
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 ระหว่าง แอธเลติก บิลเบา 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ 2/5/68 – บ้านกีฬา
ศึก ยูฟ่ายูโรปาลีก 2025 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม แอธเลติก บิลเบา ถึงสเปนแบบไร้ปราณี 3-0 โดยเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่กดเบิ้ลใส่เจ้าถิ่น ในเกมที่ “ปีศาจแดง” คุมเกมแบบเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นจนจบ บ้านกีฬา เกาะติด ผลบอลสด นาทีต่อนาที และนี่คือบทสรุปหลังเกมสุดมัน
เริ่มเกมครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โหมเกมรุกตั้งแต่ต้นด้วยการครองบอลอย่างเหนือชั้น จนมาถึงนาทีที่ 30 คาเซมิโร่ ยิงจังหวะต่อเนื่องจากการประสานงานของ มานูเอล อูการ์เต เข้าประตูให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น นาทีที่ 34 ราสมุส ฮอยลุนด์ ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 ความวุ่นวายมาเยือนเจ้าถิ่นในนาทีที่ 35 เมื่อ ดานี่ วิเวียน โดนใบแดงไล่ออกจากสนามจากการทำฟาวล์แบบมืออาชีพทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ก่อนหมดครึ่งแรกนาที 45 ปีศาจแดงจัดการลงดาบปิดจ็อบจากจังหวะจ่ายทะลุของ อูการ์เต ให้ บรูโน่ หลุดเข้าไปยิงด้วยความเยือกเย็นเป็นประตูที่สองของตัวเองและประตูที่สามของทีม จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่างถึง 3-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ดเน้นคุมเกมลดความเสี่ยงแต่ยังสร้างโอกาสได้มากกว่า ด้านบิลเบาพยายามตั้งรับแน่นและรอสวนกลับแต่ด้วยการเล่นที่เหลือ 10 คนทำให้ไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเยือนได้ สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมด้วยชัยชนะของแมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 กุมความได้เปรียบก่อนไปเล่นนัดที่สองในบ้านตัวเอง
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
แอธเลติก บิลเบา (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: ฆูเลน อากิเรซาบาลา
กองหลัง: ยูริ เบร์ชิเช่, ดานี่ วิเวียน, เยราย อัลบาเรซ, ออสการ์ เด มาร์กอส (C)
กองกลางตัวรับ: มิเกล ซานนาเด, ออยเอร์ ซาร์ราเอตา
กลางรุก: อเล็กซ์ เบเรนเกร์, มิเกล ฆาเรกีซาร์, นิโก้ วิลเลียมส์
หน้าเป้า: อินากี้ วิลเลียมส์
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง
อันโดนี่ โกโรซาเบล (แทน เด มาร์กอส 42’)
ไอตอร์ ปาเรเดส (แทน เบเรนเกร์ 42’)
เบญาต ปราโดส (แทน กาลาเรต้า 46’)
อูไน โกเมซ (แทน นิโก้ วิลเลียมส์ 79’)
อัลบาโร่ ฌาลโล่ (แทน อินากี้ วิลเลียมส์ 87’)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู: อ็องเดร โอนาน่า
กองหลัง: วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลูคัส โยโร
วิงแบ็ค: นุสแซร์ มาซราอุย, แพทริค ดอร์กู
กองกลางตัวกลาง: มานูเอล อูการ์เต้, คาเซมิโร่
กลางรุก: อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส (C)
หน้าเป้า: ราสมุส ฮอยลุนด์
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง
มัทไธส์ เดอลิกต์ (แทน แม็คไกวร์ 65’)
เมสัน เมาท์ (แทน อูการ์เต้ 65’)
ลุค ชอว์ (แทน มาซราอุย 74’)
อมาด ดิยัลโล่ (แทน ดอร์กู 84’)
