนชิป นัดถัดไป
โปรแกรมจากสาย โปรแกรมบอล ของลีกนี้ยังแน่นปั๊ก เลสเตอร์ต้องรีบลืมความพ่ายแพ้ แล้วหันหน้าไปโฟกัสเกมเปิดบ้านรับมือดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม ต่อด้วยทริปเยือนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด วันที่ 2 มกราคม สองนัดนี้คือบททดสอบสำคัญว่าจะยืนระยะในโซนกลางบน หรือร่วงไปครึ่งล่างของตาราง
ด้านวัดฟอร์ดต้องออกไปเยือนนอริช ซิตี้ ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม ก่อนกลับมาเล่นในบ้านรับการมาเยือนของเบอร์มิงแฮม ซิตี้ วันที่ 1 มกราคม ถ้าเก็บแต้มต่อเนื่องจากสองเกมนี้ได้ โอกาสไต่ขึ้นไปเคาะประตูเพลย์ออฟจะสดใสยิ่งกว่าเดิม แฟนแตนเหลืองเตรียมจดวันไว้ให้ดี เพราะทั้งสองนัดมีสิทธิ์เปลี่ยนฤดูกาลของทีมแบบชัดเจน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครอยากเช็กสกอร์สด ดูฟอร์มทีมรักแบบเกมต่อเกม และเกาะทุกประเด็นเดือดของลีกผู้ดี อย่าลืมตามเช็ก บ้านผลบอล วิเคราะห์จัดเต็ม สกอร์สดเรียลไทม์ และมุมมองลูกหนังสุดดุดันได้ทุกวันกับ บ้านกีฬา แล้วทุกคืนบอลจะไม่ใช่แค่ตัวเลขบนจอ แต่เป็นเรื่องเล่ามันส์ๆ ที่คุณอินไปพร้อมกัน
