
ในวันที่ฟุตบอลกลายเป็นธุรกิจมากกว่าความรัก รุด กุลลิท ตำนานลูกหนังชาวดัตช์ ได้ออกมาเปิดโปงความจริงที่สะเทือนใจแฟนบอลสิงห์บลู เมื่อเจ้าของร่วมของสโมสรอย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใคร ทั้งที่เคยเป็นทั้งนักเตะและผู้จัดการทีมของ เชลซี อย่างเต็มภาคภูมิ
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยในรายการชื่อดังของอังกฤษ “The Overlap” ที่จัดโดยอดีตแข้งระดับตำนานอย่าง แกรี่ เนวิลล์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เอียน ไรท์ และ รอย คีน ซึ่งได้รับเกียรติจาก รุด กุลลิท มาร่วมพูดคุยแบบเจาะลึก โดยช่วงหนึ่งของรายการ กลายเป็นฉากที่ช็อกแฟนบอลเชลซีทั่วโลก เมื่อกุลลิทเล่าว่า เขาได้พบกับโบห์ลี่แบบตัวต่อตัว และแนะนำตัวว่า “ผมคือรุด กุลลิท”
สิ่งที่ได้กลับมาคือคำถามจากปากเจ้าของทีมว่า “คุณทำอาชีพอะไรเหรอ?” กุลลิทเผยต่อว่า เขาตอบอย่างสุภาพว่าเคยเป็นนักฟุตบอล และยังเคยทั้ง สวมเสื้อเชลซีในสนาม และ นั่งแท่นผู้จัดการทีม ด้วย ทว่าคำถามต่อมาจากโบห์ลี่กลับยิ่งทำให้ใจหาย “คุณเคยเล่นให้เชลซีเมื่อไหร่? แล้วคุณเคยทำอะไรให้ทีมบ้าง?”
เหตุการณ์นี้สะท้อนอย่างเจ็บลึกถึงสิ่งที่กุลลิทมองว่า “ดีเอ็นเอของสโมสรได้สูญหายไปแล้ว” โดยเฉพาะในยุคของผู้บริหารใหม่ที่มองฟุตบอลเป็นเพียงเครื่องมือการลงทุน ไม่ใช่ความศรัทธาหรือวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน
กุลลิทยืนยันว่า เขาไม่ได้โกรธหรือโทษโบห์ลี่เป็นการส่วนตัว เพราะเข้าใจว่าคนบางกลุ่มอาจไม่รู้จักตำนานในอดีต แต่ที่น่าห่วงคือสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะที่ เชลซี เท่านั้น แต่กำลังลุกลามไปทั่วทั้งวงการฟุตบอลยุโรป
“มันไม่ใช่แค่ที่นี่” กุลลิทกล่าวอย่างเข้มข้น “เรากำลังเห็นหลายสโมสรใหญ่ถูกบริหารด้วยแนวคิดเชิงพาณิชย์มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน, โรม่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแม้แต่ เชลซี เอง หัวใจของทีมมันหายไป พวกเขาไม่ได้เข้าใจว่า การสร้างทีมฟุตบอลมันต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และความรักในเกม”
สำหรับใครที่อาจยังไม่ทราบ รุด กุลลิท คือหนึ่งในนักเตะระดับโลกที่เคยค้าแข้งกับเชลซีในช่วงปี 1995-1998 และกลายเป็นผู้จัดการทีมในช่วงปี 1996-1998 โดยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1996-97 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่พลิกโฉมเชลซีจากทีมกลางตาราง สู่การกลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ในเวทีอังกฤษอีกครั้ง
กุลลิทไม่เพียงแต่เป็นตำนานในสนาม แต่ยังเป็นหนึ่งในคนที่มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างสโมสรในยุคนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะเจ็บปวดเมื่อเห็นสโมสรเก่าถูกบริหารแบบไร้วิญญาณเช่นนี้
และนี่ไม่ใช่เพียงเสียงวิจารณ์ธรรมดา แต่มันคือเสียงเตือนจากคนที่ “เคยอยู่ในสนาม เคยสวมเสื้อทีม และเคยวางแผนจากข้างสนาม” ซึ่งโลกฟุตบอลควรฟังอย่างตั้งใจ ก่อนที่ คำว่า ‘ดีเอ็นเอสโมสร’ จะกลายเป็นแค่ตำนานในหนังสือประวัติศาสตร์
ติดตามข่าววงในฟุตบอลระดับตำนานก่อนใครได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกล่าสุด
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีลุ้นคว้าตัว เลียม ดีแล็ป และ มาเ […]
- อาร์เซนอล เตรียมงบเสริมทัพอย่างน้อย 100 ล้านปอนด์ในซัมเ […]
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ปฏิเสธว่าไม่มีการเผชิญหน้าระหว่างเจ […]
- อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล กำลังแย่งชิงตัว ดีน เฮาเซ่น กอ […]
- มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ มิดฟิลด์ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถู […]
- อาร์เซนอล พร้อมตอบแทนผลงานกองหน้า เลอันโดร ทรอสซาร์ ด้ว […]