
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-2 คริสตัล พาเลซ วันนี้ 12/4/68 – บ้านกีฬา
เกมนี้ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม บ้านของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นเวทีโชว์คลาสของจอมทัพเบลเยียม เควิน เดอ บรอยน์ หลังพาทีมระเบิดฟอร์มแซงชนะ คริสตัล พาเลซ 5-2 แบบสุดมันส์ในศึก พรีเมียร์ลีก 2025 และแน่นอนว่า ผลบอลสด นัดนี้สร้างความกระเพื่อมในตารางคะแนนไม่น้อย โดยเฉพาะโซนบนที่เบียดกันแบบหายใจรดต้นคอ
ครึ่งแรกเริ่มด้วยช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นตั้งแต่นาทีที่ 8 เมื่อ เอเบเรชี เอเซ่ หลุดมากดประตูให้ทีมเยือนนำก่อน 0-1 ตามด้วยลูกโขกของ คริส ริชาร์ดส์ นาทีที่ 21 ทิ้งห่างเป็น 0-2 อย่างเหลือเชื่อ แต่ซิตี้ไม่ยอมง่าย ๆ พลิกสถานการณ์คืนมาอย่างรวดเร็วจากลูกยิงสุดคมของ เดอ บรอยน์ ในนาทีที่ 33 และ โอมาร์ มาร์มุช ตามตีเสมอเป็น 2-2 ในนาทีที่ 36 ทำให้เกมกลับมาตึงเครียดอีกครั้งก่อนจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังคือช่วงเวลาแห่งการคัมแบ็คของทีมเจ้าบ้าน มาเตโอ โควาชิช ซัดประตูให้ซิตี้แซงนำ 3-2 ในนาทีที่ 47 ก่อนที่ เจมส์ แมคอะที กับ นิโก โอเรลลี่ย์ จะบวกเพิ่มอีกคนละลูกในนาทีที่ 56 และ 79 ปิดเกมสกอร์ขาดลอย 5-2 ท่ามกลางเสียงเฮลั่นทั้งสนาม
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1)
-
ผู้รักษาประตู: เอแดร์ซอน (6.8)
-
กองหลัง: ลูอิส (7.0), รูเบน ดิอาส (6.5), กวาร์ดิโอล (7.2), โอเรลลี่ย์ (7.5)
-
กองกลางตัวรับ: โควาชิช (7.9), กุนโดกัน (6.3)
-
กองกลางตัวรุก: แมคอะที (6.8), เดอ บรอยน์ (8.8), กอนซาเลซ (7.1)
-
กองหน้า: มาร์มุช (7.2)
สำรองที่ลงสนาม:
สเตฟาน ออร์เตก้า (71′), ออสการ์ บ็อบบ์ (82′), ซาวินโญ่ (82′), แจ็ค กรีลิช (87′), เฌเรมี่ โดกู (87′)
นักเตะเด่น: เควิน เดอ บรอยน์, มาเตโอ โควาชิช, โอเรลลี่ย์
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1)
-
ผู้รักษาประตู: ดีน เฮนเดอร์สัน (5.8)
-
กองหลัง: ริชาร์ดส์ (7.5), ลาครัวซ์ (6.1), มูญอซ (6.4)
-
กองกลาง: มิทเชลล์ (6.2), เลอร์มา (6.4), วอร์ตัน (6.8), ซาร์ (6.3)
-
กองกลางตัวรุก: เอเซ่ (7.2), คามาดะ (6.1)
-
กองหน้า: มาเตต้า (6.6)
สำรองที่ลงสนาม:
วิล ฮิวจ์ส (46′), เบน ชิลเวลล์ (63′), นาธาเนียล ไคลน์ (63′), จัสติน เดเวนนี่ (80′), มาทูส ฟรานซ่า (80′)
นักเตะเด่น: คริส ริชาร์ดส์, เอเบเรชี เอเซ่
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในแง่ของแท็กติกและการวิเคราะห์เกม วิเคราะห์บอล นัดนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของแนวทางที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาเลือกใช้ในระบบ 4-2-3-1 ที่มุ่งเน้นการครองบอลผ่านแดนกลางเป็นหลัก โดยมีโควาชิชและเดอ บรอยน์เป็นหัวใจสำคัญ ขณะที่การเติมเกมรุกของฟูลแบ็กอย่างโอเรลลี่ย์และลูอิส ช่วยเปิดพื้นที่ด้านข้างได้ดี ในขณะที่พาเลซเลือกใช้ระบบ 3-4-2-1 หวังเน้นการโต้กลับเร็วผ่านเอเซ่และคามาดะ แต่เมื่อโดนกดดันหนักในครึ่งหลัง ความผิดพลาดก็เริ่มปรากฏ จนกลายเป็นฝันร้ายของแนวรับ
