
“ฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล กองหน้าทีมชาติไทยเบอร์ 14 ของสโมสร จูบิโล่ อิวาตะ เริ่มนับหนึ่งกับการค้าแข้งในแดนอาทิตย์อุทัยอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อได้รับโอกาสประเดิมสนาม ตัวจริง ในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดกับ ฟูจิเอดะ เอ็มวายเอฟซี ทีมร่วมศึก เจลีก 2 ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2025 พร้อมลงเล่นอย่างมั่นใจนานถึง 70 นาที ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกทั้งในแง่ของสภาพความฟิตและการปรับตัวเข้ากับระบบฟุตบอลสไตล์ญี่ปุ่นได้เร็วเกินคาด
โดยเกมดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นแมตช์อุ่นเครื่องในช่วงพักเบรกของลีก โดย จูบิโล่ อิวาตะ เปิดสนามทดสอบแท็กติกกับ ฟูจิเอดะ เอ็มวายเอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตาราง ซึ่งแม้ผลการแข่งขันจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-1 แต่เนื้อในของเกมนี้คือการวางระบบทีมและการเช็คความพร้อมของนักเตะในเชิงลึก โดยใช้รูปแบบแบ่งเล่นออกเป็น 2 ควอเตอร์ ควอเตอร์ละ 45 นาที เพื่อให้โค้ชสามารถทดลองนักเตะชุดผสมได้เต็มที่
หนึ่งในนักเตะที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในเกมนี้คือ “เจ้าฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล ดาวยิงวัย 25 ปีจากไทยที่เพิ่งย้ายมาสู่ถิ่น “กางเขนเหล็ก” เมื่อไม่นานมานี้ ได้โอกาสโชว์ฝีเท้าตั้งแต่นาทีแรกของเกม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับโอกาสลงตัวจริงนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม และถือเป็นโอกาสทองในการพิสูจน์ศักยภาพให้กับแฟนบอลญี่ปุ่นได้เห็นถึงฝีเท้าแบบฉบับกองหน้าจากอาเซียน
แม้เจ้าตัวจะยังไม่สามารถทำประตูได้ในเกมนี้ แต่ด้วยการเคลื่อนที่ที่คล่องแคล่ว การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมในแดนหน้า และความกระตือรือร้นตลอดช่วงเวลา 70 นาทีที่อยู่ในสนาม ก็เพียงพอจะทำให้แฟนบอลและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของจูบิโล่มั่นใจว่า “ฟร้องซ์” คือพลังใหม่ที่สามารถช่วยเติมมิติเกมรุกให้กับทีมได้อย่างแน่นอน หากได้รับเวลาและโอกาสในการปรับตัวต่อเนื่อง
สถานการณ์ใน ตารางคะแนนเจลีก 2 ขณะนี้ จูบิโล่ อิวาตะ รั้งอันดับ 6 ของตาราง มีอยู่ 35 คะแนนจากการลงสนามทั้งหมด 22 นัด ยังอยู่ในโซนเพลย์ออฟเลื่อนชั้น โดยมีแต้มตามหลัง เวกัลตะ เซนได ทีมอันดับ 2 ซึ่งเป็นโควต้าเลื่อนชั้นอัตโนมัติอยู่เพียง 5 คะแนน ส่วนจ่าฝูงในเวลานี้คือ มิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค ที่ทำแต้มหนีไปอยู่ที่ 42 คะแนน
นั่นหมายความว่า การเร่งเครื่องเพื่อทำแต้มไล่จี้หัวตารางยังมีความเป็นไปได้สูง และหากดาวยิงทีมชาติไทยสามารถเบียดขึ้นเป็นตัวเลือกหลักของทีมได้ในเร็ววัน โอกาสที่จะมีส่วนช่วยในการพาทีมทะยานกลับสู่ลีกสูงสุดของญี่ปุ่นในฤดูกาลหน้า ก็ยิ่งเป็นภาพที่ชัดขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับ “ฟร้องซ์” การได้ประเดิมสนามในเกมจริงต่อหน้าสตาฟฟ์โค้ชและแฟนบอลญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหมุดหมายสำคัญของนักเตะไทยในเวทีเจลีก 2 ที่กำลังเดินหน้าอย่างมั่นคง ด้วยเป้าหมายไม่เพียงแค่พิสูจน์ตัวเอง แต่ยังหมายรวมถึงการเป็นแรงบันดาลใจให้กับแข้งไทยคนอื่นๆ ที่กำลังฝันไกลถึงลีกอาชีพระดับเอเชีย
บ้านกีฬา ขอส่งแรงใจให้ “เจ้าฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล เดินหน้าทำผลงานอย่างเต็มที่ และหวังว่าจะได้เห็นชื่อของเขาในสกอร์บอร์ดและเป็นกำลังหลักในทีมชุดใหญ่ของจูบิโล่ อิวาตะในเร็ววัน ติดตามทุกข่าวความเคลื่อนไหวของนักเตะไทยในต่างแดน และ ผลบอลสด ทุกลีกทั่วโลกได้ที่ บ้านผลบอล บนเว็บไซต์ บอลเจลีกบ้านกีฬา