โคบี้ ไมนู (แทน การ์นาโช่ 84’)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองจากแผนการเล่นและการเคลื่อนบอลของทั้งสองทีม วิเคราะห์บอล ได้ชัดเจนว่าเกมนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหนือกว่าทุกมิติ ทั้งแผน 3-4-2-1 ที่เปิดโอกาสให้บรูโน่ยืนอิสระในแดนกลางสร้างสรรค์เกม และการประสานงานระหว่างคาเซมิโร่กับอูการ์เตที่ช่วยควบคุมจังหวะเกมได้ดีเยี่ยม ขณะที่บิลเบาในแผน 4-2-3-1 แทบไม่ได้บอลเลยในพื้นที่สุดท้ายเนื่องจากโดนเพรสซิ่งสูงตลอดทั้งเกม และการเสียผู้เล่นจากใบแดงก็ยิ่งตัดโอกาสการกลับมาในเกม
สถิติการแข่งขัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองบอลถึง 73% เทียบกับบิลเบาที่มีเพียง 27% ตลอดทั้งเกม ทีมเยือนจ่ายบอลมากถึง 631 ครั้งและแม่นยำถึง 89% เทียบกับเจ้าถิ่นที่จ่ายไปเพียง 228 ครั้งด้วยความแม่นยำแค่ 70% นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสยิงทั้งหมด 14 ครั้ง ตรงกรอบ 7 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 3 ประตู ขณะที่บิลเบามีโอกาสยิงเพียง 9 ครั้ง และตรงกรอบแค่ 3 การฟาวล์ของบิลเบายังมากถึง 19 ครั้ง สะท้อนถึงความกดดันจากการไล่บอลตลอดเวลา และโดนใบแดง 1 ใบในจังหวะสำคัญ
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 30′ แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 0-1 จาก คาเซมิโร่
⚽ 34′ แมนฯ ยูไนเต็ดได้จุดโทษ ฮอยลุนด์โดนทำฟาวล์
🟥 35′ ดานี่ วิเวียน (แอธฯ บิลเบา) โดนใบแดงจากจังหวะฟาวล์รุนแรง
⚽ 37′ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สังหารจุดโทษเข้าไป 0-2
⚽ 45′ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงประตูที่สองของตัวเองจากการจ่ายของอูการ์เต้ 0-3
🔁 42′ บิลเบาเปลี่ยนตัวส่ง โกโรซาเบล และ ปาเรเดส ลง
🔁 46′ บิลเบาส่ง ปราโดส ลงแทน กาลาเรต้า
🔁 65′ แมนฯ ยูไนเต็ดเปลี่ยนแม็กไกวร์กับอูการ์เต้ออก ส่งเดอลิกต์และเมาท์ลง
🔁 74′ แมนฯ ยูไนเต็ดส่ง ลุค ชอว์ แทน มาซราอุย
🔁 79′ บิลเบาส่ง โกเมซ ลงแทน นิโก้ วิลเลียมส์
🔁 84′ แมนฯ ยูไนเต็ดส่ง ดิยัลโล่ และ ไมนู
🔁 87′ บิลเบาส่ง ฌาลโล่ ลงท้ายเกม
🟨 ใบเหลือง: เบร์ชิเช่, อูไน ซิม่อน (บิลเบา), เมาท์, การ์นาโช่, โยโร (แมนฯ ยูไนเต็ด)
Player of the Match
บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือหัวใจของชัยชนะในเกมนี้อย่างแท้จริง เขามีเรตติ้งสูงสุดถึง 9.6 พร้อมยิง 2 ประตู (1 จุดโทษ) และเคลื่อนเกมในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม เชื่อมเกมกับเพื่อนราบรื่นทุกจังหวะ สร้างโอกาสให้ทีมได้มากมาย และเป็นผู้นำเกมในสนามอย่างแท้จริง
สถานการณ์ในตารางคะแนน
แม้รายการนี้จะไม่ใช่ลีกใน แต่ผลการแข่งขันในยูโรปาลีกนัดนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกุมความได้เปรียบมหาศาลก่อนกลับไปเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ดในนัดที่สอง ขณะที่แอธเลติก บิลเบาต้องทำถึง 3 ประตูหากหวังต่อเวลาหรือกลับมาชนะ ซึ่งดูจะเป็นภารกิจที่ยากลำบากอย่างมาก
การแข่งขันนัดถัดไป
ตามโปรแกรม ตารางบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวยกพลบุกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ในศึกพรีเมียร์ลีก วันที่ 4 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านรับมือแอธเลติก บิลเบา ในนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศยูโรปาลีก วันที่ 9 พฤษภาคม ส่วนบิลเบาจะลงเล่นลาลีกานัดต่อไปพบกับ เรอัล โซเซียดาด ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
ติดตาม ผลบอลสด และทุกความเคลื่อนไหวของยูฟ่ายูโรปาลีกที่ บ้านผลบอล ผ่านการรายงานสดของ บ้านกีฬา แบบครบ จบในที่เดียว!