
“ฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล กองหน้าทีมชาติไทยวัย 26 ปี ผู้สวมบทจอมล่าตาข่ายของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตัดสินใจออกผจญภัยบทใหม่ในชีวิตค้าแข้งด้วยการย้ายไปร่วมทีม จูบิโล่ อิวาตะ สโมสรชื่อดังใน เจลีก 2 ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเริ่มต้นฝึกซ้อมกับต้นสังกัดใหม่ทันทีหลังเดินทางถึงแดนปลาดิบ โดยล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจแบบหมดเปลือกกับสื่อญี่ปุ่นเกี่ยวกับการปรับตัว, ความฝัน, จุดแข็ง และเป้าหมายในลีกแดนซามูไร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แรงกล้าของแข้งจากเมืองไทยรายนี้
โดยปรเมศย์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 และได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม จูบิโล่ อิวาตะ เป็นครั้งแรกในวันนั้นทันที ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตการค้าแข้ง และเขาเผยว่าบรรยากาศในวันแรกนั้นอบอวลไปด้วยพลังงานจากแฟนบอลจำนวนมากที่เดินทางมาชมการซ้อม เปิดประสบการณ์ที่น่าจดจำตั้งแต่ก้าวแรกบนแผ่นดินญี่ปุ่น
“การฝึกซ้อมสนุกมากครับ แฟนๆ ของทีมมากันเยอะและให้การต้อนรับดีมากๆ ทำให้รู้สึกอบอุ่นตั้งแต่วันแรก” ฟร้องซ์เปิดเผยอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่มีต่อ ฟุตบอลญี่ปุ่น ปรเมศย์กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาศึกษาเรื่องนี้มาบ้างก่อนตัดสินใจย้ายทีม และยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับฟุตบอลอย่างสูง พร้อมยืนยันว่าตนเองรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมลูกหนังที่เข้มข้นเช่นนี้
ในด้านของจุดแข็ง ปรเมศย์ตอบอย่างมั่นใจว่า “จุดเด่นของผมคือการตัดสินใจหน้าประตู ผมรู้ว่าต้องอยู่ตรงไหนและจบสกอร์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด” ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ทีมใหม่ของเขาต้องการอย่างยิ่งในศึกเจลีก 2 ที่ขึ้นชื่อเรื่องแท็คติกที่เข้มข้นและเกมรับที่เหนียวแน่น
เมื่อพูดถึง สภาพร่างกายและความพร้อม เจ้าตัวไม่ลังเลที่จะบอกว่าแม้เพิ่งเดินทางมาไม่นาน แต่ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมสำหรับการแข่งขันทันที “ผมคิดว่าผมสามารถลงเล่นได้เลย ความเร็วของฟุตบอลไทยกับที่นี่ไม่ได้ต่างกันมากนัก แม้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมต้องเรียนรู้ แต่ถ้าโค้ชให้โอกาส ผมพร้อมจะลงสนามครับ”
หนึ่งในคำถามที่ถูกสื่อญี่ปุ่นหยิบยกขึ้นมาอย่างน่าสนใจ คือการเปรียบเทียบกับรุ่นพี่นักเตะไทยที่เคยโลดแล่นใน เจลีก อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซึ่งปรเมศย์ตอบด้วยความถ่อมตัวแต่แฝงไปด้วยแรงผลักดันว่า เขาอยากเติบโตในแบบของตัวเอง และใช้ช่วงเวลานี้ในการเรียนรู้ให้มากที่สุด พร้อมเผยว่าไอดอลในใจของเขาคือ ธีรศิลป์ แดงดา ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย ที่เคยฝากฝีเท้าไว้ในลีกญี่ปุ่นกับทีมชิมิสุ เอส-พัลส์
อีกหนึ่งประเด็นที่เรียกรอยยิ้มจากสื่อญี่ปุ่นคือการเปิดเผยว่า ทาโร่ มิซากิ ตัวละครจากอนิเมะชื่อดังอย่าง “กัปตันซึบาสะ” เป็นแรงบันดาลใจในวัยเด็กของเขา “ผมชอบมากครับ ตอนเด็กๆ ผมติดการ์ตูนเรื่องนี้จนอยากเป็นนักฟุตบอลให้ได้เหมือนพวกเขา ผมยังจำความรู้สึกตอนดูมิซากิลงสนามได้เลย และนั่นคือหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญที่พาผมมาถึงวันนี้”
จากการตอบคำถามอย่างลึกซึ้งและจริงใจของ ฟร้องซ์-ปรเมศย์ อาจวิไล ทำให้แฟนบอลญี่ปุ่นเริ่มจับตามองนักเตะไทยรายนี้ด้วยความสนใจ และหากเขาสามารถปรับตัวเข้ากับเกมของเจลีกได้ในเร็ววัน กองหน้าจากเมืองทอง ยูไนเต็ด รายนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในแข้งไทยที่สร้างชื่อในแดนอาทิตย์อุทัยได้เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่างชนาธิปและธีรศิลป์
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ฟร้องซ์-ปรเมศย์ กับบททดสอบบทใหม่ในเจลีก 2 ได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา เจอกันอีกครั้งกับทุกข่าวเด่นของนักเตะไทยในเวทีระดับเอเชีย