
วงการลูกหนังอังกฤษร้อนระอุ! เมื่อ บอนนี่ บลู ดาวดังแห่งแพลตฟอร์ม OnlyFans ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ต้องพบกับเหตุการณ์สุดช็อก หลังถูกเจ้าหน้าที่ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ปฏิเสธไม่ให้เข้าสนาม ซิตี้ กราวนด์ แม้เจ้าตัวจะยืนยันหนักแน่นว่ามีเจตนาเพียงต้องการเข้าชมเกมและสร้างคอนเทนต์เชียร์ทีมเพื่อความบันเทิงและส่งกำลังใจให้กับนักเตะในสนามก็ตาม
บอนนี่ บลู หรือชื่อจริง เทีย เอ็มม่า บิลลิงเกอร์ กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียล หลังออกมาเปิดเผยว่าเธอถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของฟอเรสต์ห้ามเข้าสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ต้นสังกัดเปิดบ้านพบกับ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเธออาจละเมิดกฎของสโมสร และสุดท้ายยังโดนแจ้งว่าจะ ถูกแบนถาวร จากสนามเหย้าแห่งนี้อีกด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังบอนนี่โพสต์ข้อความชวนแฟนคลับผ่านโซเชียลมีเดียว่าเธอจะไปชมเกมของฟอเรสต์ และอยากจะพบปะกับแฟนบอลเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคัก โดยมีแผนจะถ่ายทำคอนเทนต์สุดเซ็กซี่หลังจบเกมเพื่อมอบความสุขให้กับแฟน ๆ ซึ่งเธอยืนยันว่าสิ่งที่เธอจะทำนั้น “ไม่ได้มีเจตนาร้าย” แต่อย่างใด
“ฉันโพสต์ว่า ‘ว่าไงหนุ่มๆ ฉันจะไปดูเกมฟอเรสต์นะ อยากเจอพวกคุณ และอาจจะได้ถ่ายหนังร่วมกันหลังจบแมตช์’ มันก็แค่โพสต์สนุกๆ เท่านั้น” เธอเล่าอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะเสริมว่าตอนแรกเธอคิดว่าเจ้าหน้าที่กำลังให้ความช่วยเหลือ เพราะพาเธอไปอีกทางหนึ่ง “ฉันคิดว่าพวกเขาอาจจะอัปเกรดที่นั่งให้ฉัน หรืออย่างน้อยก็ให้ที่นั่งที่ปลอดภัย… แต่สุดท้าย พวกเขากลับพาฉันออกจากสนาม และบอกว่า ‘คุณจะโดนแบนจากที่นี่ถาวร’ มันทำให้ฉันช็อกมาก”
บอนนี่ บลู ยังวิจารณ์เหตุการณ์นี้ว่าเป็นการ เลือกปฏิบัติต่อคนในอุตสาหกรรมทางเพศ อย่างชัดเจน “ฉันรู้ว่าฉันทำงานในวงการเซ็กซ์ แต่นั่นไม่ใช่อาชญากรรม ฉันตั้งใจจะไปให้กำลังใจนักเตะและทำให้แฟนบอลมีความสุข ฉันคิดว่าคอนเทนต์ของฉันจะช่วยลดการดื่มในสนามได้ด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่ฉันตั้งใจทำเพื่อสโมสร ไม่ใช่ทำร้ายใคร”
ทั้งนี้ บอนนี่เพิ่งตกเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกหลังจากสร้างสถิติสุดอื้อฉาว ด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย มากถึง 1,057 คนในเวลา 12 ชั่วโมง จนถูกแพลตฟอร์ม OnlyFans สั่งแบนคลิปดังกล่าวเนื่องจากละเมิดนโยบายด้านเนื้อหา แม้จะเป็นประเด็นที่เรียกเสียงวิจารณ์ แต่ก็ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกโซเชียลช่วงที่ผ่านมา
ในขณะที่ฝั่งของฟอเรสต์ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่กรณีนี้ก็จุดประเด็นร้อนขึ้นมาในสังคมอีกครั้งว่า เส้นแบ่งระหว่างการ “สร้างสีสัน” กับ “ละเมิดกฎสโมสร” ควรถูกตีความอย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียและคอนเทนต์ออนไลน์กำลังกลืนกินทุกพื้นที่ของวงการกีฬา
แฟนบอลบางกลุ่มก็ออกมาแสดงความเห็นแตกเป็นสองฝั่ง บ้างมองว่าสโมสรมีสิทธิ์ในการรักษาภาพลักษณ์ ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าการแบนเพราะอาชีพของเธอเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม และควรให้สิทธิ์ทุกคนเข้าถึงเกมฟุตบอลอย่างเท่าเทียมกัน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวที่เดือดกว่าสนาม พร้อมข่าววงการฟุตบอลที่เข้มข้นทุกมิติได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา