
เจสัน คิดด์ หัวเรือใหญ่ของ ดัลลัส แมฟเวอริคส์ ยอมรับว่าแม้จะรู้ถึงศักยภาพที่ครบเครื่องของ คูเปอร์ แฟล็กก์ ดราฟต์อันดับ 1 แห่งคลาส 2025 แต่ยังไม่รีบด่วนตัดสินใจว่าจะส่งลงเล่นในบทบาทใด ขอเวลาใช้ช่วงเทรนนิ่งแคมป์เพื่อทำความเข้าใจและจับทางสไตล์ของเจ้าหนุ่มมหัศจรรย์จากมหาวิทยาลัยดุ๊กเสียก่อน
ในดราฟต์ปีนี้ไม่มีพลิกโผใดๆ เมื่อ แมฟเวอริคส์ ใช้สิทธิ์อันดับ 1 คว้าแฟล็กก์เข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการ โดยวางเป้าให้เขาเป็นเสาหลักในอนาคตของแฟรนไชส์ แทนที่ยุคของ ลูก้า ดอนชิช ที่เริ่มโรยรา การเปิดตัวของแฟล็กก์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งลีก
แต่ถึงจะเป็นความหวังใหม่ของทีม คิดด์ยังไม่รีบร้อนโยนความกดดันให้กับดาวรุ่งวัย 18 ปี เพราะเป้าหมายสำคัญในช่วงแรกคือการ “เรียนรู้ทีม” และ “ปรับตัวให้กลมกลืน” มากกว่าจะจับโยนลงสนามในทันที โดยเฉพาะเมื่อห้องแต่งตัวของแมฟส์เวลานี้เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ระดับแชมป์อย่าง คายรี่ เออร์วิ่ง, แอนโธนี่ เดวิส และ เคลย์ ธอมป์สัน ที่พร้อมถ่ายทอดทุกประสบการณ์อันล้ำค่าให้รุ่นน้องแบบไม่มีกั๊ก
“หมอนี่โชคดีมากที่ได้เข้ามาอยู่ในทีมที่มีผู้เล่นซึ่งใกล้จะเข้าสู่หอเกียรติยศหลายราย” คิดด์เผยด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“แค่ได้ร่วมซ้อมกับ คายรี่, เคลย์ หรือ ‘เอดี’ ก็เพียงพอที่จะสร้างแรงผลักดันและปกป้องเขาจากแรงกดดันมหาศาล แถมยังเป็นโอกาสให้พัฒนาแบบก้าวกระโดดอีกด้วย”
กุนซือมือเก๋าของแมฟเวอริคส์ยังทิ้งท้ายด้วยความคิดที่น่าสนใจว่าอยากจะทดลองแฟล็กก์ในบทบาท พอยน์ต์การ์ด แม้เจ้าตัวจะเล่นแบบ พอยน์ต์ฟอร์เวิร์ด สมัยเรียนดุ๊กมาก่อนก็ตาม โดยให้เหตุผลว่าอยากดูว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
“ผมอยากเห็นเขาเจอความท้าทาย อยากให้เขารับบทบาทที่ไม่ถนัด เพื่อดูว่าจะตอบสนองยังไงในสนามของจริง”
ด้านแฟล็กก์ เจ้าของความสูง 6 ฟุต 9 นิ้ว ก็แสดงทัศนคติสุดนิ่ง พร้อมเผชิญความคาดหวังจากทั้งสื่อและแฟนๆ ด้วยท่าทีถ่อมตัว และโฟกัสที่การพัฒนาตัวเองในทุกวัน
“ผมเข้ามาด้วยใจที่อยากเรียนรู้ และอยากเป็นนักบาสที่ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ วัน” แฟล็กก์เปิดใจ
“ถ้าผมทุ่มเทเต็มที่ในทุกการฝึกซ้อม ความคาดหวังหรือแรงกดดันจากภายนอกมันจะค่อยๆ จางไปเอง เพราะเราจะโฟกัสที่สิ่งที่ควบคุมได้”
“ผมแค่จะพยายามเป็นตัวของตัวเอง และทำทุกอย่างเพื่อทีมให้ถึงที่สุดเท่าที่ผมทำได้”
ทั้งนี้ในฤดูกาลใหม่ที่จะถึงนี้ แมฟเวอริคส์ จะไม่มี คายรี่ เออร์วิ่ง อย่างน้อยจนถึงปี 2026 เนื่องจากกำลังพักฟื้นจากการผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าด้านหน้า ซึ่งอาจกลายเป็นโอกาสทองที่ทำให้แฟล็กก์ได้แสดงฝีมือจริงในบทบาทแม่ทัพนำเกม หากเขาพิสูจน์ตัวเองได้ในแคมป์ฝึกซ้อม
การผสมผสานระหว่างดาวรุ่งพรสวรรค์สูงกับตัวเก๋าแชมป์ลีกในห้องแต่งตัว จะเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งทีมว่าแมฟเวอริคส์ยุคถัดไปจะทรงพลังแค่ไหน บ้านกีฬา ขอจับตาดูอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่าสาวกบาสทั้งหลายไม่ควรพลาด
ติดตามข่าวบาสเกตบอล NBA แบบเข้มข้นก่อนใครได้ที่ บาสสดบ้านกีฬา