ในภารกิจไล่ล่าโควตาเลื่อนชั้นกลับสู่เวทีลีกสูงสุดของญี่ปุ่นอีกครั้ง จูบิโล่ อิวาตะ สโมสรดังจากศึก เจลีก 2 ฤดูกาล 2025 ไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เดินหน้าเสริมขุมกำลังต่อเนื่อง ล่าสุดจัดการเปิดตัว แยน ฟาน เดน เบิร์กซ์ กองหลังมากประสบการณ์ชาวเบลเยียมวัย 30 ปี เข้ามาเสริมแนวรับอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างทีมที่แข็งแกร่งพอจะทะยานกลับสู่เวที เจลีก 1
ปัจจุบันจูบิโล่ อิวาตะ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ “ฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล กองหน้าทีมชาติไทย กำลังอยู่ในตำแหน่งที่ต้องเร่งเครื่องอย่างหนัก หลังผ่านไปแล้ว 18 นัด พวกเขารั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนน มีอยู่ 29 แต้ม จากผลงานชนะ 8 เสมอ 5 และแพ้ 5 นัด โดยตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง เจฟ ยูไนเต็ด ชิบะ อยู่ถึง 8 คะแนน ซึ่งหากหวังจบฤดูกาลด้วยการคว้าสิทธิ์กลับไปเล่นในลีกสูงสุดให้ได้อีกครั้ง การเสริมทัพครั้งนี้จึงมีความหมายอย่างยิ่ง
สำหรับ แยน ฟาน เดน เบิร์กซ์ เขาคือนักเตะที่เคยผ่านเวทีฟุตบอลยุโรปมาอย่างโชกโชน เริ่มต้นอาชีพในประเทศบ้านเกิดกับทีมอย่าง เบียร์ชอต, โอเอช ลูเวิน และ เกนท์ ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับ เบรดา ทีมในลีกรองของเนเธอร์แลนด์ และทำผลงานได้ดีต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งทั้งเกมรับและเกมบุก ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันแต่มีวินัยสูง ทำให้เจ้าตัวเป็นที่หมายตาของหลายทีมในเอเชีย และสุดท้ายจูบิโล่ก็ปาดหน้าคว้าลายเซ็นมาครองได้สำเร็จ
แยน ได้เปิดใจผ่านสโมสรหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้มาร่วมงานกับสโมสรแห่งนี้ และถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่าง จูบิโล่ อิวาตะ ผมรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับสมาชิกของสโมสร ทุกคนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้น ซึ่งทำให้ผมมั่นใจว่าผมตัดสินใจไม่ผิด”
เจ้าตัวยังเผยถึงแรงจูงใจที่เลือกย้ายมาญี่ปุ่นว่า “ผมฝันมาตลอดว่าจะได้ผจญภัยนอกยุโรป และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิต ผมอายุ 30 ปีแล้ว และอยากเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นจุดหมายที่น่าสนใจกว่าที่อื่น เช่น ซาอุดีอาระเบีย หรือจีน ผมรู้สึกว่าเจลีกมีการแข่งขันที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยแพสชัน ซึ่งตรงกับสไตล์ของผมที่สุด”
การมาของแยนไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแนวรับของจูบิโล่เท่านั้น แต่ยังสร้างความคึกคักให้กับทีมในช่วงกลางฤดูกาล ที่ต้องการโมเมนตัมต่อเนื่องเพื่อไต่ขึ้นสู่กลุ่มหัวตาราง โดยเจ้าตัวจะประสานงานกับแนวรับชุดเดิมและคาดว่าจะเข้ามาช่วยสร้างสมดุลเกมรับที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะได้ลงสนามเคียงข้างนักเตะไทยอย่าง ปรเมศย์ อาจวิไล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนของทีมในฤดูกาลนี้
จูบิโล่ อิวาตะ ภายใต้การบริหารและมองการณ์ไกลของทีมงาน กำลังเดินเกมอย่างรัดกุมและไม่ประมาท พวกเขาเลือกลงทุนกับนักเตะต่างชาติที่มีคุณภาพสูงและพร้อมปรับตัวเข้าสไตล์การเล่นในญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว การมาของแยนจึงไม่ใช่เพียงแค่การเสริมตัวผู้เล่น แต่คือการส่งสัญญาณถึงความจริงจังของสโมสรในภารกิจคืนชีพสู่ลีกสูงสุด
หากจูบิโล่ยังสามารถรักษาฟอร์มและมีการปรับแต่งทีมอย่างแม่นยำเช่นนี้ต่อไป โอกาสที่จะเห็นพวกเขากลับไปโลดแล่นใน เจลีก 1 ในฤดูกาลหน้าก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง
ติดตามความเคลื่อนไหวของฟุตบอลญี่ปุ่นและอัพเดตความร้อนแรงของดาวเตะไทยในแดนปลาดิบได้ตลอดทุกวันทาง บอลเจลีกบ้านกีฬา
