เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือมากประสบการณ์ของ โอลิมปิก ลียง ออกมาเปิดเผยความรู้สึกอย่างดุเดือด หลังถูก สันนิบาตฟุตบอลอาชีพของฝรั่งเศส (แอลแอฟเป) ลงโทษแบนยาวถึง 9 เดือน จากการคุมทีมข้างสนาม โดยเขายืนยันว่า บทลงโทษนี้รุนแรงเกินไป และไม่มีความยุติธรรมอย่างชัดเจน พร้อมประกาศสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเกม ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่ ลียง เปิดบ้านเอาชนะ แบรสต์ ไปได้ 2-1 โดยระหว่างเกม ฟอนเซก้า ได้เข้าไปโวยวายผู้ตัดสินด้วยคำพูดรุนแรงระยะประชิด แม้ว่าเขาจะกล่าวขอโทษทันทีหลังจบเกม แต่ แอลแอฟเป กลับมองว่าการกระทำนี้ไม่เหมาะสมและ สั่งแบนยาวถึง 9 เดือน นอกจากนี้เขายังถูกห้ามเข้าห้องแต่งตัวในวันที่มีการแข่งขันไปจนถึงช่วงกลางเดือนกันยายนด้วย เรียกได้ว่าเป็นบทลงโทษที่หนักหนาสาหัสสุดๆ ในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส
ฟอนเซก้า เปิดใจถึงสถานการณ์นี้ว่า “ผมพร้อมที่จะสู้ ผมจะไม่มีวันยอมแพ้ ผมมีโอกาสที่จะยื่นอุทธรณ์เพื่อขอความยุติธรรม ผมได้รับการสนับสนุนจากท่านประธานสโมสรเป็นอย่างดี ผมอยากจะพูดแค่ว่าผมโดนแบน 9 เดือน จากเรื่องที่ผมได้ขอโทษไปแล้ว”
เขายังกล่าวถึงความไม่เป็นธรรมที่สื่อบางรายยังคงเสนอข่าวว่าเขา “ทำร้ายร่างกายกรรมการ” ทั้งๆ ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจนว่าเขาไม่ได้สัมผัสตัวผู้ตัดสินเลยแม้แต่น้อย “จริงอยู่ว่าผมพูดจาแบบรุนแรงใส่กรรมการ แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายร่างกายเขา และไม่เคยมีความคิดที่จะทำแบบนั้นด้วย”
นอกจากนี้ ฟอนเซก้า ยังตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของบทลงโทษในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส โดยเขากล่าวว่า “ผมคิดว่าคนที่ตัดสินบทลงโทษนี้คงคิดว่าเขาทำเพื่อภาพรวมของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส แต่ผมต้องเป็นคนที่รับผิดชอบ ผมเห็นว่ามันมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ดูรุนแรงกว่าในลีกเดียวกัน แต่บทลงโทษกลับต่างกันออกไป ซึ่งนั่นมันไม่ยุติธรรมเลย”
เหตุการณ์นี้ทำให้แฟนบอลจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินของ แอลแอฟเป ว่าหนักไปหรือไม่ ในขณะที่ ลียง เองก็เตรียมยื่นอุทธรณ์เพื่อช่วยกุนซือของพวกเขาอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นศึกนอกสนามที่ดุเดือดไม่แพ้การแข่งในสนามเลยทีเดียว
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของ โอลิมปิก ลียง และบทวิเคราะห์เจาะลึกจากนักข่าวกีฬามืออาชีพได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวกีฬาและความมันส์ของวงการฟุตบอลอย่างครบถ้วน
