โดนเร็วไม่ใช่ปัญหา! เพราะ เซเรโซ่ โอซาก้า แสดงให้เห็นถึงความเก๋าและความคมแบบทีมใหญ่ เมื่อเปิดบ้านรัวคืนทีละเม็ด ไล่บดเอาชนะ ชิมิสึ เอส-พัลส์ แบบสุดระทึก 4-2 ในเกม เจลีก 1 ฤดูกาล 2025 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมส่งท้ายก่อนพักเบรกทีมชาติได้อย่างสวยหรู โดยมี ลูคัส เฟอร์นานเดส โชว์คลาสระดับพระกาฬ ยิง 1 จ่าย 2 พาทีมเก็บสามแต้มอย่างเร้าใจ
เกมนี้จัดขึ้นที่สนามโยโดโกะ ซากุระ สเตเดียม โดยเจ้าถิ่น เซเรโซ่ ภายใต้การคุมทัพของ อาเธอร์ ปาปาส มี 26 แต้มจาก 19 นัด ฟอร์ม 2 เกมล่าสุดไม่แพ้ใคร เก็บมาแล้ว 4 แต้มต่อเนื่อง แม้จะไม่มีชื่อของ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่บินไปรับใช้ทีมชาติไทยในศึกฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายน แต่ข่าวดีคือเกมนี้เป็นนัดอำลาทีมของ โซตะ คิตาโนะ มิดฟิลด์วัย 20 ปี ก่อนย้ายไปยุโรปกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเจ้าตัวได้รับเกียรติสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสนาม
ทางฝั่ง ชิมิสึ เอส-พัลส์ ที่มีแต้มตามหลังอยู่ 1 คะแนนจากการลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด โดยคุมทัพโดย ทาดาฮิโระ อากิบะ กำลังคึกจากชัยชนะเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเชือดแชมป์เก่า วิสเซล โกเบ 3-2 หลังจากไม่ชนะใครมา 5 นัดรวด เกมนี้ยังนำมาโดยหัวหอกตัวเก่ง โคยะ คิตากาวะ ที่ซัดไปแล้ว 8 ประตูในฤดูกาลนี้
เกมเริ่มมาแค่ 4 นาที ชิมิสึช็อกแฟนเจ้าบ้านด้วยประตูนำ 1-0 จากลูกยิงฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลาโดย เรออน ยามาฮาระ ซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม แม้ โกกิ ฟูกูอิ นายทวารเซเรโซ่จะพุ่งสุดตัวแล้วก็ยังไม่อาจปัดทัน
นาที 10 ลูคัส เฟอร์นานเดส ฉกบอลจากแดนตัวเองลากขึ้นมาก่อนแทงให้ โซตะ คิตาโนะ หลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วโดนเบียดล้มลง กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แม้ VAR จะตรวจสอบก็ไม่เห็นแย้ง คิตาโนะลุกขึ้นมายิงเองแต่กลับยิงไปติดเซฟของ ยูยะ โอกิ และจังหวะตามซ้ำก็ถูกกองหลังเคลียร์ออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
แต่จากลูกเตะมุมต่อเนื่อง เซเรโซ่ก็เอาคืนได้ทันควัน ลูคัส เฟอร์นานเดส เปิดเข้าหัว นิโกะ ทาคาฮาชิ ที่โหม่งเข้าไปไม่พลาด สกอร์ขยับเป็น 1-1 ในนาทีที่ 13
นาที 18 ลูคัสยังไม่หยุดผลงาน เปิดเตะมุมอีกลูกเข้าไปให้ โมโตฮิโกะ นากาจิมะ สอดมาโขกเน้นๆ ตุงตาข่าย พาเซเรโซ่แซงนำ 2-1 ก่อนจะมีเหตุการณ์ VAR ช่วยตัดสินจังหวะที่ ราฟาเอล ราเตา หลุดเข้าไปยิงได้ในนาที 44 แต่ถูกริบคืนเพราะล้ำหน้า ทำให้หมดครึ่งแรกเจ้าถิ่นยังนำอยู่ 2-1
เข้าสู่ครึ่งหลังนาที 54 เซเรโซ่ยังไม่ยั้ง จากการต่อบอลไหลลื่นตั้งแต่แดนหลัง บอลมาถึงคิตาโนะแทงต่อให้ ราเตา ที่วิ่งฉีกจากครึ่งสนามพาบอลไปซัดหน้ากรอบโทษแบบใจเด็ดส่งบอลเสียบตาข่าย เป็นประตู 3-1 อย่างสุดเฉียบ
นาที 70 ลูคัส เฟอร์นานเดส ปิดท้ายการแสดงระดับมาสเตอร์คลาสด้วยการลากไปปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลโค้งเสียบเสาเข้าไปอย่างหมดจด เซเรโซ่นำห่าง 4-1
ช่วงท้ายเกมนาที 89 ริกุ กุนจิ ได้ขึ้นโขกจ่อๆ ให้ทีมเยือนชิมิสึไล่มา 2-4 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+6 เซเรโซ่เกือบได้เม็ดที่ 5 จาก เคนโกะ ฟูรุยามะ แต่ VAR ชี้ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จบเกม เซเรโซ่ โอซาก้า คว้าชัยชนะอย่างสุดมัน 4-2
ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงเพิ่มขวัญกำลังใจให้ทัพซากุระสีชมพู แต่ยังเป็นการอำลาสุดตราตรึงของโซตะ คิตาโนะ ที่ทำผลงานได้อย่างสมศักดิ์ศรีกัปตันทีม
สำหรับโปรแกรมนัดถัดไปของ เซเรโซ่ โอซาก้า จะบุกเยือน เอฟซี โตเกียว วันที่ 14 มิถุนายน ส่วนทาง ชิมิสึ เอส-พัลส์ จะกลับไปเล่นในบ้านพบกับ กัมบะ โอซาก้า ในวันที่ 15 มิถุนายน โดยทั้งสองทีมยังต้องเดินหน้าสู้ศึก เจลีก 1 อย่างเข้มข้นหลังพักเบรกทีมชาติ
ติดตามผลบอลสด และข่าวเจลีกแบบเข้มข้นทุกแมตช์ได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