สถิติการแข่งขัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นตลอดทั้งเกมด้วยการครองบอลมากถึง 68% และสร้างสรรค์โอกาสยิงถึง 21 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้ง เทียบกับพาเลซที่ยิงได้เพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้งเท่านั้น ทีมของเป๊ปผ่านบอลไปถึง 741 ครั้ง และมีความแม่นยำสูงถึง 90% ในขณะที่พาเลซผ่านบอลแค่ 341 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 81% ด้านเกมรับ แมนฯ ซิตี้เสียฟาวล์เพียง 10 ครั้ง ใบเหลือง 2 ใบ ขณะที่พาเลซเสียถึง 16 ฟาวล์ และโดนใบเหลือง 3 ใบ พาเลซยังได้เตะมุมมากกว่าที่ 4 ครั้ง เทียบกับของซิตี้เพียง 1 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 8′ พาเลซขึ้นนำ 0-1 โดย เอเบเรชี เอเซ่ (แอสซิสต์: อิสมาเอล ซาร์)
⚽ 21′ คริส ริชาร์ดส์ โหม่งพาเลซหนี 0-2 (แอสซิสต์: อดัม วอร์ตัน)
⚽ 33′ เดอ บรอยน์ ซัดตีไข่แตกให้ซิตี้ 1-2
⚽ 36′ มาร์มุช ตีเสมอให้ซิตี้ 2-2 (แอสซิสต์: กุนโดกัน)
⚽ 47′ โควาชิช ยิงแซงให้ซิตี้นำ 3-2 (แอสซิสต์: เดอ บรอยน์)
⚽ 56′ แมคอะที ยิงเพิ่มให้ซิตี้ 4-2
⚽ 79′ โอเรลลี่ย์ ยิงปิดกล่องให้ซิตี้ 5-2
🟨 ใบเหลือง: คามาดะ 31′, กอนซาเลซ 40′, แมคอะที 68′, เลอร์มา 90+4
🔄 เปลี่ยนตัวสำคัญ: ออร์เตก้า แทน เอแดร์ซอน 71′, ฟรานซ่า แทน เอเซ่ 80′
Player of the Match
เควิน เดอ บรอยน์ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ไปครองอย่างไร้ข้อกังขา ด้วยเรตติ้งสูงถึง 8.8 จากการยิง 1 แอสซิสต์ 1 และควบคุมเกมแดนกลางอย่างเหนือชั้น การผ่านบอลแม่นยำ วิสัยทัศน์เฉียบคม กลายเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ซิตี้กลับมาครองเกมได้หลังเสียสองประตูแรก
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับแต้มเพิ่มเป็น 55 คะแนนจาก 32 นัด ยึดอันดับ 4 ต่อไป พร้อมเบียดบี้หัวตารางที่ยังมีลุ้นพื้นที่ยุโรปเต็มตัว ขณะที่ คริสตัล พาเลซ ยังคงมี 43 แต้มจาก 31 นัด รั้งอันดับ 12 และต้องรีบกลับมาเก็บแต้มให้ได้เพื่อความปลอดภัยในช่วงท้ายฤดูกาล
การแข่งขันนัดถัดไป
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังคว้าชัยเหนือคริสตัล พาเลซแบบสุดมัน 5-2 โปรแกรมนัดถัดไปของพวกเขายังคงเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์กในวันที่ 19 เมษายน เวลา 21:00 น. ก่อนจะเตรียมตัวเล่นรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 27 เมษายน เวลา 22:30 น. ใครไม่อยากพลาดเกมใหญ่แบบนี้ รีบเปิด ตารางบอล จองเวลาไว้ล่วงหน้าได้เลย
ด้าน คริสตัล พาเลซ ที่พ่ายเรือใบในนัดล่าสุด ยังคงมีงานหนักรออยู่เช่นกัน โดยจะต้องออกไปเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันที่ 17 เมษายน เวลา 01:30 น. และหลังจากนั้นเพียง 2 วัน จะได้กลับมาเปิดบ้านพบ บอร์นมัธ ในวันที่ 19 เมษายน เวลา 21:00 น. สองแมตช์ในระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้อาจส่งผลต่ออันดับในตาราง ต้องจับตาจาก ตารางบอล ว่าอินทรีผงาดฟ้าจะมีแต้มติดไม้ติดมือหรือไม่
ติดตามผลบอลสดและความมันส์ของ พรีเมียร์ลีก ได้ที่ บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
ใครที่ไม่อยากพลาดทุกความเคลื่อนไหวของพรีเมียร์ลีกแบบอัปเดตเรียลไทม์ พร้อมวิเคราะห์เกมร้อนแรงและเรื่องราววงในแบบเจาะลึก ต้องติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา ที่เดียวครบทุกอารมณ์ลูกหนัง!